เอาชนะความ “ทุกข์ใจ” | วรากรณ์ สามโกเศศ
มีคนจำนวนไม่น้อย ที่ตลอดชีวิตหรือบางครั้งในชีวิตรู้สึกไม่ชอบตัวเอง หรือถึงขนาดเกลียดชังเอาด้วยซ้ำโดยอาจมาจากการคิดว่าได้กระทำสิ่งที่ผิดพลาด หรือไม่สมควรทำในอดีต จนทำให้เกิดความทุกข์ใจ หาความสุขไม่ได้ เกิดผลกระทบต่อสุขภาพกายและใจในที่สุด
ปัจจุบันนักจิตวิทยามีคำแนะนำ อันจะช่วยให้เกิดความรู้สึกที่เห็นความสำคัญของตนเองตลอดจนมีภาพลักษณ์ของตนเองที่ดีขึ้นอีกด้วย
คนที่รู้สึกไม่ชอบหรือเกลียดชังตัวเองอย่างสุด ๆ นั้น น่าหวาดหวั่นเพราะบ่อยครั้งอาจนำไปสู่พฤติกรรมที่เกี่ยวพันกับความสุ่มเสี่ยงในเรื่องเพศ การทำร้ายตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักเกิดความคิดในการลงโทษตนเองด้วยความรุนแรง
มีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่สุขใจจนรู้สึกหดหู่ เมื่อนึกถึงความผิดพลาด ความล้มเหลว การไม่ปฏิบัติสิ่งที่ควรทำ หรือกระทำสิ่งที่ไม่ควรทำครั้งหนึ่งหรือหลายครั้งในอดีต
โดยเอาสิ่งเหล่านั้นมาขยายใหญ่ในความคิดทั้ง ๆ ที่อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งดี ๆ อื่น ๆ ที่ได้ทำมาในชีวิต
แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคิดสุดโต่ง หรือ การคิดคำนึงเป็นบางครั้งก็ตามล้วนไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพทั้งสิ้น
นิตยสาร Psychology Today มีบทความชื่อ Yourself More โดย Katherine Cullen (April 20, 2023) ซึ่งให้คำแนะนำที่เป็นรูปธรรมในการ ”ลดทุกข์และสร้างสุข” ดังต่อไปนี้
(1) ให้ความรักและความเมตตาแก่ผู้อื่น การให้ความรักความเมตตาแก่สรรพสิ่งในโลก รวมทั้งตัวเองด้วยของชาวพุทธเป็นเรื่องน่าปฎิบัติ จงเอามือแตะหัวใจและหายใจเข้าลึก ๆ ยาวและปล่อยลมหายใจออกยาว ๆ
พร้อมกับท่องว่า “ขอให้มีความมั่นใจ” 5 ครั้ง และทำซ้ำอีก 5 ครั้งโดยท่องว่า “ขอให้รู้สึกว่าสมควรได้รับความรัก” ทำเช่นนี้ทุกวันไม่น้อยกว่า 1 อาทิตย์ แล้วจะมีทางโน้มว่ารู้สึกอ่อนโยนมากขึ้นกับตนเองและตำหนิตนเองน้อยลง
(2) นึกถึงความสำเร็จในอดีต เมื่ออยู่ในห้วงความรู้สึกที่เป็นลบ และหดหู่เกี่ยวกับตนเอง เราอาจลืมไปว่าได้เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในชีวิต และเคยรู้สึกดีๆ กับความสำเร็จนั้น จงใช้เวลา 5-10 นาทีเขียนสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกดี ๆ ในชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ก็ตามที
การกระทำนี้จะเตือนใจเราว่าแท้จริงแล้วเราสามารถประสบความสำเร็จได้ และเรามีความสามารถที่จะชื่นชมยินดีกับมัน
ความสำเร็จที่กล่าวถึงนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่โตเพราะหมายถึง การเลี้ยงลูกดี ๆ ทิ้งไว้ ในโลก การได้ทำงานเพื่อสังคม การไม่เบียดเบียนคนอื่นอย่างตั้งใจ
การงานที่ช่วยทำให้คนอื่นมีรายได้ การทำบุญทำทาน การได้ช่วยเหลือผู้อื่น การเป็นพลเมืองดี การสามารถมีอายุยืนยาวอย่างพึ่งตนเองได้ ฯลฯ
(3) นึกถึงการช่วยเหลือที่เคยได้รับ นึกถึงคนที่เชื่อถือเรา ไว้วางใจและสนับสนุนเราในอดีต นึกถึงคำพูดที่ให้กำลังใจ นึกถึงโมเม้นที่รู้สึกอบอุ่นเพราะความรักความเมตตาที่ได้รับ นึกถึงมือที่ลูบหัวลูบหลังให้กำลังใจ นึกถึงคำพูดหรือการกระทำที่ทำให้เรามีความเชื่อมั่นสูงขึ้น และทำให้ใจสงบ
(4) ทำดีกับคนอี่น ๆ ความจริงของชีวิตก็คือถ้าเราไม่ “ทำสิ่งที่ดี” มันก็ยากที่เราจะรู้สึกดี ๆ กับตนเองได้ ดังนั้นการมีพฤติกรรมที่ทำให้คนอื่นเห็นว่าเราเป็น “มนุษย์ที่มีความดีงาม” จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
มนุษย์ส่วนใหญ่รู้สึกดีขึ้นกับตนเองเมื่อได้ทำสิ่งที่ดี ๆ ให้แก่คนอื่น (การให้และการได้รับคือสิ่งเดียวกัน) ถ้าทำดีอย่างน้อยวันละหนึ่งอย่างก็จะช่วยจิตใจเราเองได้มาก
เช่น การเปิดประตูให้คนอื่น การพูดจาดี ๆ ให้เกียรติคนอื่น การช่วยเหลือคนรู้จัก การแสดงความซาบซึ้งใจต่อสิ่งที่คนอื่นทำให้ ทำบุญทำทาน ทำงานอาสาสมัครเพื่อสังคม ฯลฯ
ถ้าเราทำสิ่งเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยเพิ่มความรู้สึกว่าตนเองมีความสำคัญและชีวิตมีความหมายยิ่งขึ้น
(5) ยกโทษให้ตนเอง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เกิดมาแล้วจะไม่เคยกระทำสิ่งใดผิดพลาดในชีวิต ใคร ๆ ก็รู้ความจริงข้อนี้ แต่ในยามที่เราอยู่ในห้วงความรู้สึกหลังจากกระทำผิดพลาดจนล้มเหลวในงาน ในธุรกิจ หรือในชีวิต (แฟนบอกเลิกหรือทิ้งไป)
เราจะตกอยู่ในห้วงคิดที่เป็นลบ จะคิดว่าตนเองเป็นคนล้มเหลว ไม่เคยทำอะไรสำเร็จ การคิดสรุปที่ผิดพลาดนี้จะนำไปสู่ความทุกข์
ผู้เขียนแนะนำว่าให้หยุดการครุ่นคิดเช่นนี้และไปค้นหาเรื่องราวของคนที่ล้มเหลวและลุกขึ้นมายืนได้มาอ่าน หรือพูดคุยกับคนอื่นในเรื่องความผิดพลาดของชีวิตในอดีต
เมื่อเห็นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนเคยประสบมาด้วยกันทั้งนั้นก็อาจทำให้เรารู้สึกยกโทษให้ตนเองขึ้นบ้างสำหรับสิ่งที่เราคิดว่าผิดพลาด
(6) อย่าหลีกหนีความท้าทาย อย่าหลบหนีผู้คนไปขังตัวเองอยู่คนเดียว ลองท้าทายตัวเองด้วยการทำอะไรที่ไม่เคยชินเดือนละหนึ่งอย่าง เช่น ออกไปร่วมงานปาร์ตี้ พบปะผู้คนใหม่ ๆ เข้าคลาสเรียนรู้งานอดิเรก ออกไปดูร้านค้าใหม่ที่เปิดในละแวกบ้าน เข้าวัดฟังธรรม นั่งสมาธิ ฯลฯ หากนั่งจดสิ่งที่ตนเองสนใจแต่ยังไม่เคยลงมือก็จะเห็นหลายสิ่งที่ท้าทาย
(7) ใช้เวลาในการชอบตนเอง การตัดความรู้สึกที่เป็นลบเกี่ยวกับตนเองออกไปนั้นต้องใช้เวลาแต่หากฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอก็สามารถเอาชนะได้
สำหรับคนที่รู้สึกไม่ชอบตนเองเป็นครั้งคราวนั้น การฝึกฝนจิตใจและมีพฤติกรรมของความมีเมตตากรุณา การให้ การยกโทษ การช่วยเหลือนั้นจะทำให้รู้สึกในที่สุดว่าตัวเราก็เป็น "คนใช้ได้”
มนุษย์นั้นหากรู้สึกดี ๆ กับตนเองแล้วก็จะเห็นคุณค่าของตนเอง อุปมาเหมือนคนเห็นคุณค่าของจานสังคโลกอันทรงคุณค่าก็ย่อมไม่เอามาโยนเล่น แต่หากเขาไม่เห็นคุณค่าเหมือนที่ไม่เห็นคุณค่าชีวิตตนเองแล้วก็สามารถกระทำสิ่งที่สุ่มเสี่ยงได้เสมอ
เราเห็นพฤติกรรมของคนที่คิดว่าตนเองล้มเหลว ผิดหวังในชีวิตอย่างรู้สึกไร้ค่าที่ออกไปทางความรุนแรงอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าทำร้ายผู้อื่นหรือตนเอง
มนุษย์เกิดมามีชีวิตเดียว มีจิตใจดวงเดียว สำหรับคนที่รู้สึกไม่มีความสุขใจเป็นบางครั้งเพราะนึกถึงบางความผิดพลาดในชีวิตแต่หนหลังจนคิดขยายใหญ่เกินความจริงนั้น
ข้อแนะนำข้างต้นน่าจะเป็นประโยชน์มาก แต่สำหรับคนสุดโต่งในเรื่องการเกลียดชังไม่ชอบตนเองอย่างรุนแรงนั้น จำเป็นต้องใช้เวลาและอาจต้องรักษาด้วยการบำบัดทางจิตวิทยา
สุขกายเท่าใดก็ไม่มีวันสู้สุขใจได้ ต่อให้มีเงินทองสามารถซื้อที่นอน หมอน เครื่องปรับอากาศราคาแพงแต่ก็ไม่อาจซื้อการนอนหลับอย่างปกติสุขซึ่งเกิดจากการมีความสุขทางใจได้.