'อายิโนะโมะโต๊ะไทย' ชู 5 เรื่อง ปี 67 ขับเคลื่อนความยั่งยืนสำเร็จ
อายิโนะโมะโต๊ะไทย ชู 5 เรื่อง ปี 67 ขับเคลื่อนความยั่งยืนสำเร็จ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงถึง 92% - ลดขยะ - ลดการสูญเสียอาหาร และขยะอาหารจากกระบวนการผลิตได้ถึง 72% ตั้งเป้าปี 2030 ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้ 50%
กรุงเทพธุรกิจจัดงาน Sustainability Forum 2025: Synergizing for Driving Business ระหว่างวันที่ 3 - 4 ธ.ค.2567 โดยในวันที่ 3 ธ.ค.2567 ช่วงPanel Discussion: Milestones toward SDGs ดร.ทองดี ปาโส กรรมการผู้จัดการ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กลุ่มบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ มีเป้าหมายด้านความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ผ่านการประยุกต์ใช้ “AminoScience” มีความมุ่งมั่น 2 ข้อหลัก คือ
1.ต้องการยืดอายุการมีสุขภาพที่ดีของคน 1,000 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งการมีอายุที่ยืนยาว และมีสุขภาพดี จะดีกว่าการมีอายุยืนยาวแต่ไม่แข็งแรง และ 2. เป็นเรื่องของการดำเนินธุรกิจ โดยมีเป้าหมายที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้ 50% ภายในปี 2030 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในการสร้างสังคมกินดีมีสุขให้กับคนไทย
การดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นรูปธรรม 5 แนวทาง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยการสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนในทุกขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วย 1.ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50% ในปี 2573 2. ลดขยะพลาสติกให้เป็นศูนย์ ด้วยการใช้พลาสติกรีไซเคิล ภายในปี ในปี 2573 3. ลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหารจากกระบวนการผลิต ให้ได้ 50% ภายในปี 2568 4. ดูแลรักษาแหล่งน้ำ ด้วยการลดการใช้น้ำ 80% ในปี 2573 และ5. จัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน 100% ในปี 2568
5 ความสำเร็จในปี 67
ความสำเร็จของการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนของกลุ่มบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ จากที่เริ่มแผนดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2018 มี 5 เรื่องที่สำคัญ
1. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัจจุบันลดลงถึง 92% ด้วยการเสาะหาเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงการใช้พลังงานทางเลือก และพลังงานหมุนเวียน
2. ลดขยะพลาสติกให้เป็นศูนย์ โดยปรับเป็นแพ็กเกจที่รีไซเคิลได้เพิ่มขึ้น 72% โดยเปิดตัวผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะซองกระดาษ ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก นอกจากนี้ยังมีการปรับแพ็กเกจสินค้าอื่นๆ เช่น รสดี กาแฟเบอร์ดี้ ให้รีไซเคิลได้ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
3. ลดการสูญเสียอาหาร และขยะอาหารจากกระบวนการผลิตได้ถึง 72% จากทั้งภาคโรงงาน และแคมเปญเพื่อผู้บริโภค
4. ดูแลรักษาแหล่งน้ำ ด้วยการลดการใช้น้ำในการผลิต รวมไปจนถึงการทำโครงการจัดการบำบัดน้ำก่อนปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ได้ถึง 92%
5. จัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน ทั้งการเลือกใช้กระดาษที่ได้รับ certified FSC น้ำมันปาล์ม และผลิตภัณฑ์จากปาล์มที่ผ่านการรับรอง หรือเนื้อหมูที่ได้รับความคุ้มครองเรื่อง Animal welfare และเมล็ดกาแฟ ที่ผ่านรับรอง เพื่อการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน
Ajinomoto Biocycle วัฏจักรชีวภาพ
ที่สำคัญ ในการเติบโตไปพร้อมกับชุมชน และพี่น้องเกษตรกรไทย นำแนวคิด “วัฏจักรชีวภาพ” หรือ “Ajinomoto Biocycle” เป็นกลไกความร่วมมือกับภูมิภาคท้องถิ่นในกระบวนการจัดการที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งภาคการผลิต การเกษตร สู่ผู้บริโภค เพื่อสร้างกระบวนการผลิต และการเกษตรที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ อายิโนะโมะโต๊ะ ประเทศไทย ใช้วัตถุดิบแป้งมันสำปะหลังรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ จึงสนับสนุนให้ชาวไร่มันสำปะหลังทำการเกษตรอย่างยั่งยืนด้วยการสานต่อ โครงการ Thai Farmer Better Life Partner ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อเพิ่มศักยภาพและเสริมทักษะเกษตรกรไทยแบบครบวงจร พร้อมต่อยอดสู่ชาวไร่กาแฟซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตกาแฟเบอร์ดี้ให้พร้อมเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง
5 ข้อโอกาสของธุรกิจ
ทั้งนี้ แนวทางที่จะทำให้อายิโนะโมะโต๊ะเติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่ 1.จัดทำ Carbon Footprint ปริมาณ GHGs ที่ปล่อยออกมา และดูดกลับจากกิจกรรมต่างๆ ขององค์กร ใน scope 1 , 2 และ 3 ที่เป็นแผนการดำเนินงานระยะกลางคือ ตั้งแต่ปี 2018 สู่ปี 2030 ต่อเนื่องเป็นแผนระยะยาวคือเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050
2.การออกแบบวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตามหลักการ EPR ซึ่งขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิตครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ เช่น ผงชูรสซองกระดาษ และเริ่มดำเนินการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ เข้าสู่ระบบรีไซเคิล
3.การบริหารจัดการจัดซื้อ จัดจ้างตลอดห่วงโซ่คุณค่า และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พัฒนาศักยภาพของคู่ค้า ควบคู่กับการหาโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ
4.การเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานเป็นดิจิทัล นำระบบ Digital Transformation มาใช้ในการทำงานในองค์กร
และ 5.ความยืดหยุ่นขององค์กรในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ เช่น ปรับรูปแบบการทำงาน Hybrid Work , Work From Anywhere และ Flexible time นอกจากจะเป็นการสร้างความสุขให้พนักงานมีการทำงานที่ยืดหยุ่นตอบเทรนด์การทำงานยุคใหม่แล้ว ยังเป็นการช่วยลดคาร์บอน จากการที่ไม่ต้องเดินทางมาออฟฟิศทุกวัน ช่วยลดมลพิษ และค่าใช้จ่ายจากการเดินทาง
ปัจจัยภาคธุรกิจสู่ความยั่งยืน
“ปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับองค์กรภาคธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน อายิโนะโมะโต๊ะ มองว่าอยู่ที่การใช้หลัก ESG ในการดำเนินธุรกิจอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคม และสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนของกิจกรรมทางธุรกิจ” ดร.ทองดี กล่าว
ในส่วนของอายิโนะโมะโต๊ะ ด้านสิ่งแวดล้อมนั้น โรงงาน และฐานการผลิตทุกแห่ง มีการบริหารจัดการภายใต้แนวคิด "โรงงานสีเขียว" และยึดมั่นนโยบาย "การปลดปล่อยมลพิษเป็นศูนย์" โดยนำระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้มาตรฐานระดับสากลมาปฏิบัติ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าผ่านหลัก 3R (Reduce, Reuse, Recycle)
ด้านสังคม บริษัทให้ความสำคัญกับความอยู่ดีมีสุขในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ผู้บริโภค และผู้ผลิตต่างๆ โดยการรับซื้อขายของเราต้องให้ราคาอย่างเป็นธรรม มาจากแหล่งผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ และด้านธรรมาภิบาล ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์โปร่งใส ต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ
“ความยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้จากความร่วมมือกันของทุกๆ ภาคส่วนในการสร้างผลกระทบเชิงบวกไปด้วยกัน อายิโนะโมะโต๊ะมีความมุ่งมั่นที่เป็นผู้นำในการสร้างความกินดีมีสุข พร้อมดูแลสังคม สิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนในอนาคต” ดร.ทองดี กล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์