ฝุ่น PM 2.5 เชียงใหม่ยืนหนึ่งไร้คู่แข่ง เช็ก 10 จุดคุณภาพอากาศแย่สุดในไทย
สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จ.เชียงใหม่ เป็นเมืองที่อากาศแย่ที่สุดอันดับ 1 ของโลกอย่างต่อเนื่อง เช็ก 10 จุดคุณภาพอากาศแย่สุดในประเทศ อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอนสูงสุดวัดได้ 425 AQI
สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เว็บไซต์ IQAir รายงานคุณภาพอากาศ ประเทศที่มีมลพิษทางอากาศสูงสุดในโลกปรากฏว่าวันนี้ จ.เชียงใหม่ เป็นเมืองที่อากาศแย่ที่สุดอันดับ 1 ของโลกอย่างต่อเนื่อง วัดได้ 282 AQI จากข้อมูล ณ เวลา 9.02 น.วันที่ 5 เมษายน 2566
อันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของประเทศไทย 10 อันดับแรก
คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีม่วงทั้งหมด ซึ่งเป็นระดับที่มีผลกระทบเป็นอย่างมากและอันตรายต่อสุขภาพ ดังนี้
1.อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน ดัชนีคุณภาพอากาศ 425 AQI
2.อำเภอทุ่งช้าง จ.น่าน ดัชนีคุณภาพอากาศ 413 AQI
3.อำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ดัชนีคุณภาพอากาศ 385 AQI
4.แม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน ดัชนีคุณภาพอากาศ 373 AQI
5.อำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ ดัชนีคุณภาพอากาศ 340 AQI
6.อำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ ดัชนีคุณภาพอากาศ 331 AQI
7.อำเภอพาน จ.เชียงราย ดัชนีคุณภาพอากาศ 308 AQI
8.อำเภอดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ดัชนีคุณภาพอากาศ 297 AQI
9.อำเภอห้างฉัตร จ.ลำปาง ดัชนีคุณภาพอากาศ 284 AQI
10.เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ดัชนีคุณภาพอากาศ 282 AQI
ด้านศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 5 เมษายน 2566 ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐาน 28 จังหวัด ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ
- เชียงราย
- เชียงใหม่
- น่าน
- แม่ฮ่องสอน
- พะเยา
- ลำพูน
- ลำปาง
- แพร่
- อุตรดิตถ์
- พิษณุโลก
- กำแพงเพชร
- พิจิตร
- นครสวรรค์
- อุทัยธานี
- ชัยนาท
- สิงห์บุรี
- ลพบุรี
- สระบุรี
- สุพรรณบุรี
- ราชบุรี
- บึงกาฬ
- หนองคาย
- เลย
- อุดรธานี
- นครพนม
- หนองบัวลำภู
- มุกดาหาร
- ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 35-320 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 7 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 34-115 มคก./ลบ.ม.
- ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 6 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 35-63 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 17-38 มคก./ลบ.ม.
- ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 11-23 มคก./ลบ.ม.
- กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐาน 10 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 28-104 มคก./ลบ.ม.
คำแนะนำทางสุขภาพ
ประชาชนทั่วไป : ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น
ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ : ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์
สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
สามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK
กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 6-12 เมษายน 2566 ดังนี้
- วันที่ 6-12 เมษายน 2566 เป็นต้นไปสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังคงมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น เพดานการลอยตัวอากาศที่สูงขึ้น ประกอบกับลมทางใต้ที่กำลังแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่
อย่างไรก็ตามวันที่ 6-7 เมษายน 2566 อาจมีสภาพอากาศที่ปิดได้ในบางพื้นที่ แต่ภาพรวมของพื้นที่ยังคงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มที่ควรเฝ้าระวังในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านในวันที่ 6-12 เม.ย.2566 อย่างไรก็ตามช่วงวันที่ 6-7 เมษายน 2566 ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพราะอากาศค่อนข้างปิด