ดิไอคอนกรุ๊ป “สมศักดิ์”ปัดอยู่เบื้องหลัง "สามารถ" ตนเองเกี่ยวเทวดา0%
กรณีดิไอคอนกรุ๊ป “สมศักดิ์”ลั่นเทวดาเกี่ยวข้องกับตัวเองเป็น 0 % แจงตั้ง “สามารถ”เพราะเห็นว่าเก่งเรื่องแชร์ลูกโซ่
เกี่ยวกับคดี ดิไอคอนกรุ๊ป จากกรณีพล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงข่าว พรรคเพื่อไทยจะหลีกหนีเรื่องนี้ไม่ได้จะมาบอกว่า นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสมมิตร หรือพรรคเพื่อไทยไม่ได้ เพราะเคยถูกตั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์ของกลุ่มสามมิตร สมัยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรมว.ยุติธรรม
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 ต.ค.2567 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ประเด็นเทวดาก่อนคิดว่าไม่มี ส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนเอง เป็น 0% แต่มีผู้คนพยายามปั้น หรือเบี่ยงเบนประเด็น ซึ่งหากไปลำดับขั้นตอนดูดีๆ จะเห็นว่าไม่เกี่ยวเลย และเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งวัน เวลา เรื่องที่เข้า คณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค ในปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่นายสามารถออกจากกระทรวงยุติธรรมแล้ว ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน
“ความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นไปสู่ตรงนั้นตรงนี้ ถ้ามาที่ตน บอกเลยว่าเสียเวลาเปล่า เพราะว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น ตนได้ตอบชัดเจนไปแล้ว เอาเวลาไปใส่ใจตรงอื่น ประเด็นอื่นๆ ดีกว่า ไม่ใช่ว่าใครรู้จักใครแล้วจะกลายเป็นประเด็นความเสียหายไปทั้งหมด ผมรู้จักคน คนก็รู้จักผม โดยเฉพาะกระทรวงยุติธรรมเป็นแหล่งรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชน ใครจะไปจะมาก็ได้ แต่ต้องเป็นคนดี ทำในสิ่งที่ดี การที่คนรู้จักกัน ทำงานร่วมกัน ก็ไม่ใช่ว่าคนหนึ่งทำผิดแล้ว อีกคนหนึ่งก็ต้องผิดไปด้วย อย่าติต่างไปอย่างนั้น ให้เอาเนื้อหาสาระข้อเท็จจริง”นายสมศักดิ์กล่าว
ถามว่ารู้จักและมีการแต่งตั้งนายสามารถอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นช่วงระยะเวลาการหาเสียงแล้วเห็นว่า นายสามารถเก่งเรื่องแชร์ลูกโซ่ ตระเวนไปประชุมในหลายๆ จังหวัด เกี่ยวกับเรื่องแชร์ลูกโซ่ ให้ความรู้แก่ประชาชนที่ถูกโกง ถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียงในเรื่องการช่วยเหลือประชาชน แล้วขณะนั้นการรณรงค์ปราบแชร์ลูกโซ่ก็เป็นนโยบายของกระทรวงยุติธรรม แต่ปราบอย่างไรก็ไม่หมด คนทำงานที่ติดตามแชร์ลูกโซ่ของส่วนราชการก็เติบโตไปเยอะ เป็นอธิบดีก็มี เป็นคนตั้งใจทำงาน แต่กรณีนี้ คลิปที่ออกมา ตนไม่ทราบว่า เป็นพฤติกรรมหลังๆ เป็นสิ่งที่ตนก็ไม่เคยทราบมาก่อนว่ามันมีอย่างนั้น
ถามต่อว่า พล.ต.ท.ปิยะ แถลงว่า เหตุการณ์ที่เกิดในคลิปเสียงเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ท่านเป็นรมว.ยุติธรรม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รู้ได้อย่างไรว่าเป็นเวลาเดียวกัน เขาเป็นตำรวจใช่หรือไม่ ซึ่งพล.ต.ท.ปิยะ เป็นคนที่สนิทสนมกับพรรคพวกของตนที่ตามมาทำงานที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อก่อนก็ไปมาหาสู่กันตลอด ก็ไม่มีอะไร ตนบอกแล้วว่า ประเด็นต่างๆ หากการทำหน้าที่ทางการเมืองทำให้ทุกอย่างดูดี และให้คนอื่นเสียหาย นั่นเป็นการเมืองที่ไม่ดี ควรจะพูดเรื่องข้อเท็จจริงมากกว่า
มองว่าเป็นการเอาคืนของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีเอาคืนหรอก เพราะก็รู้จักกันอยู่ พฤติกรรมของคนขณะที่ทำงานด้วยกัน ไม่มีเสียหาย แล้วกรณีที่ว่าเสียหายก็ไม่เห็นจะจับเขาได้ คนที่เขาเสียก็ไปจับไปดำเนินการ วันนี้เจ้าทุกข์บอกว่า ยังไม่ได้จ่ายเงิน ก็เลยแป๊กไปหมด แล้วหันมาเล่นงานคนที่บอกว่าเขารู้จักทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งจะกระทบกับประชาชนให้ทำงานยาก จะเข้ามาร้องเรียนปัญหาที่กระทรวงสาธารณสุข ตนก็ไม่กล้าเจอแบบนี้ก็ไม่ได้ ตนตรงไปตรงมา อะไรที่ประชาชนเดือดร้อน หากช่วยได้ก็ต้องทำจะเกรงกลัวสิ่งเหล่านี้คงไม่ได้
“คนไม่ดีเราก็อย่าไปคบ หากยังไม่รู้ว่าเขาไม่ดีเราจะไม่คบเขาก็ไม่ได้ เราคบทุกคน แล้วนายสามารถในขณะนั้นเขาไม่ได้ทำอะไรเสียหาย แต่วันนี้เมื่อมันมีปัญหาเขาก็ต้องมาชี้แจงและดำเนินคดีกับคนที่กล่าวหาเขา แต่หากเขานิ่งไปก็ไม่ใช่สิ่งที่ตนจะไปบอกหรือไปบังคับเขาได้”นายสมศักดิ์กล่าว