ดิไอคอนกรุ๊ป สบส.ลุยตรวจสอบต่อ "ดิไอคอนเวลเนสคลินิก”

ดิไอคอนกรุ๊ป สบส.ลุยตรวจสอบต่อ "ดิไอคอนเวลเนสคลินิก”

สบส.ลุยต่อเอาผิด “สถานที่”ปล่อย“บอสหมอเอก” ดิไอคอนกรุ๊ป กระทำการ “หมอเถื่อน” เตรียมเข้าตรวจสอบ “ดิไอคอนเวลเนสคลินิก” แม้เบื้องต้นขึ้นทะเบียนสถานพยาบาลถูกต้อง 

เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2567 นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ให้สัมภาษณ์ว่า กรมได้เข้าแจ้งความ “บอสหมอเอก ดิไอคอนกรุ๊ป” กรณีหมอเถื่อนตามที่แพทยสภาได้แจ้งความ และกรณีที่มีการดำเนินการในสถานพยาบาลเถื่อน เนื่องจากพบภาพนิ่งและคลิกปรากฎทางสื่อโซเชียลมีเดียมีลักษณะของการประกอบวิชาชีพเวชกรรมและสถานที่ที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นในสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ก็ทำไม่ได้ เพราะไม่ใช่แพทย์จริง  กรมจึงกล่าวหาว่าสถานพยาบาลตรงนั้นเป็นสถานพยาบาลเถื่อนไปก่อน และสถานที่นั้นมีหน้าที่พิสูจน์ว่าเป็นสถานพยาบาลเถื่อนหรือไม่

นพ.ภานุวัฒน์ กล่าวด้วยว่า พฤติการณ์ที่เป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรมของผู้ที่ไม่ใช่แพทย์รายนี้ คือ 1.ปรากฎภาพนิ่งที่มีการใช้หูฟังของแพทย์ตรวจฟังหัวใจของคนที่นอนรับบริการอยู่ ตรงนี้ถือว่าเป็นประกอบวิชาชีพเวชกรรมแล้ว เพราะมีการตรวจรักษากระทำกับมนุษย์
และ2.ปรากฎในคลิป มีการบอกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางความงาม รวมถึงมีการใส่เสื้อกาวน์ ใส่ถุงมือ ตรวจจับใบหน้า ถือเข็มฉีดยากับคนไข้ ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายการประกอบวิชาชีพเวชกรรมเพราะกระทำกับมนุษย์ในการตรวจหรือรักษา

“คลิปที่ปรากฏมีการนำบอสทั้งหลายมาพูดและมีการอินเสิร์ชภาพเป็นบอสหมอเอกที่อ้างตัวว่าเป็นหมอ และเป็นคนอวดอ้างถึงการกระทำต่างๆ ที่นอกจากทำในคลินิกแล้วยังบอกว่าทำในสปาและอื่นๆอีกหลายที่”นพ.ภานุวัฒน์กล่าว 

นพ.ภานุวัฒน์ กล่าวถึงกรณีที่จะเข้าตรวจสอบดิไอคอนเวลเนสคลินิกเวชกรรมว่า  ดิไอคอนเวลเนสคลินิกเวชกรรมเป็นสถานพยาบาลที่มีการขออนุญาตถูกต้อง แต่การเข้าตรวจสอบเพื่อพิจารณาว่าเป็นสถานที่เดียวกับที่บอสหมอเอกไปกระทำประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือไม่ จะต้องมีการพิสูจน์

ซึ่งหากพบว่าเป็นสถานที่เดียวกับที่บอสหมอเอกมีการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สถานพยาบาลแห่งนี้ก็จะมีความผิดฐานที่ปล่อยให้หมอเถื่อนเข้าไปดำเนินการหรือไม่  แต่หากไม่ใช่สถานพยาบาลแห่งนี้ แต่เป็นสถานที่อื่นก็มีความผิดเป็นสถานพยาบาลเถื่อน เจ้าของสถานที่จะมีความผิดเรื่องเป็นสถานพยาบาลเถื่อน แต่หากไม่สามารถระบุสถานที่ได้  องค์ประกอบการกระทำความผิดของบอสหมอเอกก็ครบ เพราะแม้จะทำที่บ้านก็ไม่ได้ถือเป็นสถานพยาบาลเถื่อนอยู่ดี

อนึ่ง การกระทำความผิดตามพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มาตรา 26 ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาต (หมอเถื่อน) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และสถานที่ให้บริการตรวจรักษาก็ไม่ได้ขออนุญาตและขึ้นทะเบียนเป็นสถานพยาบาล จึงเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 16 และ 24 ฐานประกอบกิจการ และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต (คลินิกเถื่อน) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ