ดีจริงหรือ! อาหารที่เหมือนจะ Healthy กินแล้วดีต่อสุขภาพ กินแล้วผอม
กระแส Healthy ดูแลสุขภาพ ป้องกันโรค เป็นเทรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มของคนรุ่นใหม่ และผู้สูงอายุ จะให้ความสำคัญในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
Keypoint:
- 'อาหารสุขภาพ' เป็นทางเลือกที่จะช่วยให้ทุกคนสุขภาพดี ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น plant-based โปรตีนจากพืช ขนมคีโต แป้งกลูเตนฟรี เป็นต้น
- อาหารดีต่อสุขภาพ มีคุณค่าทางอาหารสูงบางชนิดที่เราคิดว่าดี ทว่าหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป มีทั้งไขมัน แคลอรี่ น้ำตาลสูง อาจนำโรคร้ายมาได้
- 9 วิธีที่จะช่วยให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่ดี เหมาะสมต่อช่วงวัย ปริมาณที่พอเหมาะกับร่างกาย ดูแลสุขภาพให้ห่างไกลโรค
หลายคนควบคุมน้ำหนัก ลดน้ำหนัก เพื่อให้ไม่เป็น 'โรคอ้วน' โรคที่อาจจะนำมาซึ่งโรคร้ายอีกมากมาย และวิธีการลดน้ำหนัก นอกจากการออกกำลังกายแล้ว การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เป็นแนวทางที่ดีและง่าย
ทว่า อาหารที่หลายๆ คนคิดว่า Healthy ทานแล้วดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทานแล้วผอม อาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น...เพราะบางทีอาหารเหล่านี้ อาจจะมีไขมันที่สูง มีโซเดียมที่สูง หรือแคลอรี่สูงจนน่าตกใจ
‘อาหารแคลอรี่สูง’ หมายถึงอาหารที่มีแคลอรี่ปริมาณมาก ซึ่งมาจากสารอาหารหลัก 3 ประเภท ได้แก่ ไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต ซึ่งไขมันมีแคลอรี่ต่อกรัมมากที่สุด และส่งผลให้อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันกลายเป็นอาหารที่มีแคลอรี่สูง
นั่นหมายความว่าการรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่สูงมากเกินไป อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงควบคุมหรือลดน้ำหนักจึงควรจัดสัดส่วนการกินให้รอบคอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
มือใหม่ เริ่มต้นกิน 'อาหารคลีน' อย่างไร ให้สุขภาพดี
ลดพุง ลดอ้วนอย่างไร? ให้ได้ผล เปิดอาหารสุขภาพ เสริมออกกำลังกาย
เปลี่ยนความคิด! อาหารดีต่อสุขภาพอาจไม่ดีจริง
'กรุงเทพธุรกิจ' ชวนมาเช็กอาหารที่คิดว่ากินแล้วดีต่อสุขภาพ กินแล้วผอม แต่หากรับประทานมากเกินไปอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น ฉะนั้น เพื่อให้ทุกคนมั่นใจได้ว่าจะเลือกบริโภคอาหารเหล่านี้ได้ในปริมาณอันเหมาะสม เริ่มด้วย
- ผลไม้อบแห้ง
สาวๆ ที่มักจะชื่นชอบการกินขนมจุกจิก ก็เริ่มมองหา 'ผลไม้อบแห้ง' เพราะเชื่อว่ามีคุณค่าที่ได้จากผลไม้ มีสารอาหารที่ดี และไม่น่าจะทำให้อ้วน แต่ความจริงแล้ว เมื่อเทียบกับผลไม้สด คุณค่าทางอาหารต่างกันมาก อาหารชนิดนี้ได้ผ่านกรรมวิธีสารพัด กว่าจะสำเร็จรูปมาถึงมือของเราผลไม้เหล่านี้แทบไม่เหลือสารอาหารอะไรเท่าไหร่แล้ว แถมมักจะถูกใส่น้ำตาลจำนวนมากเพิ่มเข้ามาอีกด้วย
แม้ในผลไม้อบแห้งจะมีใยอาหารที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ดังนั้น วิธีกินผลไม้อบแห้งในมีคุณประโยชน์สูงสุดคือกินในปริมาณที่พอดี ไม่เยอะจนเกินไป และเคี้ยวนานๆให้ร่างกายอิ่มได้เร็วขึ้น
- อโวคาโด
ผลไม้ยอดฮิตของสาย Healthy พืชผลไม้ไขมันดีตัวนี้เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ เมื่อผลสุกได้ที่แล้วรสชาติจะนวลเนียน ละมุนอร่อยมากๆ นิยมทานกันเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น สมูทตี้หรือสลัด หรืออาจจะปรับเปลี่ยนเป็นอาหารหลักๆได้เลย
แต่ข้อเสียของผลอโวคาโด คือ มีไขมันจำนวนมาก เป็นไขมันดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็มีจุดควรระวังเนื่องจากตัวอโวคาโดเอมีความเป็นไขมันมากถึง 15 กรัมต่อหนึ่งลูก กินบ่อยๆอาจจะอ้วนขึ้นได้ทุกคน
หากดูข้อมูลทางโภชนาการจะพบว่าอโวคาโดให้พลังงานมากกว่า 350 แคลอรี่ ซึ่งการที่คุณใส่มันลงไปในชาม ‘กัวกาโมเล่’ อาหารว่างสไตล์เม็กซิกันแสนอร่อย นั่นอาจทำให้คุณรับไขมันเพิ่มมากขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว
อาหารลดน้ำหนัก รับประทานมากอาจไม่ช่วย
- ข้าวโอ๊ค
ข้าวโอ๊คที่ฮิตนำไปทำเมนูสุขภาพสุดฮิตอย่าง Overnight Oatmeal มีหลากหลายรสชาติให้เลือกมากตามความชอบ แต่ข้อแนะนำในการเลือกเมนูสุขภาพอย่างข้าวโอ๊ตให้ Healthy สุด ๆ นั้นแนะนำให้เลือกแบบธรรมดาที่สุด ไม่แต่งกลิ่น แต่งรสชาติ หรือเติมผลไม้แห้งลงไป เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการแต่งเติมกลิ่น รสชาติลงไป นั้นหมายความว่าน้ำตาลจะยิ่งสูงมากขึ้นไปด้วย
- โยเกิร์ต
โยเกิร์ตที่เป็นอาหารนิยมกินควบคุมน้ำหนัก เป็นอันดับต้นๆ ทำให้อ้วนได้เหมือนกัน เราอาจไม่รู้แต่ถ้าตามร้านข้างทางที่ขายสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต เขาได้ใส่น้ำตาลผสมมาในโยเกิร์ตเอาไว้แล้ว ส่วนใหญ่ใช้โยเกิร์ต มักจะใส่น้ำตาลในปริมาณที่สูงมาก เพื่อเพิ่มรสชาติในโยเกิร์ตอร่อย ไม่จืดมากเกินไป และโยเกิร์ตในยุคนี้มีหลากหลายยี่ห้อ ราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ
โยเกิร์ต เป็นอาหารที่ช่วยควบคุณน้ำหนักได้จริง เพียงแต่ต้องคอยดูฉลากข้างผลิตภัณฑ์ดีๆ แนะนำเป็นชนิดที่มีโปรตีนเยอะหน่อย แต่ที่สำคัญน้ำตาลต้องน้อยๆ เข้าไว้
โยเกิร์ตไขมันต่ำรสผลไม้ต่าง ๆ มีหลักการไม่ต่างจากน้ำสลัด เพราะแม้ว่าจะมีไขมันที่ต่ำถึง 0% ก็จริง แต่ก็มีน้ำตาลที่สูงด้วยอีกทั้งยังมีการแต่งสี แต่งกลิ่น เพื่อให้รสชาติหอมอร่อยอีกต่างหาก 1 หน่วยบริโภค 135 กรัม รสธรรมชาติมีน้ำตาล 8 กรัม หากเพื่อน ๆ ทานรสผลไม้อื่น ๆ น้ำตาลจะยิ่งสูงขึ้นไปอีก หากอยากทานโยเกิร์ตจริงๆ แนะนำให้ทานกรีกโยเกิร์ตรสธรรมชาติแล้วเติมน้ำผึ้งธรรมชาติหรือผลไม้สด ๆ
- กราโนล่า
กราโนล่า ที่ระบุไว้ว่ามีไฟเบอร์สูง มีโฮลเกรน และมีส่วนผสมของผลไม้แห้งที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย จริง ๆ เมื่อมองไปที่ฉลากแล้วคุณอาจจะตกใจก็ได้ เมื่อพบว่าบางแบรนด์มีน้ำตาล และแคลอรี่ที่สูงมากๆ บางยี่ห้อสูงประมาณ 400 แคลอรี่ ยังไม่รวมนมสดที่ต้องใส่ลงไปอีก ดังนั้น หากคุณต้องการเลือกซื้อกราโนล่าแบบเฮลตี้จริง ๆ ควรดูฉลากบอกรายละเอียด ปริมาณน้ำตาล แคลอรี่ คุณค่าทางอาหาร เพื่อให้รับประทานกราโนล่าแบบอร่อยไม่อ้วน
โดยเฉลี่ยแล้วกราโนล่าหนึ่งถ้วยที่ผู้คนนิยมทานเป็นมือเช้าจะมีพลังงาน 597 แคลอรี่ และไขมัน 29 กรัม นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมคุณควรหลีกเลี่ยงการทานเจ้านี่หากต้องการลดน้ำหนัก
- มันฝรั่งทอดไม่ใช้น้ำมัน
มันฝรั่งแสนอร่อยของโปรดของใครหลายคน แม้จะอุ่นใจที่ได้ทานของอร่อยแบบไม่มีไขมัน เพราะใช้การอบแทนการทอด ทำให้มั่นใจได้ว่า ไม่มีไขมันมากกว่าปกติ แต่รสชาติของมันฝรั่งที่อยู่ในนั้นกลับมีปริมาณของโซเดียมที่สูงมาก ๆ เพื่อทำให้รสชาติของมันฝรั่งกลมกล่อม อร่อยลิ้น และเจ้าโซเดียมเนี่ยละที่มีส่วนสำคัญทำให้ร่างกายเกิดภาวะบวมน้ำ เนื่องจากโซเดียมในร่างกายเยอะเกินไปได้ หากบริโภคเป็นจำนวนมาก ๆ ดังนั้น ควรทำตามคำแนะนำข้างถุง บริโภคแต่น้อยออกกำลังกายให้มาก
- น้ำสลัดแบบข้น- น้ำสลัดไขมันต่ำ
สลัด เต็มไปด้วยผักผลไม้ และเนื้อสัตว์ที่ดีต่อสุขภาพแบบสุดๆ แต่สิ่งที่ทำให้อ้วนจริงๆ คือน้ำสลัด ยิ่งน้ำสลัดแบบข้น น้ำสลัดไขมันต่ำ นี่หละตัวดี พราะน้ำสลัดแบบข้นจะเป็นชนิดอร่อยและทำง่ายที่สุด จะมีส่วนผสมของน้ำมันจำนวนมาก ส่วนประกอบหลักๆจะมี น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำตาล ไข่ และเกลือ ซึ่งร้านสลัดราคาย่อมเยาว์มักจะทำรสชาติหวานโดดเพื่อให้ขายได้และเพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกว่ารสชาติคลีนจนจืดเกินไปอย่างแน่นอน
ขณะที่ น้ำสลัดไขมันต่ำที่นำมาราดกินกับผักสด ๆ ในนั้นมีปริมาณน้ำตาลสูงมากถึง 14 กรัม แม้จะมีไขมันต่ำตามที่ระบุไว้ แต่ปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในน้ำสลัดก็สูงอยู่ดี เพื่อรสชาติที่อร่อย หากใครต้องการทานสลัด แนะนำให้ทำสลัดเองง่าย ๆ ที่บ้าน โดยใช้กรีกโยเกิร์ตที่ไม่มีน้ำตาล รสชาติอาจจะเปรี้ยว แล้วเติมเกลือนิดหน่อย ใส่น้ำผึ้งตามธรรมชาติลงไปเพิ่มรสชาติ แค่นี้ก็จะได้ทานน้ำสลัดแบบเฮลตี้กันแล้ว
- น้ำผลไม้ปั่น
ร้านน้ำปั่นผลไม้ทั่วไปมักใส่น้ำเชื่อมเพิ่มความหวานลงไปให้แก้วน้ำผลไม้มีการสำรวจโดยทีมนักโภชนาการของห้าง เทสโก้ เครือบริษัทซูปเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าปลีกรายใหญ่จากอังกฤษ เผยว่า น้ำผักผลไม้ที่กินอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ แต่เต็มไปด้วยน้ำตาลที่มากมายเช่นเดียวกัน และอาจจะเป็นน้ำตาลในปริมาณที่มากกว่าน้ำอัดลมเสียอีก ซึ่งหากกินบ่อยๆ อ้วนขึ้น
- ข้าวโพดคั่วหรือป๊อปคอร์น
เป็นอาหารที่มีแคลอรีต่ำ แต่มีใยอาหารสูง อย่างไรก็ตาม การทานป๊อปคอร์นจากไมโครเวฟอาจทำให้คุณได้รับสารเคมีมากเกินไป เพราะว่าภายในถุงของข้าวโพดคั่วที่อบด้วยไมโครเวฟมักจะเคลือบด้วย PFCs ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทางที่ดีควรอบป๊อปคอร์นในเตาอบจะดีกว่า
- น้ำอัดลม 0 แคลอรี่
คนส่วนใหญ่ที่กำลังลดน้ำหนักอยู่มักจะเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลมไปดื่มไดเอทโค้ก หรือโค้กซีโร่ ซึ่งสารให้ความหวานในเครื่องดื่มเหล่านี้คือ สารให้ความหวานเทียมในอาหารอาจจะเป็นตัวการก่อให้เกิดโรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานประเภท 2 แม้แต่โรคหัวใจและหลอดเลือด ทางที่ดีเวลาต้องการของหวานๆ เลี่ยงไปทานน้ำผึ้งแทนจะดีที่สุด
- ปลาแซลมอน
ปลาแซลมอนคือแหล่งโปรตีนชั้นดีที่แสนอร่อย ซึ่งเจ้าเนื้อปลาสีส้มลายสวยนี้มีแคลอรี่มากกว่าที่คุณคิด เพราะเนื้อปลาแซลมอนหนึ่งส่วนประกอบด้วยโปรตีน 26 กรัม โอเมก้า 3 และไขมันอิ่มตัวอย่างละ 1 กรัม โดยเมื่อเทียบกับอกไก่แซลมอนจะมีแคลอรี่สูงกว่าเล็กน้อย แต่ก็มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากกว่าเช่นกัน
เนื้อปลาแซลมอนหนึ่งชิ้นน้ำหนัก 170 กรัม อาจมีประมาณ 400 แคลอรี่ และไขมัน 20 กรัม ดังนั้นก่อนการประกอบอาหาร คุณควรตรวจสอบให้ดีว่าปริมาณดังกล่าวมีสัดส่วนเหมาะกับการบริโภคในแต่ละมื้อหรือไม่
- เทรลมิกซ์
เทรลมิกซ์เป็นขนมขบเคี้ยวที่หลายคนคงไม่คุ้นหูสักเท่าไรนี้ ประกอบไปด้วยธัญพืชกับถั่วนานาชนิดที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 โปรตีน วิตามิน E และไฟเบอร์ แต่ก็มีแคลอรี่สูงมากเช่นกัน
แนะนำว่าคุณควรดูข้อมูลโภชนาการที่อยู่หลังบรรจุภัณฑ์ทุกครั้ง เพราะโดยปกติแล้วเทรลมิกซ์หนึ่งถุงจะให้พลังงานราว 700 แคลอรี่ เมื่อพิจารณาจากประโยชน์อันหลากหลายแล้วก็ถือว่าน่ารับประทานอยู่ดี
ถั่วพีแคนที่อยู่ในส่วนผสมหลักคือแหล่งโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และไขมันดีที่จำเป็นต่อหัวใจ โดยถั่วพีแคน 28 กรัม ให้พลังงาน 196 แคลอรี่ และหากต้องการรับประทานก็ควรดูปริมาณอาหารทุกครั้ง แทนที่การบริโภคโดยตรงจากบรรจุภัณฑ์แบบเพลินๆ
- น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยไขมันดี เช่น กรมไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว โดยน้ำมันมะกอกหนึ่งมิลลิลิตรมีแคลอรี่ประมาณ 8 กรัม ซึ่งอาจทำให้คุณได้รับไขมันและแคลอรี่ในปริมาณสูงเกินความจำเป็น
ด้วยความที่น้ำมันมะกอกประกอบไปด้วยโครงสร้างไขมันหนาแน่น นั่นทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้นและลดความอยากอาหารได้พร้อมกัน ทว่าการใส่มันมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องตรวจสอบปริมาณก่อนบริโภคทุกครั้ง
- ดาร์กช็อกโกแลต
มาถึงขนมสุดโปรดขวัญใจใครหลายคนอย่าง ‘ดาร์กช็อกโกแลต’ ที่ประกอบไปด้วยโกโก้ราว 70% หรือมากกว่านั้น ซึ่งมอบประโยชน์ต่อร่างกายได้ดีมากเนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง นอกจากนี้ยังช่วยให้การทำงานของสมองดีขึ้น และลดโอกาสที่จะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
สารอีกหนึ่งตัวที่มีอยู่ในดาร์กช็อกโกแลตอย่าง ‘โพลีฟีนอล’ ทำให้ร่างกายต่อสู้กับโรคต่างๆ รวมถึงมีส่วนช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงอีกด้วย
ทำไมเราทุกคนถึงชื่นชอบเจ้าช็อกโกแลตแท่งสีเข้มนี้ เพราะมันมอบความอร่อยและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งคุณควรบอกกับตัวเองเสมอว่าถึงแม้มันจะมีแคลอรี่ต่ำ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะรับประทานมันได้เป็นจำนวนมาก
โดยปกติแล้วดาร์กช็อกโกแลตหนึ่งแท่งที่หาซื้อได้ทั่วไปจะให้พลังงานราว 600 แคลอรี่ ขณะเดียวกัน คุณไม่ควรทานมันมากเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องผูกตามมาได้
อย่างไรก็ตาม มีเทคนิคเล็กน้อยมาฝาก หากคุณหลงใหลดาร์กช็อกโกแลตจริงๆ โดยให้เลือกที่มีโกโก้ผสมอยู่ในสัดส่วนที่สูง เพราะนั่นทำให้ส่วนผสมที่ทำให้เราอ้วนอย่างน้ำตาลยิ่งลดน้อยลง
- เนยถั่ว
เนยถั่วจัดเป็นหนึ่งในอาหารเพิ่มน้ำหนักตัวสุดคลาสสิก ที่บรรดานักเล่นกล้ามนิยมรับประทานเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยเผาผลาญไขมัน และลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจวาย
หากต้องการให้เนยถั่วช่วยเหลือคุณเพื่อสุขภาพที่ดี โปรดระมัดระวังในการตักออกมาทานสักนิด ถึงแม้ว่าในเนยถั่วมีส่วนผสมของถั่วลิสงคั่วและเกลือเล็กน้อยก็ตาม ซึ่งต่างจากเนยถั่วสำเร็จรูปที่มักเติมน้ำมันพืช น้ำตาล และใส่เกลือมากเกินไปจนสร้างผลเสียต่อสุขภาพของคุณ
สังเกตไหมคะทุกคนว่าต้นตอของความอ้วนนั่นคือไขมัน และน้ำตาลที่อยู่แทบจะทุกชนิดของอาหาร แม้แต่อาหารที่เราคิดว่าดีแล้ว ยังมีน้ำตาลสูงอยู่พอตัวเลย ดังนั้นอยากได้ระมัดระวังเลือกกินกันมากขึ้นน้า เพื่อสุขภาพที่ดีอยู่กันคนรักไปนานๆ เป็นห่วง
9 ข้อปฎิบัติ ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
1.กินอาหารครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากหลายและหมั่นดูแลน้ำหนักตัว
เนื่องจากร่างกายเราต้องการสารอาหารต่างๆ ที่มีอยู่ในอาหาร ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แร่ธาตุ วิตามิน น้ำ และใยอาหาร แต่ไม่มีอาหารชนิดใด ชนิดเดียวที่ให้สารอาหารต่างๆครบ ในปริมาณที่ร่างกายต้องการ จึงจำเป็น ต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และกินแต่ละหมู่ให้หลากหลาย จึงจะได้สารอาหารต่างๆครบถ้วน และเพียงพอ
2 .กินข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ
ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทยที่ให้กำลังงาน มีสารอาหารคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินกับแร่ธาตุ และใยอาหาร ควรกินข้าวที่ขัดสีแต่น้อย และกินสลับกับ อาหารประเภทแป้งอื่นๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ขนมปัง เผือกและมัน
3. กินพืชผักให้มาก และกินผลไม้เป็นประจำ
พืชผักและผลไม้ นอกจากให้วิตามินแร่ธาตุ และกากอาหารแล้ว ยังมีสารอื่นๆ ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปเกาะตามหลอดเลือด และช่วยทำให้เยื่อบุของเซลล์ และอวัยวะต่างๆแข็งแรงอีกด้วย
4. กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ
- เนื้อสัตว์ทุกชนิดมีโปรตีน แต่ควรกินชนิดไม่ติดมันเพื่อลดการสะสมไขมันในร่างกาย
- ไข่เป็นอาหารโปรตีนราคาถูก หาซื้อง่าย เด็กสามารถกินได้ทุกวัน แต่ผู้ใหญ่ควรกิน ไม่เกินสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง
- ถั่วเมล็ดแห้งและผลิตภัณฑ์ เป็นโปรตีนที่ดี ราคาถูก ควรกินสลับกับเนื้อสัตว์เป็นประจำ
5. ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย
นมมีโปรตีน วิตามินบี และแคลเซียมซึ่งสำคัญต่อการเจริญเติบโต และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน จึงเป็นอาหารที่เหมาะสมกับบุคคลทุกวัย ในคนอ้วนควรดื่มนมพร่องมันเนย
6. กินอาหารที่มีแต่ไขมันพอควร
ไขมันให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย ทั้งช่วยดูดซึมวิตามิน เอ ดี อี และเค แต่ไม่ควรกินมากเกินไป จะทำให้อ้วน และเกิดโรคอื่นๆตามมา
การได้รับไขมันอิ่มตัวจากสัตว์ และอาหารที่มีโคเลสเตอรอลมากเกินไป จะทำให้โคเลสเตอรอลในเลือดสูง เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ควรกินอาหารประเภท ต้ม นึ่ง ย่าง อบ จะช่วยลดปริมาณไขมันในอาหารได้
7.หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด
การกินอาหารรสจัดมากจนเป็นนิสัย ให้โทษแก่ร่างกาย รสหวานจัดทำให้ได้พลังงานเพิ่มทำให้อ้วน รสเค็มจัดเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง
8. กินอาหารที่สะอาด ปราศจากการปนเปื้อน
อาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ๆ มีการปกปิดป้องกันแมลงวันและบรรจุในภาชนะที่สะอาด มีอุปกรณ์หยิบจับที่ถูกต้อง ย่อมทำให้ปลอดภัยจากการเจ็บป่วยด้วยระบบทางเดินอาหาร
9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ เป็นโทษแก่ร่างกาย ทำให้สมรรถภาพการทำงานลดลง ขาดสติ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย สูญเสียทรัพย์สิน เงินทอง ตลอดจนชีวิต เสี่ยงต่อ การเป็นโรคตับแข็ง แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้มะเร็งหลอดอาหารและโรคกระเพาะอาหาร จึงควรงด หรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และไม่ขับขี่ยานพาหนะในขณะมึนเมา
อ้างอิง:โรงพยาบาลวิภาวดี ,TrueID และ mangozero