"อาหารติดคอ" หาก 1 คำมีเนื้อสัตว์หลายชนิด เพิ่มความเสี่ยง

"อาหารติดคอ" หาก 1 คำมีเนื้อสัตว์หลายชนิด เพิ่มความเสี่ยง

อาหารที่มีเนื้อสัตว์หลากหลายชนิดใน 1 คำ อาจสำลักได้ง่าย-อาหารติดคอ เสี่ยงอุดกั้นทางเดินหายใจ  สมองขาดออกซิเจน-เสียชีวิต

แอดมินเพจเฟซบุ๊ก น้องอิคคิว ซึ่งเป็นคุณพ่อของน้องอิคคิว ได้โพสต์แจ้งข่าวเศร้าว่า น้องอิคคิว ได้จากโลกนี้ไปแล้วอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.59 น. วันที่ 7 ม.ค.2567

ทั้งนี้ เมื่อ 10 ปีก่อน น้องอิคคิว ในวัย 7 ขวบ ได้ประสบเหตุลูกชิ้นปลาติดคอ เข้าไปค้างอยู่ที่หลอดลมทำให้หายใจไม่ออก สมองขาดออกซิเจน 3 นาที ส่งผลต่อสมองถูกทำลายทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

อันตราย อาหารติดคอ

สำหรับเหตุการณ์สิ่งแปลกปลอมที่อุดกั้นทางเดินหายใจเกิดขึ้นได้บ่อย โดยเฉพาะในเด็กเล็ก เช่น กระดุม เหรียญ น็อต ลูกอม ติดคอ สำหรับในกลุ่มผู้ใหญ่มักเกิดจากการกินอาหารชิ้นใหญ่ หรือเคี้ยวไม่ละเอียด จึงเกิดการติดคอ และปิดกั้นหลอดลม จนขาดอากาศหายใจได้

อันตรายของ"อาหารติดคอ" ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลเรื่องอาหารติดคอ อย่ามัวรีรอ อันตรายกว่าที่คิดไว้ว่า  อาหารติดคอหรือการสำลักอาหารเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการปฐมพยาบาลได้อย่างทันท่วงที

หากมีอาการเหมือนอาหารติดคอ ให้ลองสังเกตอาการดูว่ายังสามารถไอหรือพูดได้อยู่ไหม หากยังไอหรือพูดได้ อาหารอาจไปอุดกั้นทางเดินหายใจบางส่วน

แต่หากอาหารอุดกั้นทางเดินหายใจทั้งหมด มีอาการหายใจไม่ออก พูดหรือร้องไม่มีเสียง มีอาการหน้าเขียว ปลายมือเท้าเขียว ต้องรีบทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หรือหากไม่แน่ใจวิธีปฐมพยาบาลให้รีบแจ้งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือโทร 1669

การปฐมพยาบาลเมื่ออาหารติดคอ

  • เด็กโตและผู้ใหญ่  ใช้วิธีรัดกระตุกหน้าท้อง
  • เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี  ตบหลัง 5 ครั้ง แล้วกดหน้าอก 5 ครั้ง
  • ห้ามใช้วิธีรัดกระตุกที่หน้าท้องของเด็กทารกโดยเด็ดขาด
  • กรณีผู้ป่วยหมดสติหรือไม่รู้สึกตัว ให้จับผู้ป่วยนอนหงาย กดหน้าอกนวดหัวใจ ช่วยหายใจ เปิดปากนำสิ่งแปลกปลอมออกมา

สาเหตุที่ทำให้อาหารติดคอ

  •  ประมาท เช่น การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด, รีบรับประทานจนเกินไป, ไม่ระมัดระวังกระดูกจากเนื้อสัตว์หรือเมล็ดผลไม้
  •  เด็กเล็ก วัยนี้จะหยิบจับอะไรก็มักจะนำเข้าปาก บางอย่างไม่ใช่ของที่รับประทานจึงทำให้ติดคอได้ รวมทั้งฟันกรามยังไม่แข็งแรงที่จะสามารถเคี้ยวอาหารชิ้นใหญ่
  • อุบัติเหตุ โดยเฉพาะผู้ที่ใส่ฟันปลอม หรือเพิ่งได้รับการรักษาทางทันตกรรมและช่องปาก
  •  โรคหรือภาวะความผิดปกติ หลอดอาหารเป็นอัมพาต ,โรคประสาทที่ส่งผลต่อการกลืน,ผู้ป่วยทางจิตเวช

การป้องกันอาหารติดคอ

กรมอนามัย แนะนำ การป้องกันอาหารติดคอหรือสำลักอาหาร วิธีการปฏิบัติดังนี้

1.นั่งตัวตรงขณะกินอาหาร และหลังกินเสร็จห้ามนอนทันที

2.เคี้ยวและกลืนอาหารช้า ๆ อย่างตั้งใจ ให้เวลากับมื้ออาหารอย่างเพียงพอ

3.อย่ากินอาหารขณะเหนื่อย ควรพักก่อนสัก 30 นาที  

4.อาหารที่กินควรมีขนาดชิ้นเล็ก ๆ หรือพอดีคำ ไม่ใหญ่หรือเหนียวเกินไป

5.ลดสิ่งรบกวนขณะกินอาหาร เช่น การพูดคุย การดูทีวี เพื่อป้องกันการหัวเราะขณะกลืนอาหาร  

6.กินอาหารคำละ 1 ชนิด เนื่องจากอาหารที่มีเนื้อหลากหลายชนิดใน 1 คำจะสำลักง่าย

7.ควรกินอาหารสลับกัน เช่น อาหารที่บดเคี้ยว สลับกับอาหารเหลว เพื่อให้กลืนอาหารง่ายไม่ฝืดคอ

และ 8.หากอาหารที่กินแข็งหรือแห้งเกินไป ควรมีน้ำซอสหรือน้ำซุปช่วยให้เนื้ออาหารชุ่มและนุ่มขึ้น

 

อ้างอิง : คณะแพทยศาสตร์รพ.รามาธิบดี ,กรมอนามัย,รพ.เพชรเวช