"ไข้หวัดใหญ่" สายพันธุ์ที่ระบาดหนักในไทย 1 ชนิด 1 สายพันธุ์ดื้อยา
กรมวิทย์ เผยผลการเฝ้าระวังสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ ในไทย 3 สายพันธุ์ ชนิด A(H3N2) มากที่สุดคิดเป็นสัดส่วน 41.14% วัคซีนป้องกันได้ ขณะที่ชนิด A(H1N1) พบยีนบ่งชี้การดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ที่ตำแหน่ง H275Y จำนวน 1 สายพันธุ์
นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สถานการณ์เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบัน ทั่วโลกพบไข้หวัดใหญ่ชนิด A(H3N2) ไข้หวัดใหญ่ชนิด A(H1N1) pdm09 และไข้หวัดใหญ่ชนิด B (Victoria lineage) เป็นสาเหตุของการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ส่วนสถานการณ์การระบาดในประเทศไทย ปัจจุบันพบ
- ไข้หวัดใหญ่ชนิด A(H3N2) มากที่สุดคิดเป็นสัดส่วน 41.14%
- ไข้หวัดใหญ่ชนิด B (Victoria) สัดส่วน 39.64%
- ไข้หวัดใหญ่ชนิด A/H1N1 (pdm09) มีสัดส่วน 19.22%
เมื่อวิเคราะห์สายพันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ในประเทศไทย (1 ตุลาคม 2566 - เมษายน 2567) ด้วยเทคนิค Whole genome sequencing วิเคราะห์ลำดับพันธุกรรมทั้งจีโนม และประเมินความสอดคล้องกับสายพันธุ์วัคซีนที่องค์การอนามัยโลกได้ประกาศใช้ในการผลิตวัคซีนทางซีกโลกเหนือ และซีกโลกใต้ ประจำปี 2567 พบว่า สายพันธุ์ A(H3N2) และ B มีความใกล้เคียงกับสายพันธุ์วัคซีนทั้งจากซีกโลกเหนือ และซีกโลกใต้
สำหรับวัคซีนที่ใช้ทางซีกโลกเหนือจะผลิตและจำหน่ายในตลาดโลก ประมาณเดือนสิงหาคม และจะนำเข้า มาในประเทศไทยประมาณเดือนกันยายน 2567 ดังนั้น ผู้ที่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งแนะนำฉีดก่อนเข้าฤดูฝน จึงต้องใช้วัคซีนทางซีกโลกใต้ ผลิต และจำหน่ายในตลาดโลกก่อน ยังมีผลต่อการป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่พบ ในประเทศไทยถึง 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ A(H3N2) และ B ส่วน A(H1N1) อาจมีภูมิคุ้มกันป้องกันข้ามสายพันธุ์ได้บ้าง
จากการวิเคราะห์ตำแหน่งการกลายพันธุ์บนยีนของเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่พบในประเทศไทยช่วงเดือนตุลาคม 2566 - เมษายน 2567 จำนวน 1,332 ตัวอย่าง โดยอ้างอิงข้อมูลตำแหน่งยีนดื้อยาจากองค์การอนามัยโลกวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ไม่พบยีนบ่งชี้การดื้อยาของเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด A/H3 และ ชนิด B
ส่วนเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด A(H1N1)pdm09 พบยีนบ่งชี้การดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ที่ตำแหน่ง H275Y จำนวน 1 สายพันธุ์ คิดเป็นอัตราการดื้อยา 0.39% ยังไม่พบยีนบ่งชี้การดื้อยากลุ่ม Neuraminidase Inhibitor ชนิดอื่น
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังคงเฝ้าระวัง และติดตามการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่อย่างต่อเนื่อง การตรวจพบยีนดื้อยาที่รวดเร็ว จะเป็นประโยชน์ ต่อแพทย์ในการวางแผนการใช้ยาต้านไวรัสที่เหมาะสม ตลอดจนวางมาตรการ การควบคุมและป้องกันโรคได้อย่างเหมาะสมและทันการณ์
ขอให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี ควบคู่กับการป้องกันตนเองด้วยการล้างมือบ่อยๆ ไม่คลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัด และหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ ที่มีผู้คนแออัด และอากาศถ่ายเทไม่ดี เป็นเวลานานโดยไม่จำเป็น หากสงสัยป่วย แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์