ธนาคารชีวภาพโรคมะเร็ง รพ.รามาธิบดี ต่อยอดรักษาแพทย์แม่นยำเหมาะกับผู้ป่วย
ธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งรามาธิบดี เก็บชิ้นเนื้อมะเร็ง-ปกติ เซรั่ม พลาสมา สารพันธุกรรมดีเอ็นเอ มากกว่า 40,000 ตัวอย่าง จากผู้ป่วยมะเร็งกว่า 4,000 ราย ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 20387: 2018 เป็นแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมขยายการเข้าถึงด้านวิจัยต่อเนื่อง
KEY
POINTS
- ธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งรามาธิบดี (Ramathibodi Tumor Biobank) ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 20387: 2018 ด้านธนาคารชีวภาพเป็นแห่งแรกในประเทศไทย
- ธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งรามาธิบดี รวมตัวอย่างทางคลินิกที่จัดเก็บไว้ตั้งแต่ปี 2557มากกว่า 40,000 ตัวอย่าง จากผู้ป่วยมะเร็งกว่า 4,000 ราย
- ธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งรามาธิบดี สามารถนำไปตรวจทางห้องปฏิบัติคลินิกด้านพยาธิโมเลกุลและจีโนม เพื่อช่วยเลือกการรักษาแบบการแพทย์แม่นยำที่เหมาะสมกับผู้ป่วย
ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นจำนวนมากกว่า 4,800 รายต่อปี ซึ่งการรักษาโรคมะเร็งจัดอยู่ในกลุ่มโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง รวมทั้งแนวทางการรักษาโรคมะเร็งแบบการแพทย์แม่นยำ จำเป็นต้องใช้หลักฐานทางการแพทย์ที่ได้จากการศึกษาวิจัยในห้องปฏิบัติการและในระดับคลินิก ซึ่งใช้เงินงบประมาณในการวิจัยสูง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งสูงขึ้น
เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2567 ที่ห้องประชุมอรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชั้น 5 อาคารสิริกิติ์ มีการแถลงข่าว “ธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งรามาธิบดี (Ramathibodi Tumor Biobank) ศูนย์มะเร็ง ภายใต้กลุ่มศูนย์เพื่อความเป็นเลิศ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 20387: 2018 ด้านธนาคารชีวภาพเป็นแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมขยายการเข้าถึงด้านวิจัยต่อเนื่องในทุกระดับ”
มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ศักยภาพของธนาคารชีวภาพ
นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ปัจจุบัน มีความตื่นตัวในการจัดตั้งธนาคารชีวภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชน ในด้านการแข่งขันและการเปรียบเทียบการบริการ นอกเหนือจากคุณภาพสิ่งจัดเก็บ วิธีการเก็บรักษา การประกันคุณภาพ มีการตรวจสอบย้อนกลับ และการจัดจำหน่ายตัวอย่าง
ซึ่งการได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 20387 เป็นตัวบ่งชี้ศักยภาพของธนาคารชีวภาพ (biobank) ที่ง่ายและชัดเจนต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงผู้บริจาค ผู้ใช้บริการ และนักลงทุน ถึงความสามารถและความน่าเชื่อถือ เพิ่มความมั่นใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อความสามารถของธนาคารชีวภาพในการให้บริการที่ได้มาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ และเป็นไปตามข้อกำหนดที่สำคัญของนานาประเทศ
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นหน่วยงานที่ให้การรับรองมาตรฐานธนาคารชีวภาพ ISO 20387 อ้างอิงจากมาตรฐานของ Asia Pacific Accreditation Cooperation (APAC) ในประเทศไทย โดยจะมีการตรวจติดตามการดำเนินการตามมาตรฐาน ISO 20387 อย่างต่อเนื่องทุก 2 ปี เพื่อรักษามาตรฐานการดำเนินงานตามระบบบริหารคุณภาพ
รวมถึงกองทดสอบความชำนาญ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สามารถดำเนินการต่อยอดให้บริการการทดสอบความชำนาญด้านตัวอย่างทางชีวภาพมนุษย์ ภายใต้ข้อกำหนด ISO 17043 ต่อจากโครงการวิจัยที่พัฒนาโดยธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งรามาธิบดี ร่วมกับเครือข่ายธนาคารชีวภาพสหสถาบัน ให้กับธนาคารชีวภาพทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน
แห่งแรกของประเทศไทย
ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้จัดตั้งธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งรามาธิบดี(Ramathibodi Tumor Biobank) เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมตัวอย่างทางคลินิกของผู้ป่วยที่เหลือจากขั้นตอนการวินิจฉัยและรักษามะเร็ง ไว้ใช้ทำวิจัยในระยะยาว
ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการจัดระเบียบการเก็บตัวอย่างทางคลินิกและข้อมูลชีวภาพของผู้ป่วยมะเร็งอย่างมีระบบ และมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนให้เกิดการศึกษาวิจัยเชิงลึกทางพยาธิโมเลกุลโรคมะเร็งแบบสหสาขา ร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูลทางคลินิกที่ได้จากทะเบียนมะเร็งรามาธิบดี โดยหวังว่าผลการวิจัยเหล่านี้ จะส่งผลให้เกิดการพัฒนารูปแบบการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งแบบใหม่ได้เองในไทยในอนาคต
“การที่ธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งรามาธิบดี ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 20387: 2018 ด้านธนาคารชีวภาพเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่จะช่วยให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดการดำเนินการขในอนาคตได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือกันกับหน่วยงานต่าง ๆ หรือการเปิดให้บริการด้านธนาคารชีวภาพในอนาคต”ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์กล่าว
ธนาคารชีวภาพโรคมะเร็ง เก็บมากกว่า 40,000 ตัวอย่าง
รศ.นพ.เอกภพ สิระชัยนันท์ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านโรคมะเร็ง คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งแบบครบวงจร อยู่ภายใต้ศูนย์ความเป็นเลิศด้านโรคมะเร็ง เป็นหน่วยงานหลัก ภายใต้ความร่วมมือกับสาขาวิชาเวชศาสตร์ปริวรรต และสำนักงานวิจัย วิชาการและนวัตกรรม คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557
โดยเก็บรวบรวมตัวอย่างชิ้นเนื้อมะเร็ง ชิ้นเนื้อปกติ องค์ประกอบของเลือด และสารคัดหลั่งต่าง ๆ เช่น เซรั่ม พลาสม่า ที่เหลือจากการวินิจฉัยรักษาผู้ป่วยมะเร็ง มาเก็บรักษาแบบแช่แข็ง รวมจำนวนตัวอย่างทางคลินิกที่จัดเก็บไว้ในปัจจุบันมากกว่า 40,000 ตัวอย่าง จากผู้ป่วยมะเร็งกว่า 4,000 รายที่ยินยอมเข้าร่วมโครงการ
ธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งแบบครบวงจรรามาธิบดี จัดตั้งขึ้นเพื่อมุ่งหวังให้เกิดการสนับสนุนด้านการศึกษาวิจัยเชิงลึกระดับชีวโมเลกุลด้านโรคมะเร็งร่วมกันระหว่างอาจารย์แพทย์คลินิกสาขาต่าง ๆ อาจารย์แพทย์นักวิจัย และนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อเร่งพัฒนาวิธีการวินิจฉัยและรักษาโรคแบบใหม่ให้กับผู้ป่วยมะเร็ง ก่อประโยชน์ให้เกิดแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็งชาวไทยทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
ธนาคารชีวภาพ ต่อยอดรักษาแบบการแพทย์แม่นยำ
ด้านนพ.ณรงค์ฤทธิ์ มัศยาอานนท์ รองคณบดีฝ่ายคุณภาพและศูนย์ความเป็นเลิศ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงการต่อยอดผลสำเร็จในอนาคตว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลรามาธิบดี หากต้องการที่จะได้รับการเก็บตัวอย่างทางคลินิกที่เหลือจากการวินิจฉัยและรักษา เช่น ชิ้นเนื้อมะเร็ง ชิ้นเนื้อปกติ สารคัดหลั่งต่าง ๆ เซรั่ม พลาสมา สารพันธุกรรมดีเอ็นเอจากน้ำลาย เลือด และเม็ดเลือดขาว สามารถปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ ซถ้าผ่านเกณฑ์การเก็บ ก็จะได้รับการจัดเก็บตัวอย่างทางคลินิกโดยการแช่แข็งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
จากนั้นตัวอย่างทางคลินิกเหล่านี้จะถูกนำไปทำการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาวิธีการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโดยทีมแพทย์และนักวิจัยจากหลากหลายสาขา นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปตรวจทางห้องปฏิบัติคลินิกด้านพยาธิโมเลกุลและจีโนม เพื่อช่วยเลือกการรักษาแบบการแพทย์แม่นยำที่เหมาะสมกับผู้ป่วยได้ด้วย
ธนาคารชีวภาพพัฒนาต่อยอด 3 ระยะ
ภายหลังจากการก่อตั้งธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งแบบครบวงจร เกิดการสร้างผลงานวิจัยด้านเวชศาสตร์ปริวรรต (Translational Medicine) และด้านงานวิจัยคลินิก (clinical research) ในวารสารที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติมากขึ้น โดยจะมีการต่อยอดความสำเร็จ
- ระยะสั้น เป็นหน่วยงานต้นแบบในการศึกษาดูงานธนาคารชีวภาพของประเทศ พร้อมที่จะให้คำแนะนำ และแชร์ประสบการณ์ รวมถึงองค์ความรู้ในการพัฒนาระบบบริหารคุณภาพตามมาตรฐาน ISO 20387 แก่องค์กรอื่น ๆ
- ระยะกลาง จะเป็นแหล่งให้บริการจัดเก็บตัวอย่างทางชีวภาพมนุษย์ให้กับโครงการวิจัยทางคลินิก และองค์กรที่สนใจ รวมถึงการจำหน่าย Ramathibodi Tumor Biobank software ภายใต้สิทธิบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการธนาคารชีวภาพ ที่มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล ให้กับหน่วยงานอื่นๆ
- ระยะยาว จะดำเนินการเปิดเป็นแหล่งบริการเตรียมตัวอย่างทางชีวภาพมนุษย์เพื่องานวิจัย ให้กับนักวิจัยทั้งใน และนอกคณะฯ ส่งเสริมงานวิจัยสหสถาบันกับทั้งภายในและนอกประเทศ เพื่อให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆในการวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งได้เองในประเทศไทย เช่น การพัฒนาวิธีการตรวจพบโรคมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลสำเร็จในการรักษาให้หายขาด ส่งผลให้ผู้ป่วยมะเร็งมีชีวิตยืนยาวและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ลดภาระทางเศรษฐกิจของประเทศ จากค่าใช้จ่ายด้านการรักษามะเร็งในผู้ป่วยที่จะลดลงในระยะยาว