ผลักดันออกกฎหมาย 'ห้ามสูบบุหรี่ในรถ' คนไทย 70% รับควันบุหรี่มือสอง
คนไทย 70% รับควันบุหรี่มือสองตายกว่า 2 หมื่นต่อปี เด็กไทยถึง 55 % อยู่ร่วมบ้านคนสูบบุหรี่ ป่วยฉุกเฉินต้องเข้ารพ.ถึง 67% ผลวิจัยหญิงเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านมมากขึ้น 1.24 เท่า ผลักดันออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในรถ
ในเวทีเสวนา “ฆาตกรที่มองไม่เห็น : คนไทยตายปีละเท่าไหร่จากควันบุหรี่มือสอง” จัดโดยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล ร่วมกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รศ.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า จากข้อมูลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 6 (พ.ศ. 2562)
- พบคนไทย 70% ได้รับ ควันบุหรี่มือสอง ทั้งพบคนไทยเสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสองสูงถึง 20,688 รายต่อปี
- ผู้หญิงได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่มือสองจากที่บ้าน 68% มากกว่าผู้ชายได้รับ 47% เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ อีก 57 ประเทศ โดยเฉพาะผู้หญิงไทยอายุ 15-49 ปีได้รับควันบุหรี่มือสองสูงเป็นอันดับ 5 ของโลก
ผู้หญิงรับควันบุหรี่มือสองเพิ่มเสี่ยงมะเร็งเต้านม 1.24 เท่า
“ถือเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เพราะปัจจุบันมีหลักฐานงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์จากวารสารมะเร็งของประเทศอังกฤษ (British Journal of Cancer) ปี 2567 ยืนยันแล้วว่าการสูดควันบุหรี่มือสองเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้หญิงถึง 1.24 เท่า โดยความเสี่ยงจะเพิ่มตามปริมาณและระยะเวลาที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง ซึ่งมะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบเป็นอันดับหนึ่งของผู้หญิงไทย”รศ.พญ.เริงฤดีกล่าว
55 % เด็กไทยอยู่ร่วมบ้านคนสูบบุหรี่
ด้านศ.พญ.สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์ รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า เด็กเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่มือสองมากกว่าผู้ใหญ่ ในประเทศไทยพบเด็กอายุ 1- 5 ปี พักอยู่อาศัยในบ้านที่มีคนสูบบุหรี่สูงถึง 55% โดยในกรุงเทพฯ พบมากที่สุด 62%
การที่เด็กรับนิโคตินจากควันบุหรี่มือสองเพิ่มความเสี่ยงก่อโรคมากขึ้น มีงานวิจัยพบบ้านที่มีคนสูบบุหรี่ พบเด็กในบ้านป่วยฉุกเฉินต้องเข้ารพ.ถึง 67% ต้องนอนรพ.ถึง32%
นอกจากนี้มีการนำเส้นผมของเด็กในบ้านที่มีคนสูบบุหรี่มาตรวจพบว่ามีปริมาณสารนิโคตินซึ่งเป็นสารพิษในบุหรี่สูงกว่าค่ามาตรฐาน
ผลักดันกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในรถ
ขณะที่ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ กล่าวว่า ไทยมีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ แต่การบังคับใช้ยังทำได้ไม่ดี โดยคะแนนที่องค์การอนามัยโลกประเมินเราอยู่ที่ 6 จากเต็ม 10 คะแนน โดยเฉพาะปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น ขณะเดียวกันการห้ามสูบในที่สาธารณะ ส่งผลให้คนสูบในบ้านมากขึ้น จึงก่อปัญหาควันบุหรี่มือสองซึ่งเป็นเรื่องที่ยังรณรงค์น้อยมาก ต้องส่งเสริมรณรงค์โครงการบ้านปลอดบุหรี่รวมถึงในรถ
ตนกำลังพยายามผลักดันกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในรถเพราะมีพื้นที่จำกัดแคบกว่าที่มีความเสี่ยงมากกับผู้รับนิโคตินจากควันมือสอง ทั้งนิโคตินยังตกค้างอยู่ได้นานในรถ ส่งผลไปถึงผู้รับมือสามด้วย หลายประเทศมีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในรถแล้ว รวมถึงอาคารชุดที่พักอาศัยเช่นคอนโดมิเนียม
“สิ่งที่น่าห่วงจากการที่ตนได้พูดคุยกับหมอรพ.ตากสิน พบสาวท้องที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าคลอดลูกออกมาน้ำหนักน้อยต่ำกว่าเกณฑ์ เนื่องจากนิโคตินส่งผลให้เส้นเลือดในรกหดตัว จึงทำให้เด็กได้รับสารอาหารและออกซิเจนน้อยลง เมื่อเด็กตัวเล็กน้ำหนักน้อยก็ทำให้เกิดโรคง่าย เป็นเรื่องน่าห่วงเพราะวัยรุ่นหญิงตอนนี้สูบบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น”ศ.นพ.ประกิตกล่าว