เคาะใช้เทคโนโลยีจำใบหน้า-ม่านตา กลุ่มแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย

บอร์ดโรคติดต่อแห่งชาติ เคาะใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า-ม่านตา ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย หลังที่ผ่านมา พบไม่มีข้อมูล เป็นปัญหาควบคุมโรค
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ครั้งที่ 2/2568 ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องสำคัญคือ นโยบายการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคในกลุ่มคนต่างด้าวประชากรแฝง โดยส่งเสริมการใช้ข้อมูลชีวมิติ (Biometric) เพื่อยืนยันตัวตน
ระบบพิสูจน์อัตลักษณ์กลุ่มผู้ไม่มีเอกสารประจำตัวเพื่อการสาธารณสุขและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เป็นระบบการลงทะเบียนและยืนยันตัวตน โดยใช้เทคโนโลยีชีวมิติ การจดจำใบหน้า และการจำลายม่านตา เพื่อสร้างมาตรฐานการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์อย่างแม่นยำ และสนับสนุนระบบบริการสาธารณสุขการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคในบุคคลที่ไม่มีเอกสารประจำตัว ซึ่งสภากาชาดไทย ได้ร่วมกับ กรมควบคุมโรค และ NECTEC ในการพัฒนาระบบขึ้น
“ระบบนี้ จะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบสาธารณสุขของประเทศ สามารถให้บริการด้านสาธารณสุขได้อย่างถูกต้อง ถูกคน ถูกเวลา และถูกชนิด รวมถึงสามารถติดตามและควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ปัญหาที่ผ่านมา ประเทศไทย มีแรงงานข้ามชาติ ที่ยังไม่มีเอกสารระบุตัวตน เมื่อเจ็บป่วย หรือ รับวัคซีนป้องกันโรค จะสร้างปัญหาด้านการควบคุมโรค และในยามเกิดภัยพิบัติ บุคคลกลุ่มนี้ ไม่มีข้อมูลในฐานข้อมูล ก็จะทำให้ไม่ได้รับความช่วยเหลือ
ที่ประชุมจึงเห็นชอบในหลักการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีชีวมิติ และมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ และกทม. ประสานงานกับสภากาชาดไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพิจารณาจัดทำระบบและแนวทางปฎิบัติเสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อ และเสนอแผนปฎิบัติการ ต่อคณะรัฐมนตรี ต่อไป
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า มีการเตรียมการแก้ไขแรงงานที่เข้ามาในประเทศที่ผิดกฎหมาย ซึ่งไม่สามารถทำทะเบียนประวัติได้ จึงหาทางที่จะทำการดูแล หรือ ควบคุม ในส่วนการป้องกันโรคระบาด รวมถึงโรคติดต่อ โดยในขณะนี้ มีต่างด้าวเข้าประเทศ ประมาณ 5.3 ล้านคน แต่ในส่วนที่ไม่มีเอกสารประจำตัว ประมาณ 1.2 ล้านคน ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่สามารถติดตาม และควบคุมได้
ดังนั้น จึงใช้แนวทางของสภากาชาดไทยมาช่วย ในเรื่องของ Biometric Authentication System โดยเป็นระบบที่สอดคล้องกับสภากาชาดไทยจัดทำ จะสามารถควบคุมดูแลได้ ส่วนอีกประเด็น ได้มีการหารือการเสริมวัคซีนโรคหัดในกลุ่ม 3 จังหวัดชายแดนใต้ และจังหวัดสงขลาบางส่วน เพราะว่า ในพื้นที่มีประชาชน ติดหัดมากกว่าอัตราที่ควรจะเป็น จึงขอให้มีวัคซีนเสริม