ครม.อนุมัติงบกลาง 5,924 ล้านบาท โปะ "30 บาทรักษาทุกที่"- จ่ายเงินค้าง รพ.

เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2567  ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข  ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ด สปสช.) กล่าวว่า  ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติงบกลาง 5,924 ล้านบาท สำหรับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โดยการจัดสรรจะเป็นค่าผู้ป่วยนอกของ รพ. ราว 1,000 กว่าล้านบาท รวมถึงให้กับหน่วยบริการนวัตกรรม ได้แก่ ร้านยาคุณภาพ, คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น, คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น ,คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น, คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น และคลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น ราว 3,000 กว่าล้านบาท

ส่วนค่ารักษาผู้ป่วยในที่เดิมสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)จะจ่ายให้ในอัตรา 8,350 บาทต่อค่าน้ำหนักสัมพัทธ์ (AdjRW)  ซึ่งตนได้คำนวณดูแล้วในปีนี้มีผู้มาใช้บริการมากกว่ากรอบเงินที่ประเมินไว้ที่ 72,000 กว่าล้านบาท โดยประมาณ เกินไปเล็กน้อยราว 1-2 %  เมื่อนำมาคำนวณใหม่จะเฉลี่ยค่ารักษาผู้ป่วยในจะจ่ายได้อยู่ที่ 8,154 บาทต่อ AdjRW ไม่ใช่ 7,000 บาทต่อ AdjRW การที่บอร์ด สปสช.เห็นชอบกรอบให้จ่ายที่ 7,000 บาทต่อ AdjRW เป็นตัวเลขที่ประเมินไว้ แต่ข้อเท็จจริงตามเฉลี่ย 8,154 บาทต่อ AdjRW แต่จะเสริมให้เป็น 8,350 บาทต่อ AdjRW ไม่มีปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่าแปลว่าจะจ่ายค่ารักษาผู้ป่วยในที่ค้าง รพ.อยู่ในอัตรา 8,000 กว่าบาทต่อ AdjRW ไม่ใช่ 7,000 บาทต่อ AdjRW นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตัวเลข 7,000 บาทต่อ AdjRW เป็นตัวเลขที่ประเมินไว้ แต่จะมาจ่ายทบให้เป็น 8,350 บาทต่อ AdjRW ตั้งใจไว้เช่นนี้ โดยจะใช้งบประมาณจากงบกลางนี้ และงบส่วนอื่นที่มีอยู่  เนื่องจากยอดรวมเกินไปราว 1,000 ล้านบาท  

ถามต่อว่างบกลางจะเพียงพอใช่หรือไม่  เพราะเดิมเสนอของบไป 7,100 ล้านบาท แต่ได้อนุมัติมา 5,924 ล้านบาท นายสมศักดิ์ กล่าวว่า  บริหารได้ ไม่มีปัญหา  ผู้สื่อข่าวถามว่า งบกลางที่ได้รับอนุมัติจะจัดสรรให้ รพ.ทันภายใน 30 ก.ย.67 นี้ก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2567 นายสมศักดิ์ กล่าวว่า  ก็จะต้องทำให้ทัน โดยจะมีการประชุมบอร์ด สปสช.วันที่ 23 ก.ย.67 นี้

“ส่วนที่ผมตั้งข้อสังเกตไว้คือ ผู้ป่วยนอก และหน่วยบริการนวัตกรรม อย่างร้านขายยา จะขอให้อนุกรรมการที่ตั้งขึ้นใหม่ไปศึกษาดูว่าเป็นตัวเลขค่าใช้จ่ายที่ต้องการให้ลงลึก เพื่อให้รู้จริงว่าเมื่อมีบริการ 30 บาทรักษาทุกที่ สิ่งที่เพิ่มขึ้น บริการดีขึ้น สบายขึ้น จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะต้องการให้พี่น้องประชาชนสะดวกสบาย เหมือนไปเที่ยวหรือไปไหนบริการดี ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นนิดหน่อยก็ต้องยอมรับได้” นายสมศักดิ์ กล่าว 

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า งบดังกล่าว แม้ว่าจะได้รับน้อยกว่าที่เสนอไป แต่คิดว่าสามารถนำมาใช้ได้อย่างเพียงพอ ทั้งโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ และปัญหาค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลรัฐ โดยจะนำมาเติมเต็มจากก่อนหน้านี้ที่ลดค่ารักษาตามความรุนแรงของโรค เหลือประมาณ 7,000 บาทต่อหน่วย จากเดิมที่จ่ายอยู่ที่ 8,350 บาทต่อหน่วย โดยงบ ก้อนนี้จะสามารถจ่ายได้เท่าเดิม ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาของโรงพยาบาลได้

เมื่อถามว่าการได้รับอนุมัติน้อยกว่าที่ขอ จะทำให้พอต่อการแก้ปัญหาหรือไม่ นพ.จเด็จ กล่าวว่า ยืนยันว่าเราเสนอไปตามหลักวิชาการ แต่เป็นข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณ ส่วนหนึ่งอาจมองว่ายังไม่สิ้นปีงบประมาณ จริงๆ โดยหลักต้องปิดงบในวันที่ 30 ก.ย.67 นี้ แต่นี่เป็นการประมาณการบางส่วนในอนาคต อย่างไรก็ตาม รมว.สาธารณสุข ได้มีการสั่งการให้ประชุมบอร์ดด้วยในวันที่ 23 ก.ย.67 นี้ เป็นวาระด่วนที่สุด เนื่องจากเป็นงบกลาง จึงต้องเร่งโอนเงินให้ทันก่อน 30 ก.ย.67 โดยสำนักงาน จะต้องดำเนินการเกลี่ยส่วนต่างๆ ที่อาจจะเหลือ ซึ่งเรามีอยู่ 16 หมวด และหนึ่งในนั้นคือ หมวดผู้ป่วยใน อย่างไรก็ตาม หากหมวดต่างๆ มีเหลือ มีขาดอย่างไร ที่เหลือก็จะเอางบกลางเข้ามา

การแก้ปัญหาระยะยาวโดยไม่ต้องพึ่งงบกลาง นพ. จเด็จ กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือ ต้องบริหารงบ ที่ได้มาแต่ละปีให้ดีก่อน เพียงแต่งบกลางที่ได้มาครั้งนี้ มาจากผลของการปฏิบัติงานจริง และประชาชนได้ประโยชน์ ซึ่ง สปสช.ทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า งบที่ขอไปเพราะเรามีผลงานเพิ่มขึ้น และขอบคุณหน่วยบริการต่างๆ ที่ให้บริการประชาชนเพิ่มขึ้น

“สปสช. เวลาตั้งงบประมาณ เราก็ไม่ได้บอกว่าเราตั้งถูกต้องทุกปี บางครั้งเราก็ถูกตัด ถูกทอนงบลงไป จึงต้องมีการทำตัวเลขอยู่ตลอด อย่างไรก็ตาม ขอให้มั่นใจว่างบพอ แต่คงไม่มีประเทศไหนที่จะบอกว่าให้เงินไม่อั้น สิ่งสำคัญคือ เสนอข้อมูลที่เป็นจริง ถูกต้อง รัฐบาลก็จะดำเนินการให้” นพ.จเด็จ กล่าว

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์