พังเพราะเป็นทาสความคิด | รศ.บวร ปภัสราทร

พังเพราะเป็นทาสความคิด | รศ.บวร ปภัสราทร

บางคนรู้จักใช้ความคิดของตนในการสร้างความสุข ความสำเร็จให้กับชีวิต ในขณะที่บางคนเป็น "ทาสความคิด" ที่ทำอะไรต่าง ๆนาๆไปตามที่ความคิดกำหนดให้ทำ

โดยไม่ได้รู้ตัวว่าที่ทำไปตามบัญชาของความคิดที่มีอยู่ในขณะนั้น จะไม่นำอะไรดี ๆกลับมาเลย คนรู้จักใช้ความคิดจึงมีสุขมากกว่าคนที่ตกเป็นทาสความคิดของตนเอง

คงเคยเห็นคนที่ตั้งหน้าตั้งตารักษาเก้าอี้ไว้สุดฤทธิ์ ทั้ง ๆที่รู้เต็มอกอยู่ว่าผู้คนเบื่อหน่ายเต็มที  ที่บากหน้ากระทำไปต่างๆนาๆทั้ง ๆที่ไม่ใช่ตัวตนของตนเองก็เพราะ เป็นทาสความคิดเดิม จนคิดต่างไปจากเดิมไม่ได้

คิดได้แต่ว่าที่นั่นขาดฉันไม่ได้ เมื่อคิดเป็นอื่นไม่ได้ ก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่บนเก้าอี้นั้นต่อไป ตราบเท่าที่เราติดกับดักของความคิดเดิม จนไม่อาจมีความคิดใหม่ใดๆ เกิดขึ้นมาได้ 

เรากำลังทำตัวเป็นทาสความคิดนั้นอยู่ ความคิดดั่งเดิมจะกำหนดการกระทำของเราทั้งในวันนี้ และวันพรุ่งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าคิดแบบเดิม ภายใต้บริบทใหม่  ผลที่เกิดขึ้นตามมาไม่น่าจะสู้ดีนัก

พระเอกกลายเป็นผู้ร้ายมากมายก็เพราะเป็นทาสความคิดที่มีอยู่เดิม ครูอาจารย์ที่เคยเป็นพระเอกในยุคผมสั้น กลายเป็นผู้ร้ายในยุคผมยาว

เพราะครูอาจารย์ยังเป็นทาสความคิดเดิม ๆเกี่ยวกับผมกับความสำเร็จของการศึกษา  เราจะไม่เป็นทาสความคิดเดิม ๆ หากมีสติรับรู้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ยอมรับอนิจจัง ความไม่แน่นอน แล้วปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น 

ถ้าไม่อยากกลายเป็นผู้ร้ายภายใต้ความปรารถนาดี อย่าได้ยอมให้ความคิดเดิม ๆมากำหนดการกระทำในวันหน้าอย่างเด็ดขาด

เรามักเป็นทาสความคิดที่เราเชื่อเต็มที่ว่าที่คิดนั้นถูกแล้วดีแล้ว  จึงไม่ได้มีการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ว่าที่คิดไปแบบนั้นเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน

พังเพราะเป็นทาสความคิด | รศ.บวร ปภัสราทร

แต่เรามักทำตามความคิดนั้นด้วยความมั่นอกมั่นใจอย่างเต็มที่  ซึ่งพบกันเสมอว่า เมื่อได้ทำไปแล้ว และภายหลังมีโอกาสได้มาทบทวนความคิดนั้นใหม่ จะรู้สึกอยากหมุนเวลากลับ เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนการกระทำนั้นใหม่ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง

โบราณบอกไว้นานแล้วว่า ให้คิดก่อนทำ ซึ่งไม่ใช่แค่ได้คิด แต่ต้องไตร่ตรองให้รอบคอบว่าเป็นเหตุเป็นผล และสอดคล้องกับความเป็นจริงแค่ไหน  คิดแล้วคิดเพิ่มให้รอบคอบอีกนิดก่อนลงมือทำ

โดยตระหนักไว้ด้วยว่า เรามีความลำเอียงที่จะเชื่อว่าเราคิดถูกอยู่เสมอ  คิดรอบคอบจึงหมายถึงต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์ หรือตรรกะที่มีหลักการมาช่วยสนับสนุนความคิดนั้น

อย่าทำแค่คิดรอบคอบไปตามมโนที่ตนเองมีอยู่ เพราะนั่นไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาเลย

ในบางสถานการณ์จะมีตัวกระตุ้นความคิดของเราให้ไปในทางใดทางหนึ่ง ถ้าไม่ได้ตระหนักไว้ก่อนว่าควรจะรับมือตัวกระตุ้นเหล่านี้อย่างไร จะส่งผลให้เราคิดไปเหมือนเป็นระบบอัตโนมัติในทันทีที่พบเจอตัวกระตุ้นเหล่านั้น 

ผู้บริหารบางท่านพบเจอใครมาทำงานสาย  จะไม่เสียเวลาคิดอะไรอีกเลย นอกจากหาทางเล่นงานโดยอัตโนมัติ เจอตัวกระตุ้นเรื่องมาสาย ก็จะมีการกระทำแทบทุกอย่างที่ทำไปตามวิธีการที่คุ้นเคย

เจอมาสายต้องเล่นงาน โดยไม่ดูเลยว่าเหตุแห่งการมาสายคืออะไร มาสายบ่อยแค่ไหน  ถ้าไม่ตระหนักไว้ก่อนว่ามีโอกาสสูงมากที่ความคิดของเราจะติดกับดักของตัวกระตุ้นบางเรื่อง

แล้วยิ่งเจอภาระงานจำนวนมาก ๆ หรือเจองานยากที่กระทำให้สำเร็จได้ยาก ตัวกระตุ้นจะนำไปสู่ความคิดอย่างใดอย่างหนึ่งโดยไม่มีการไตร่ตรอง  

เจอเมื่อใด สรุปทันทีว่าต้องคิดอย่างไร กลายเป็นกรอบความคิดที่ตายตัวสำหรับเรื่องนั้น 

ถ้าเหนื่อยขึ้นมาแล้ว ไม่ว่างานตรงหน้าจะมีปัญหาต่างกันอย่างไร  วิธีทำที่เลือกใช้เหมือนเดิมทุกประการ ถ้าเจองานยากที่รับมือไม่ไหว งานต่อไปคือเตรียมแก้ตัว

ถ้าไม่ยอมรับในสรรพสิ่งตามสภาพที่เป็นได้จริง ลูกเรียนคณิตศาสตร์ไม่เก่ง แต่ยอมรับไม่ได้ เราจะเป็นทาสความคิดที่เกี่ยวกับเรื่องที่เรายอมรับไม่ได้ เราอาจคิดว่าลูกไม่ตั้งใจเล่าเรียนอย่างเพียงพอ ซึ่งนำไปสู่การกระทำของเรากับลูกในทางลบ สร้างความเสียหายกับทั้งเราทั้งลูก

เราต้องทำให้ความคิดเป็นบริวารของเราในการสร้างความสำเร็จ  อย่ายอมให้การกระทำของเราเป็นทาสของความคิดเด็ดขาด

พังเพราะเป็นทาสความคิด | รศ.บวร ปภัสราทร

คอลัมน์ ก้าวไกลวิสัยทัศน์
รศ.บวร ปภัสราทร 
นักวิจัย Digital Transformation
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
email. [email protected]