"ออมเงินวันละ 1 บาท" มีเงินถึง 20,000 ล้าน ช่วยชุมชน

"ออมเงินวันละ 1 บาท" มีเงินถึง 20,000 ล้าน ช่วยชุมชน

19 ปี กองทุนสวัสดิการชุมชน ออมวันละ 1 บาท ทั่วประเทศมีเงินกองทุนรวม 20,000 ล้านบาท  มีสมาชิก 7 ล้านคน สามารถนำเงินมาช่วยเหลือชาวบ้านเป็นสวัสดิการชุมชนในเรื่องต่างๆ

KEY

POINTS

  • 19 ปี กองทุนสวัสดิการชุมชน ออมเงินวันละ 1 บาท ทั่วประเทศมีเงินกองทุนรวม 20,000 ล้านบาท  มีสมาชิก 7 ล้านคน สามารถนำเงินมาช่วยเหลือเป็นสวัสดิการชุมชนในเรื่องต่างๆ
  • หลักการสำคัญกองทุน สมาชิกออมเงินวันละ 1 บาทหรือปีละ 365 บาท สมทบเงินเข้ากองทุน  โดยรัฐบาลจะสมทบเงินด้วย เพื่อให้กองทุนเติบโต  
  • ตัวอย่าง ออมเงินวันละ 1 บาท กองทุนสวัสดิการชุมชน ที่นำเงินไปช่วยเหลือชุมชน เช่น กองทุนสวัสดิการชุมชนต.ทับพริก  อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ปลูกไม้มีค่า ประมาณ 15 ไร่ สามารถนำไม้มาช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนคนยากไร้ในชุมชน

นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) กล่าวว่า  3 คลังที่ต้องวางไว้ในชุมชนท้องถิ่น ประกอบด้วย 1.คลังปัญญา ภูมิปัญญา ของดีต่างๆที่มีอยู่ 2.คลังทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า รวมถึงองค์กรการเงินในชุมชน เช่น องค์กรสวัสดิการชุมชน กองทุนออมวันละบาท และ3.คลังอาหาร ถ้ามี 3 คลังนี้ชุมชนท้องถิ่นจะไปรอด    
ทั้งนี้ ในส่วนขององค์กรสวัสดิการชุมชน กองทุนออมเงินวันละ 1 บาท ขณะนี้ ทั่วประเทศมีสมาชิกราว 7 ล้านคน มีเงินกองทุนรวมราว 20,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินที่มาจากประชาชนเอง 14,000 ล้านบาท สามารถหยิบออกมาใช้ได้ตวามความต้องการของชุมชนท้องถิ่น

หลักการออมเงินวันละ 1 บาท

กองทุนสวัสดิการชุมชนจัดตั้งอย่างเป็นทางการในปี 2548  ดำเนินการมาจนถึงปัจจุบันทำให้สมาชิกได้เข้าถึงการช่วยเหลือ  ซึ่งหลักการสำคัญของกองทุนสวัสดิการชุมชน  คือ  ประชาชนในหมู่บ้าน  ชุมชน  ตำบล  หรือเทศบาล  จะต้องร่วมกันจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชน คัดเลือกคณะกรรมการขึ้นมาบริหารงาน  ยกร่างระเบียบข้อบังคับของกองทุนสวัสดิการ   กติกาของกองทุนสวัสดิการชุมชน ที่ชุมชนร่วมกันสร้างขึ้น เพื่อประโยชน์สุขของคนในชุมชน

\"ออมเงินวันละ 1 บาท\" มีเงินถึง 20,000 ล้าน ช่วยชุมชน

ขณะที่สมาชิกจะต้องสมทบเงินเข้ากองทุนออมเงินวันละ 1 บาท หรือปีละ 365 บาท  โดยรัฐบาลจะสมทบเงินผ่านสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)  และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ( อปท.) หรือภาคเอกชนอาจร่วมสมทบ เพื่อให้กองทุนเติบโต  แล้วนำเงินกองทุนนั้นมาช่วยเหลือสมาชิกตามข้อตกลงของแต่ละกองทุน

ปัจจุบันสามารถจัดสวัสดิการได้มากกว่า 15 ประเภท ตั้งแต่การคลอดบุตร เจ็บป่วย ช่วยเหลือผู้สูงอายุ คนพิการ คนด้อยโอกาส ช่วยงานสาธารณะประโยชน์ในชุมชน ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เงินยืมไม่มีดอกเบี้ยสำหรับสมาชิก ส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรม เป็นต้น

ขับเคลื่อนออมเงินวันละ 1 บาท กองทุนยั่งยืน

ทั้งนี้  กองทุนสวัสดิการชุมชนมีความยั่งยืน เนื่องจากคนในชุมชนเริ่มต้นจากชุมชน มีความเป็นเจ้าของกองทุนสวัสดิการชุมชนร่วมกัน มีการบริหารจัดการร่วมกัน แตกต่างจากสวัสดิการสังคม ตรงที่สวัสดิการชุมชน เป็นระบบการช่วยเหลือเกื้อกูลของคนในชุมชน ส่วนสวัสดิการสังคม เป็นระบบการช่วยเหลือของภาครัฐ

ลักษณะการดำเนินการของกองทุนสวัสดิการชุมชน

  • เป็นกองทุนที่มี สมาชิก ทำงานให้บริการสมาชิกและ/หรือคนอื่นๆในชุมชนตามที่สมาชิกตกลงร่วมกัน
  • เงินกองทุน มาจากการสมทบของสมาชิก การบริจาคสมทบของหน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและการระดมทุนเพิ่มเติมด้วยวิธีการต่างๆ ปัจจุบันกองทุนส่วนใหญ่สมาชิกสมทบวันละ๑ บาทหรือปีละ ๓๖๕ บาท แต่ก็มีกองทุนบางส่วนที่ใช้การระดมทุนด้วยวิธีการอื่นๆ เช่น จากผลกำไรกลุ่มออมทรัพย์ ฯลฯ เงินสมทบดังกล่าวจะไม่คืนเงินเมื่อสมาชิกลาออก
  • การบริหารจัดการ สมาชิกจะเลือกคณะกรรมการ มาบริหารกองทุน โดยมีระเบียบกองทุนเกี่ยวกับสมาชิก การสมทบเงิน และการจ่ายเงินสวัสดิการ เป็นเครื่องมือในการทำงาน
  • การช่วยเหลือสมาชิก ประเภทสวัสดิการที่จัด จำนวนเงินช่วยเหลือ เป็นไปตามกติการ่วมและฐานะการเงินของแต่ละกองทุน
    \"ออมเงินวันละ 1 บาท\" มีเงินถึง 20,000 ล้าน ช่วยชุมชน

ตัวอย่างสวัสดิการจากออมเงินวันละ 1 บาท

สำหรับตัวอย่างออมวันละ 1 บาท  กองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลบ้านส้อง  อ.เวียงสระ  จ.สุราษฎร์ธานี  ก่อตั้งในปี 2553 มีเงินกองทุนกว่า 4 ล้านบาทเศษ การช่วยเหลือสมาชิก  เช่น  เจ็บป่วย  นอนโรงพยาบาลช่วยเหลือ 1,000-3,000 บาท,  คลอดบุตร 2,000 บาท,  ประสบอุบัติเหตุ  แขน ขาขาด  ตาบอด  ช่วย (ข้างละ) 10,000 บาท,  หมา  แมว  งูกัด  ช่วย 500-1,000 บาท,  เสียชีวิตช่วยเหลือ 30,000 บาท  เป็นต้น

กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลทับพริก  อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว คิดค้นรูปแบบการหารายได้เข้ามาสนับสนุนกองทุนสวัสดิการฯ  โดยการปลูกไม้มีค่า ประมาณ 15 ไร่ ขณะนี้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้บางส่วน  เช่น  โครงการบ้านพอเพียงชนบทที่ พอช. สนับสนุนการซ่อมสร้างบ้านเรือนที่มีฐานะยากจน  สภาพบ้านเรือนทรุดโทรมหลังละ 2 หมื่นบาท  บางหลังซ่อมหลายอย่าง  งบไม่พอ  คณะกรรมการกองทุนฯ จึงนำไม้มะฮอกกานีที่ปลูกมาแปรรูปเพื่อทำวงกบหน้าต่าง  ประตู  ทำให้ประหยัดงบไปได้มาก เป็นต้น

อ้างอิง: สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.)