หน้าหนาวนี้ 'เด็กเล็ก'-'ผู้สูงอายุ' กรมอนามัยเตือนรับมือเป็นพิเศษ
หน้าหนาว กรมอนามัย เตือนเด็กเล็กและผู้สูงอายุดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ แนะวิธีป้องกันการเจ็บป่วย เด็กเล็กต้องระวังภาวะตัวเย็นเกิน กลุ่มผู้สูงอายุควรได้รับการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเวลานอน อวัยวะที่ต้องดูแลคือ ศีรษะ ลำคอ และหน้าอก
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ขณะนี้บางพื้นที่อากาศเริ่มเย็นลง ทำให้เสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่าย เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคอีสานตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขณะที่ภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ยังมีฝน ฝนฟ้าคะนอง ตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ยังต้องเฝ้าระวังฝนที่ตกสะสม ประชาชน
จึงควรดูแลสุขภาพร่างกายเป็นพิเศษด้วยการดื่มน้ำอุ่นเป็นประจำ เพื่อช่วยสร้างความอบอุ่นกับร่างกาย เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้น และช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย โดยใน 1 วัน ควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว กินอาหารครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่ร้อนและปรุงสุกใหม่ ๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
นอกจากนี้ควรออกกำลังกายเป็นประจำ อาทิ เดินเร็ว วิ่ง ปั่นจักรยาน เวทเทรนนิ่ง คีตะมวยไทย เต้นแอโรบิก โยคะ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ กระโดดเชือก การกีฬาประเภทต่าง ๆ และทำงานบ้าน อย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมรับกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
กลุ่มวัยที่ควรดูแลเป็นพิเศษคือกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ เนื่องจากวัยเด็กความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิร่างกายยังไม่สมบูรณ์ และมีไขมันใต้ผิวหนังน้อย ทำให้เกิดภาวะตัวเย็นเกินได้ง่าย โดยมีอาการตั้งแต่อ่อนเพลีย ท้องอืด ซึมลง หายใจช้า ชีพจรเต้นช้า ปัสสาวะลดลง หมดสติ และอาจเสียชีวิตในที่สุด จึงควรดูแลเด็กเล็กให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอด้วยการสวมเสื้อผ้า เครื่องกันหนาว ถุงมือ ถุงเท้า และสวมหมวก
สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุควรได้รับการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเวลานอน อวัยวะที่ต้องดูแลคือ ศีรษะ ลำคอ และหน้าอก เพื่อให้ระบบการไหลเวียนของร่างกายเป็นไปตามปกติ เพราะหากในช่วงหน้าหนาว เกิดเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ และไข้หวัด อาจส่งผลกลายเป็นโรคหลอดลมอักเสบ และโรคปอดบวมได้ในที่สุด
จึงควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำในเวลากลางคืน หรือถ้าไม่สามารถเลี่ยงได้ก็ควรมีการยืดเส้นยืดสายเพื่อสร้าง ความอบอุ่นให้กับร่างกายก่อนอาบน้ำ หากอาบน้ำอุ่นต้องระวังไม่อาบน้ำนาน และปรับอุณหภูมิน้ำร้อนจนเกินไป เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีสภาพผิวหนังที่แห้งง่าย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับผิวหนัง หรือคนที่เป็นโรคเบาหวาน
ต้องระวังอย่าให้ผิวแห้งแตก หากเกิดเเผลจากการเกา อาจทำให้อักเสบ และเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ นอกจากนี้ ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7–8 ชั่วโมงต่อคืน