"เที่ยวไม่กักตัว" หรือจะเป็นทางรอด "การท่องเที่ยวไทย"
จริงหรือไม่? ที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทยจะฟื้นตัวหลังหลายประเทศประกาศ "เปิดประเทศ" ยกเลิกข้อจำกัดการเดินทาง "เที่ยวไม่ต้องกักตัว"
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยซึ่งเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมหลักในการขับเคลื่อนประเทศด้วยสัดส่วนประมาณ 11 เปอร์เซ็นต์ ของ GDP (ปี 2562) กำลังตั้งตารอให้ตัวเลขผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจาก โควิด-19 ลดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพื่อกลับมาสู่ชีวิตปกติแบบ New Normal อีกครั้ง เช่นเดียวกับหลายๆ ประเทศในเอเชียที่เริ่มใกล้กลับมาเปิดเมืองจากล็อกดาวน์เช่นเดียวกัน
ประเทศไทยในช่วงแรก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับจังหวัดพันธมิตรมีแนวทางเพื่อสนับสนุนภาค การท่องเที่ยว ของประเทศที่ประสบปัญหา ก็เปิดรับ นักท่องเที่ยว ที่ได้รับวัคซีนครบโดสให้เข้ามาท่องเที่ยวในบางพื้นที่ได้แล้วผ่านโปรแกรมแซนด์บ็อกซ์แบบไม่ต้องกักตัว โปรแกรมนี้ช่วยให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้วเดินทางมาท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัว และเข้าพักในที่พักที่ได้รับการรับรอง SHA+ (SHA Plus) ที่ออกโดย Amazing Thailand Safety and Health Administration เพิ่มเติมจากการตรวจคัดกรอง "โควิด-19" ระหว่างการเข้าพัก
ปณิชา ธนณาเคนทร์ ผู้จัดการทราเวลโลก้า ประจำประเทศไทย ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ "การท่องเที่ยว" ในปัจจุบันว่าก่อนที่จะกลับมาท่องเที่ยวต่างประเทศพร้อมกับเปิดบ้านต้อนรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้นนั้น การท่องเที่ยวในประเทศถือว่ามีความสำคัญในการเข้ามาช่วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในช่วงที่ยังมีการระบาดของโควิดและเรายังเปิดประเทศไม่ได้ และมันก็ทำให้เราได้เห็นอะไรบางอย่างจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปด้วย วิธีที่ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กัน การดำเนินชีวิต รวมไปถึงการเติมเต็มด้านการท่องเที่ยวหรือไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ผู้คนคิดถึงการได้ออกไปเดินทางท่องเที่ยวและเริ่มกลับมาเที่ยวกันอีกครั้งตามข้อมูลผู้บริโภคเชิงลึกที่เปลี่ยนแปลงไปตามการฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิดที่มีการผ่อนคลายมากขึ้นแสดงให้เห็นว่า มีคนเดินทางโดยเครื่องบิน พักในโรงแรม และเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
“เราพบว่าคนไทยร้อยละ 32 เดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศไปยัง 5 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และอุดรธานี ตามลำดับ ซึ่งยังส่งผลให้ยอดเข้าพักโรงแรมต่างๆ ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และชลบุรีเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 25 ในช่วงเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ กลับมาคึกคักอีกครั้งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในกลุ่มสวนสนุก สวนสัตว์ และทัวร์แบบครอบครัวหมู่คณะ”
สำหรับทิศทางที่ดีสำหรับตลาดท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือว่าเป็นตลาด "การท่องเที่ยว" ที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วยประชากรกลุ่มชนชั้นกลางจำนวนมากกว่า 300 ล้านคนเป็นแรงขับที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดเทรนด์ท่องเที่ยวต่างประเทศขึ้นอีกครั้ง
ผู้จัดการทราเวลโลก้า ประจำประเทศไทย คาดว่าจะได้เห็น "การเดินทาง" กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง อัตราการฉีดวัคซีนกระจายตัวอย่างรวดเร็วทั่วทั้งภูมิภาค ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย ที่ได้เริ่มเปิดรับ "นักท่องเที่ยว" ต่างชาติเข้าประเทศอีกครั้งพร้อมกับการโปรโมทมาตรการการเดินทางที่ปลอดภัยไร้โควิด-19 เพื่อช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศอยากจะเดินทางมาท่องเที่ยวอีกครั้ง และยังพบอีกว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนมากต้องการความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนการจองต่างๆ ที่มากขึ้น เพื่อให้ปรับเปลี่ยนได้ทันต่อสถานการณ์
“เรายังเชื่อว่าความร่วมมืออันแข็งแกร่งกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ ซึ่งรวมถึงทั้งภาครัฐและพันธมิตรทางธุรกิจของเรา ล้วนมีความสำคัญในการช่วยกันฟื้นตัวอุตสาหกรรม เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่สามารถแก้ไขได้เพียงลำพัง จากแคมเปญ EPIC Sale ที่เราช่วยกระตุ้นให้เกิดความต้องการของตลาดด้วยการมอบข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ช่วยให้พวกเขาได้กลับมาท่องเที่ยวและใช้ชีวิตอย่างที่ใจอยากได้อีกครั้งในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ในขณะเดียวกันก็ยังสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขภาพอย่างเข้มงวดเพื่อให้ท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล และสุดท้ายจะส่งผลดีให้กับพันธมิตรของเรา
อย่างที่ทราบกันดีว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิค-19 ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดให้ดำเนินธุรกิจต่อไป นอกจากนี้ ทราเวลโลก้ายังสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงหลังจากโควิดนี้” ปณิชา กล่าวเสริม
การที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีกำหนดการประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคระบาดเฉพาะถิ่น ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม และระบุให้เป็นช่วงหลังการระบาดของโรค ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ทราเวลโลก้า ให้ข้อมูลว่าบทบาทของแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวยังจะเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับวันหยุดและกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยและถูกสุขอนามัย ผ่าน Traveloka Clean Xperience ซึ่งได้รับการรับรองโดย SHA
สำหรับพันธมิตรที่มีสัญลักษณ์ Clean Xperience ของทราเวลโลก้า มีมาตรการด้านสุขอนามัย สุขภาพ และความปลอดภัยในระดับสูง โดยสอดคล้องตามนโยบายของรัฐและองค์กรที่ได้รับอนุญาตอื่นๆ
Clean Xperience ที่เปิดให้บริการด้านสุขอนามัยสำหรับผู้ใช้ในไทยซึ่งครอบคลุมบริการต่างๆ ดังนี้
- บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19
- บริการทำความสะอาดและฉีดฆ่าเชื้อ
- บริการตรวจสุขภาพและตรวจโรค
- บริการตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน
- บริการนวดแผนไทยที่บ้าน