สธ.ต่อยอด 1 จังหวัด 1 สมุนไพร สปสช.เพิ่มวงเงินสำหรับสมุนไพรอีก 50%
“สมศักดิ์” เดินหน้าผลักดันสมุนไพรเต็มที่ ชี้หากโลกวิกฤติจะไม่มียา ต้องเร่งพัฒนาสมุนไพรไทย สั่ง สธ.ต่อยอด 1 จังหวัด 1 สมุนไพร มอบสปสช. ก็ได้มอบนโยบายให้เพิ่มวงเงินสำหรับสมุนไพรอีก 50%
วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเปิดอาคารนวัตกรรมเปรม ชินวันทนานนท์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี ว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายด้านเศรษฐกิจสุขภาพ โดยยกระดับการแพทย์แผนไทย และผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้มีศักยภาพ
มุ่งเน้นส่งเสริมการวิจัย ให้สมุนไพรไทยได้รับการยอมรับ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทย และพี่น้องประชาชน จึงมีความยินดี ที่มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้สร้างอาคารนวัตกรรม เปรม ชินวันทนานนท์ เพื่อเป็นสถานที่วิจัยและพัฒนางาน สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ
ทราบว่า ทางมูลนิธิอยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาวิจัยสมุนไพรที่เป็นประโยชน์หลายเรื่อง โดยหากดำเนินการสำเร็จ จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ป่วย ช่วยสร้างงาน สร้างโอกาสให้กับเกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพร และช่วยให้สมุนไพรไทย สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
“ขอฝากให้พวกเราช่วยกันสนับสนุนการใช้สมุนไพรภายในประเทศ ตามแนวคิด“เจ็บป่วยคราใด คิดถึงยาไทย ก่อนไปหาหมอ” เพื่อกระตุ้นให้คนไทยใช้สมุนไพร เสริมการรักษาแผนปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมลดการนำเข้าวัตถุดิบ และยาจากต่างประเทศ โดยผมขอขอบคุณ มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เครือข่ายนักวิจัย และกลุ่มเกษตรกร ผู้ผลิตวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพทุกท่าน ที่มีส่วนช่วยยกระดับการพัฒนาสมุนไพรไทยสู่ตลาดสากลด้วย” รมว.สาธารณสุข กล่าว
การพัฒนาสมุนไพรไทย ได้มีโอกาสร่วมงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ โดยมี ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงาน และมีพระราชดำรัสว่า สมุนไพรไทย ยาไทย มีความจำเป็นในยามวิกฤติของโลก ถ้าหากเราไม่รีบพัฒนาไว้ ก็จะมีปัญหากับประชาชน
ตนและอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ ก็เร่งดำเนินการพัฒนาสมุนไทยทันที ซึ่งได้ประชุม สปสช. ก็ได้มอบนโยบายให้เพิ่มวงเงินสำหรับสมุนไพรอีก 50% จากของเดิมงบประมาณแพทย์แผนไทย 1,000 ล้านบาท ก็เพิ่มเป็น 1,500 ล้านบาท แต่ถือว่ายังน้อย เมื่อเทียบกับยาแผนปัจจุบัน ที่ใช้งบประมาณปีละ 7 หมื่นล้านบาท
ขอฝากกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ช่วยรณรงค์ จังหวัดละ 1 ตัวยาสมุนไพร เพื่อทำให้ประชาชนเห็นประโยชน์การใช้สมุนไพร และมีไว้ใช้ในยามจำเป็น เช่น ช่วงโควิดระบาด ยาปัจจุบันขาดแคลน ตนก็นำฟ้าทะลายโจรมาใช้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ โดยได้ผลเป็นอย่างดี จนประชาชนนำไปใช้อย่างแพร่หลาย
“ วันนี้มาตรวจเยี่ยมนวัตกรรมสมุนไพรใหม่ ที่สามารถนำไปสู้กับยานำเข้า โดยเฉพาะสารเคมีได้ ซึ่งเมื่อเรามีการพัฒนาสมุนไพร จนเกิดความมั่นคงแล้ว ก็จะสามารถส่งออกต่างประเทศได้ โดยจากนี้ ตนจะสนับสนุนการพัฒนาสมุนไพรอย่างเต็มที่ เพราะหากโลกเกิดวิกฤติ ก็จะส่งยามาไม่ได้
ดังนั้น หากเรามีสมุนไพรเพียงพอ ก็จะดูแลคนไทยได้ เช่น ช่วงโควิดระบาด ยาปัจุบันขาดแคลน ตนก็ให้ใช้ฟ้าทะลายโจรแทน โดยก้าวเดินต่อไป ก็จะทำให้สมุนไพรแข่งแกร่ง และเพิ่มมูลค่าสมุนไพรไทยต่อไป”นายสมศักดิ์กล่าว