รีวิว “ของเด็ด” มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ บางไอเท็มวัยทำงานควรมี

มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ จัดถึง 7 ก.ค.นี้

มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 21 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 - 7 ก.ค. 2567 ที่ ฮอลล์ 11 – 12 อิมแพค เมืองทองธานี จัดงานแบ่งออกเป็นโซนกิจกรรม ดังนี้ 1.โซน Service มีคลินิกให้คำปรึกษา ตรวจรักษาโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

2.โซน Wisdom พบหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ การนวด สมุนไพรอัตลักษณ์จาก 76 จังหวัด

3.โซน Product ให้คำปรึกษาเรื่องการส่งออก และภาพรวมตลาดสมุนไพร จัดแสดงนิทรรศการการวิจัยเกี่ยวกับสมุนไพรและการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ Premium Product

4.โซน Wellness ให้บริการนวดไทย ในการสร้างเสริมสุขภาพ โชว์โมเดลการจัดสปาเพื่อสุขภาพ แหล่งผลิตภัณฑ์ชุมชน การให้คำปรึกษาเพื่อยกระดับสถานประกอบการแหล่งท่องเที่ยวอัตลักษณ์ไทย

 5.โซน Innovation ให้คำปรึกษา นวัตกรรม และวิจัยพัฒนา การจัดแสดงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต้นแบบของกองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร และมหาวิทยาลัย เครือข่ายนักวิจัย

 6.โซนจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรคุณภาพ กว่า 400 ร้าน

และ 7.เวทีหลัก กิจกรรมเสวนาสาธิต และการแสดงศิลปวัฒนธรรม และศิลปิน นักแสดง

รีวิว ของเด็ด แปลงโฉมสมุนไพร

กรุงเทพธุรกิจ มีโอกาสได้เดินภายในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ เห็นการนำนวัตกรรมมาใช้ในการแปลงโฉมสมุนไพร ให้มีความทันสมัย เข้าถึงง่าย ใช้งานได้สะดวก และดึงกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นคนรุ่นใหม่ได้อยู่จำนวนมาก ซึ่งที่นำเสนอเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้น สามารถไปเลือกชม เลือกซื้อ และเลือกรับบริการต่างๆได้ที่งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ

1.ลูกประคบหิน 

ธนาวรรณ โชคสุนทรพจน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอ เอส ซี ลาโบลาโทรี จำกัด บอกว่า เป็นการพัฒนาลูกประคบไทยให้มีความทันสมัย และใช้งานได้สะดวกมากขึ้น โดยนำกินเกลี้ยงมาทำเป็นลูกประคบ ส่วนตัวยาสมุนไพรที่เดิมจะใช้ห่อเป็นลูกประคบนั้น ก็จะนำสมุนไพรทั้งหมดในลูกประคบมาทำเป็นรูปแบบสารสกัดเพิ่มเติมด้วยน้ำมันงาดำ

เมื่อต้องการใช้งานก็นำลูกประคบหินไปแช่ในน้ำเดือดราว5-10นาทีแล้วใช้ผ้าเช็ดน้ำออก หยดสารสกัดสมุนไพรลงไปในรูหินที่เจาะไว้ จากนั้นนำมาประคบบริเวณที่ต้องการ สามารถใช้ประคบได้ทุกส่วนเพื่อคลายความตึงของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ ช่วยให้เกิดการผ่อนคลาย กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด บรรเทาออฟฟิศซินโดรมหากใช้นวดบริเวณ คอ บ่า ไหล่

ข้อดีของลูกประคบหิน  ธนาวรรณ บอกว่า คนที่ประคบไม่ต้องลงแรงมากเพราะมีน้ำหนักจากหินมาช่วยส่วนหนึ่ง ที่สำคัญสามารถใช้งานได้ง่ายในชีวิตประจำวัน  แต่มีข้อต้องระวังคือหินต้องไม่แตกหรือบิ่น ส่วนตลาดวางจำหน่ายตอนนี้มาทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านทางตัวแทนจำหน่าย และยินดีที่จะรับตัวแทนจำหน่ายสามารถติดต่อได้ที่บริษัท +66 461 6101 หรือดูรายละเอียดที่ www.xenathailand.com

2.ยาต้มสู่ยาเม็ดฟู่บำบัดยาเสพติด

"ยาทำให้อดฝิ่น ชนิดเม็ดฟู่" ผลิตภัณฑ์นี้ ได้รับ 2 รางวัล นวัตกรรมทางการแพทย์แผนไทย"ยาทำให้อดฝิ่น ชนิดเม็ดฟู่" จากการประกวดการประดิษฐ์และนวัตกรรมในงาน “The 49th International Exhibition of Inventions Geneva”ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส

กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มีการพัฒนาตำรับยาอดฝิ่น ชนิดเม็ดฟู่ เริ่มต้นจากยาแผนปัจจุบันในการบ าบัดผู้ติดยาเสพติดและอาการถอนยามีราคาที่สูง จึงได้ทบทวนตำรับยาตามภูมิปัญญาไทย พบว่า ในอดีตมีการใช้ตำรับยาทำให้อดฝิ่น รวบรวมโดยขุนโสภิตบรรณลักษ์ในผู้ป่วยที่ติดฝิ่น

เมื่อทำนายการออกฤทธิ์ของสารสำคัญในตำรับยาดังกล่าว พบว่า สารสำคัญในตำรับมีผลต่อโมเลกุลเป้าหมาย ที่มีผลต่อการลดอาการถอนยาเสพติดแอมเฟตามีนและเฮโรอีน แต่ข้อจำกัดของยาเดิม คือ ต้องต้มรับประทานมีความยุ่งยาก ไม่สามารถกำหนดขนาดยาให้เท่ากัน เนื่องจากมีน้ำเป็นองค์ประกอบไม่เหมาะกับการปรุงยาเพื่อใช้ในระยะยาว อาจทำให้เกิดการเติบโตของเชื้อจุลชีพ

จึงพัฒนาสารสกัดตำรับยาทำให้อดฝิ่นในรูปแบบของเหลวให้เป็นของเเข็งด้วยกระบวนการทำแห้งแบบเเช่เยือกเเข็ง และพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบยาเม็ดฟู่ ที่สามารถแตกตัวง่ายละลายเร็ว รับประทานได้ง่าย ขนาดยาคงที่ ช่วยเพิ่มความร่วมมือในการใช้ยาของผู้ป่วย

3.ครีมยาสะเก็ดเงิน พัฒนาจากตำรับยาอาบ

จริยา สีทา แพทย์แผนไทยประยุกต์ รพ.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร จ.สกลนคร กล่าวว่า ในทางการแพทย์แผนไทยโรคที่เข้าได้กับโรคสะเก็ดเงินมี 2 โรค คือ เรื้อนกวางที่ลักษณะจะเป็นผื่นแดง และเรื้อนมูลนกที่บริเวณขอบของผื่นจะเป็นสีขาว ซึ่งตำรับยาไทยที่ใช้บรรเทารักษาผู้ป่วยจะเป็นตำรับยาอาบ การใช้งานสำหรับผู้ป่วยในยุคปัจจุบันอาจจะไม่สะดวกนัก 

รพ.ที่ให้บริการตรวจรักษาดูแลผู้ป่วยด้วยตำรับยาอาบอยู่แล้ว จึงได้มีการพัฒนานำสมันไพรต่างๆที่มีอยู่ตามตำรับยาอาบ มาพัฒนาให้เป็นลักษณะของครีม เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกและได้สรรพคุณตามตำรับยา โดยผู้ป่วยสามารถใช้ครีมทาบริเวณที่เป็นผื่นบรรเทาอาการได้ สมุนไพรที่ใช้ คือ เหงือกปลาหมอ ข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้  ทองพันชั่ง ฝางและสมุนไพรอื่นๆ ผู้สนใจสอบถามได้ที่ ไลน์ @arjaroherb

4.แผ่นแปะผ่อนคลาย ช่วยนอนหลับ

แผ่นแปะช่วยผ่อนคลาย ลดความครียด หายใจโล่ง นอนหลับง่ายขึ้น  ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่หลับยาก มีส่วนประกอบของ น้ำมันยูคาลิปตัส น้ำมันเปปเปอร์มิ้นท์ น้ำมันลาเวนเดอร์ น้ำมันกระดังงา  น้ำมันกำยาน  การใช้งานโดยการวางหรือแปะแผ่นแปะที่หมอนหรือบริณใกล้เคียงที่สามารถดูดดำได้  สนใจสอบถามได้ที่  094 919 1628

นอกจากนี้  ยังมี “หอมหอมบาล์มเจล” ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากหอมหัวแดง โดยนำส่วนที่เป็นสารสำคัญมาใช้และไม่มีกลิ่นฉุน สรรพคุณช่วยแก้หวัด คัดจมูก ทำให้จมูกโล่ง น้ำมันยูคาลิปตัส ทำให้หายใจโล่ง รู้สึกสดชื่น และน้ำมันเปปเปอร์มิ้นท์  บรรเทาอาการเครียด หน้ามืดวิงเวียน ในการใช้ ทาบริเวณหน้าอกหรือแผ่นหลัง เนื้อเจลซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ออกฤทธิ์ยาวนาน  7-8 ชั่วโมง สนใจสอบถามที่บริษัท อิงพราวด์ จำกัด  ไลน์ KEEWII

5.ครีม CBDกัญชง นาโน บรรเทาปวดเมื่อย

นพพพิชญน์ ธีระพัฒนาสกุล บริษัท Hempson Bio-tech Thailand  กล่าวว่า บริษัทเป็นบริษัทร่วมทุนไทย-จีน โดยดำเนินการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมกัญชงในประเทศ เป็นโรงงานสกัดสารCBDจากกัญชง เป็นแบบฟูล สเปคตรัม ทำให้ได้สารแคนนาบินอยด์ตัวอื่นที่ไม่ใช่แค่CBDด้วย เมื่อเสริมฤทธิ์กันให้เห็นผลมากขึ้น  ใช้วัตถุดิบที่ปลูกในพื้นที่จ.เชียงราย นำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์หลายอย่าง ปัจจุบันในประเทศไทยจะเป็นกลุ่มน้ำมันนวด ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ และผ่อนคลาย  แต่งานวิจัยปัจจุบันพบว่าสารแคนนาบินอยด์มีสรรพคุณที่หลากหลายมากขึ้น

ในส่วนของผลิตภัณฑ์นาราย Nrai เป็นครีมCBD นาโน  สามารถดูดซึมได้ง่ายขนาดโมเลกุลประมาณ 100-120 นาโนเมตร เมื่อซึมเข้าสู่ผิวหนังได้เร็วและไปหาตัวรีเซ็ปเตอร์ CB1 CB2 กระจายตามอวัยวะต่างๆ  ครีมนี้ใช้นวดเพื่อบรรเทาปวดเมื่อย การอักเสบ คอ บ่า ไหล่ ข้อเข่า เส้นเอ็นตึง ปวดเอว สะโพก กล้ามเนื้ออักเสบ เนื่องจากสรรพคุณอย่างหนึ่งของCBD คือลดการอักเสบ

ตลาดไท ตลาดกลางสมุนไพร

ภายในงานมหกรรมสมุนแห่งชาติ ครั้งที่ 21 เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2567 นายสมศักดิ์  เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “ตลาดกลางสมุนไพรไทย” ระหว่าง กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กับ บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) โดยมี นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ประธานคณะกรรมการบริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เข้าร่วม ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า  ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยขยายพื้นที่ค้าขายเป็น 7,000 ตารางเมตร เพิ่มกลุ่มผู้ขายรายใหม่ เพิ่มความหลากหลายของสินค้า ขยายตลาดกลุ่มผู้ซื้อ คาดว่าจะเพิ่มปริมาณสินค้าได้มากกว่า 96,000 ตันต่อปี ผลักดันให้มีมูลค่าสมุนไพรในตลาดกลาง มากกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี

ดังนั้น การร่วมมือกันพัฒนาตลาดกลางสมุนไพรไทย จะเป็นก้าวสำคัญ ที่ช่วยยกระดับตลาดกลางสมุนไพร ส่งผลให้เกษตรกรมีพื้นที่จำหน่ายสมุนไพร ในราคาที่เป็นธรรม ยกระดับคุณภาพวัตถุดิบสมุนไพรให้ได้คุณภาพมาตรฐาน ตามความต้องการของตลาด ทั้งในและต่างประเทศ ช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศให้ดียิ่งขึ้น เป็นการสนับสนุนส่งเสริม และต่อยอดสินค้าสมุนไพรไปสู่ทั่วโลกได้ โดยตนคาดว่า ตลาดสมุนไพรไทย จะมีมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านบาท

ขณะที่ นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ตลาดไท ยินดีให้ความร่วมมือผลักดันสมุนไพรไทย ให้เป็นระดับโลก ซึ่งต้องอาศัยการจัดจำหน่าย โดยตลาดไท มีศักยภาพเต็มที่ และจะเพิ่มพื้นที่ขายจาก 4,000 ตารางเมตร อาจขยายเพิ่มอีกเป็น 10,000 ตารางเมตร ซึ่งตนจะร่วมมือทุกรูปแบบ เพื่อทำให้ตลาดสมุนไพรไทย และเกษตรกรไทยเจริญเติบโต