ไทม์ไลน์เหตุท่อบรรจุสารซีเซียม 137 หายจากโรงไฟฟ้า ยกระดับเร่งติดตามค้นหา
ความคืบหน้ากรณีท่อบรรจุสารซีเซียม 137 จากโรงไฟฟ้าพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ยกระดับเร่งติดตามค้นหา หวั่นอาจจะมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน แลัปนเปื้อนกับสิ่งแวดล้อม
ความคืบหน้ากรณี ท่อบรรจุสารซีเซียม 137 จากโรงไฟฟ้าพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี หายปริศนาซึ่งอาจถูกนำไปขายเป็นของเก่าและอาจจะมีผลกระทบต่อสุขภาพปนเปื้อนกับสิ่งแวดล้อม โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ถ้าผ่าท่อรังสีทำให้เนื้อเน่าเปื่อยภายใน 3 วันที่มีระดับรังสีเข้มข้นจนเป็นที่หวาดกลัวต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากที่ นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้มีการแถลงข่าวกรณี วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ในโรงไฟฟ้าพื้นที่ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี จำนวน 1 ชิ้น ห่อหุ้มด้วยท่อเหล็กกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม ใช้เป็นเครื่องมือวัดระดับของขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้า ติดตั้งใช้งานเมื่อปี 2538 ได้หายไป
โดยเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2566 เวลา 23.00 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งว่าวัสดุกัมมันตรังสีได้สูญหายจากโรงงานฯ และจากการรวบรวมข้อมูลได้ความว่า มีวัสดุกัมมันตรังสีสูญหายประมาณวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัทฯ ได้สอบถามพนักงานขับรถที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทราบว่า ได้ยินเสียงดังมากเหมือนว่ามีโลหะตกลงพื้นและไม่คิดว่าเป็นวัตถุอันตรายซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ติดตั้งอยู่บนถังไซโลเก็บขี้เถ้า โดยมีความสูงจากพื้นดินประมาณ 16-17 เมตร
คาดว่า วัสดุกัมมันตรังสีจะตกอยู่ในพื้นที่ 200 ตารางเมตรจากจุดที่มีการ ติดตั้งวัสดุกัมมันตรังสี วัสดุกัมมันตรังสีมีลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอกมีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นในและห่อหุ้มด้วยเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม และมีป้ายติดรายละเอียดแสดงข้อมูลของวัสดุกัมมันตรังสีและมีสัญลักษณ์ทางรังสีขนาดเล็กติดอยู่ โดยวัสดุกัมมันตรังสีผ่านการใช้งานมาแล้วประมาณ 28 ปี
หลังจากพบว่าสูญหาย บริษัทฯก็ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินภายในโรงงาน และจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจำนวน 50 คน โดยมีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติให้การสนับสนุนการปฏิบัติ เพื่อดำเนินการค้นหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ที่สูญหาย ในพื้นที่โรงงานทั้งหมดโดยจาการตรวจสอบไม่พบวัสดุกัมมันตภาพรังสีที่สูญหายภายในโรงงาน ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า อาจมีการนำวัสดุกัมมันตภาพรังสีออกนอกโรงงานไปแล้ว
โดยเจ้าหน้าที่จาก อ.ศรีมหาโพธิ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และบริษัทฯได้ออกค้นหาและตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือวัดทางรังสีในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เช่น ร้านขายของเก่า ร้านรับซื้อเศษโลหะมือสอง เป็นต้น ซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ที่สูญหาย เป็นวัสดุกัมมันตรังสีที่มีตะกั่วปกป้องอยู่ ชั้นในและห่อหุ้มด้วยเหล็กโดยวัสดุกัมมันตรังสีจะอยู่ในชั้นในสุด
หากวัสดุกัมมันตรังสียังอยู่ในสภาพเดิมจะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมและกรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ที่สูญหาย มีการถอดประกอบหรือชำแหละเครื่องกำบังที่ห่อหุ้มจนทำให้วัสดุกัมมันตรังสีมีลักษณะเปลือยเปล่า จะมีรัศมีการแผ่รังสีออกจากวัสดุกัมมันตรังสีประมาณไม่เกิน 1-2 เมตร หากมีการสัมผัสวัสดุกัมมันตรังสีโดยตรง จะทำให้ผู้สัมผัสเกิดผื่นแดง หรือเป็นแผลไหม้บริเวณที่สัมผัส จากการประเมินสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ที่สูญหายได้หลุดออกจากเครื่องกำบัง ดังนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม
โดยนายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้มอบหมายให้หน่วยงานราชการ บริษัทฯดำเนินการเตรียมความพร้อมในการรับมือกรณี วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 สูญหาย โดยยกระดับภัยจากภัยระดับ 1 เป็นระดับ 2 ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี โดยจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม -137 จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสี และให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของพนักงานในโรงงาน ที่อาจได้รับอันตรายจากวัสดุกัมมันตรังสี ดูแลการจ้างงานในกรณีมีการหยุดการทำงานตลอดจนสิทธิสวัสดิการของพนักงานในระหว่างที่หยุดการทำงานในระหว่างตรวจหาและแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีสูญหาย
ประกอบกับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ประสานโรงพยาบาล เตรียมความในการบำบัดรักษาผู้ป่วยที่อาจได้รับผลกระทบจากวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 สูญหายและเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องใน อ.ศรีมหาโพธิ ตรวจค้นหาวัตถุดังกล่าวในสถานประกอบการร้านค้าของเก่าและประเภทอื่นๆในพื้นที่
เบื้องต้น ได้รับทราบจากโรงงานผลิตไฟฟ้า NPS ว่ามีอุปกรณ์เครื่องวัด ซีเซียม 137 หายไปจากโรงงานหลังจากนั้นได้แจ้งไปที่สำนักงาน ปรมาณูเพื่อสันติ ร่วมในการค้นหา โดยขณะนี้ใช้เวลาค้นหาได้ประมาณ 3 วัน ก็ยังไม่พบคาดว่าน่าจะมีผู้นำวัสดุชิ้นนี้หรืออุปกรณ์เครื่องวัดออกไปนอกโรงงาน
จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหากผู้ใดพบเห็นหรือผู้ที่ครอบครองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือพี่น้องประชาชนที่อยู่โดยรอบบริเวณข้างเคียงไม่ว่าจะเป็นร้านของเก่า โรงงานหรือท่านใดก็แล้วแต่ ถ้าเห็นอุปกรณ์ผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม และมีป้ายติดรายละเอียดแสดงข้อมูลของวัสดุกัมมันตรังสี และมีสัญลักษณ์ทางรังสีขนาดเล็กติดอยู่ ก็อย่าไปจับหรือแตะต้องให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะได้ไปเก็บกู้นำกลับมาในสภาพที่ปลอดภัย
โดยสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 นั้น ถ้ามีการถอดหรือชำแหละเครื่องกำบังที่ห่อหุ้มจะมีรัศมีการแผ่รังสีประมาณไม่เกิน 1-2 เมตร ถ้ายังไม่มีการชำแหละเครื่องกำบังที่ห่อหุ้มอายุของตัวสารจะอยู่ได้ 300 ปี เมื่อได้รับซีเซียม-137 เข้าไปในร่างกายจะกระจายไปทั่วร่างกาย ส่วนใหญ่จะสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อและส่วนน้อยอยู่ในตับและไขกระดูก แต่จะถูกขับออกโดยกระบวนการทางชีวภาพทางเหงื่อและปัสสาวะ
หากท่านใดพบเห็นวัตถุดังกล่าว ดังในรูปโปรดแจ้งกลับมาที่ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด หมายเลขโทรศัพท์ 085 835 0190 ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่ชี้เบาะแสจนสามารถนำวัสดุกัมมันตรังสีที่สูญหายกลับมาได้จะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท