“นมแพลนท์เบส” เพื่อสุขภาพและคนแพ้นมวัว จาก “เดอะ คอฟฟี่ คลับ”
ร้านกาแฟแบบ "All Day Dining" “เดอะ คอฟฟี่ คลับ” แนะนำน้ำนมใหม่ “นมแพลนท์เบส” ผลิตจากธัญพืช สำหรับสายสุขภาพและคนแพ้นมวัว พร้อม 6 เมนูกาแฟ ต้อนรับเช้าวันใหม่
เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club) เปิดตัว 6 เมนูเครื่องดื่มกาแฟสายรักษ์โลก และคนแพ้นมวัวด้วย นมแพลนท์เบส ที่ผลิตจากธัญพืช ได้แก่ นมข้าวโอ๊ต นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง และนมมะพร้าว
เมนูกาแฟที่ไม่ใช้นมวัว ได้แก่ ลาเต้เย็นนมข้าวโอ๊ต, คาปูชิโน่เย็นนมอัลมอนด์, คาปูชิโน่เย็นนมมะพร้าว และคาราเมลเย็นนมถั่วเหลือง
รวมถึง 2 เมนู สำหรับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟในรสชาติที่แปลกใหม่ ได้แก่เมนู เอสเพรซโซ่แพสชั่นโทนิค และเอสเพรซโซ่น้ำส้ม ดื่มเรียกความสดชื่น
โดยเมนูกาแฟใหม่ทั้งหมดพร้อมเสิร์ฟครอบคลุมทั้งการนั่งในร้าน เดลิเวอรี และ Grab & Go ผ่านทั้ง 31 สาขาทั่วประเทศ
คุณนงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ บอกว่า
“เดอะ คอฟฟี่ คลับ มีเมนูกาแฟหลากหลายทั้งแบบร้อน เย็น และปั่น เช่น แฟลตไวท์ อเมริกาโน่ เอสเพรซโซ่ อัฟโฟกาโต้ ลาเต้ คาปูชิโน่ มัคคิอาโต้ มอคค่า ฯลฯ
ตอนนี้เรามี นมแพลนท์เบส เป็นทางเลือกสำหรับคนแพ้นมวัวและคนรักษ์สุขภาพ มีนมข้าวโอ๊ต จากออสเตรเลีย จะเข้มข้นและมันกว่าตัวอื่น และใช้ทำลาเต้อาร์ตได้เนื่องจากมีน้ำหนัก ทานแล้วจะรู้สึกเหมือนนมวัวเลย
นมอัลมอนด์ จะเบา ๆ นุ่ม ๆ รองลงไปเป็น นมมะพร้าว ส่วน นมถั่วเหลืองจะค่อนข้างมัน นมแพลนท์เบสทั้ง 4 อย่าง สามารถเลือกใส่กับกาแฟร้อนหรือเย็นได้หมด ยิ่งร้อนยิ่งอร่อยเพราะจะเข้มข้น ส่วนเย็นเนื่องจากใส่น้ำแข็งก็จะจางลงหน่อย”
น้ำนมข้าวโอ๊ต เป็นตัวเด่น กำลังอยู่ในกระแสวีแกน ราคาจะสูงกว่านมทั่วไป และน้ำนมแพลนท์เบสตัวอื่นเล็กน้อย
“เครื่องดื่มกาแฟทุกเมนู ลูกค้าสามารถเลือกเมล็ดพันธุ์กาแฟที่ต้องการได้ มี 2 ประเภท คือ ซิกเนเจอร์เบลนด์ (Signature Blend) ที่ผสมกาแฟจาก 3 แหล่งปลูก คือ อาราบิก้าจากโคลอมเบียกับบราซิล และโรบัสต้าจากอินเดีย เหมาะกับคนที่ชื่นชอบกาแฟรสเข้มกำลังดี ไม่จัดเกินไป”
อีกตัวคือ สยามเบลนด์ (Siam Blend) เมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้าจากดอยแม่สรวย จังหวัดเชียงราย หรือคั่วเข้ม รสจะเข้มข้น เพราะพัฒนาสูตรให้เข้ากับพฤติกรรมของคนไทยที่ชอบกาแฟรสเข้ม แต่เอาเข้าจริงที่ขายดีกลับเป็นซิกเนเจอร์เบลนด์ ที่ผสมในสัดส่วนที่อร่อย ออกคาราเมล มีรสช็อกโกแลต”
ผู้บริหาร เดอะ คอฟฟี่ คลับ เสริมว่า มีกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีน (Decaf Coffee) และลูกค้าสามารถเพิ่มไซรัปรสชาติต่าง ๆ หรือใส่วิปครีม, ไอศกรีม ได้ตามชอบ
เมนูกาแฟจาก นมแพลนท์เบส หรือนมทางเลือกจากธัญพืช ประกอบด้วย
ลาเต้เย็นนมข้าวโอ๊ต (Iced Latte Oat Milk) จากออสเตรเลีย นมข้าวโอ๊ตมีคุณสมบัติพิเศษคือมีความเข้มข้นของตัวนมที่มากกว่า ทั้งยังมีความหอมมัน ไม่แตกตัว ซึ่งพอนำมาผสมกับกาแฟก็ยังมอบรสชาติความเข้มข้นของกาแฟได้อย่างชัดเจน ทำให้เข้ากับเมนูกาแฟได้เป็นอย่างดี (แก้วละ 145 บาท)
คาปูชิโน่เย็นนมมะพร้าว (Iced Cappuccino Coconut Milk) กาแฟรสชาติเบา ๆ ผสมรสชาติกลิ่นความหอมเฉพาะตัวของนมมะพร้าว (แก้วละ 145 บาท)
คาราเมลเย็นนมถั่วเหลือง (Iced Caramel Soy Milk) คาราเมลเข้มข้นผสมกับนมถั่วเหลืองที่มีความหอมมันระดับปานกลาง (แก้วละ 145 บาท)
คาปูชิโน่เย็นนมอัลมอนด์ (Iced Cappuccino Almond Milk) กาแฟเอสเพรสโซ และฟองนมอุ่น ๆ จากนมอัลมอนด์ ให้ความหอมเฉพาะตัว (แก้วละ 135 บาท)
ยังมีอีก 2 เมนูกาแฟผสมน้ำผลไม้และน้ำโทนิคใหม่ล่าสุด ได้แก่ เอสเพรซโซ่แพสชั่นโทนิค (Espresso Passion) กาแฟผสมน้ำโทนิค (โซดา) ให้ความซ่าบซ่าและชื่นใจไปพร้อมกัน
เอสเพรซโซ่น้ำส้ม (Espresso Orange) กาแฟผสมน้ำส้มที่มอบความสดชื่น (แก้วละ 130 บาท)
แนะนำให้จับคู่กาแฟกับอาหารว่างหรือของหวาน เช่น Cranberry Pie, Chocolate Delight Tart, Parisian Ham Brie Kraftkorn Sandwich, Filled Croissant – Yuzu, Truffle Honey Brie Croissant และ Truffle Mushroom Cranberry Cruffin หรือจะเลือกทานคู่กับ Sweet Breakfast 2 เมนูขนมหวานใหม่ล่าสุดอย่าง Pancake with Berry Homemade และ Strawberry Waffle Homemade เพื่อให้อิ่มท้อง
กรรฑิมา ไผ่สะอาด บาริสต้า เทรนเนอร์ เดอะ คอฟฟี่ คลับ บอกว่า
“เมล็ดกาแฟซิกเนเจอร์เบลนด์ ผสมกาแฟ 3 สายพันธุ์ จะมีความเข้มข้น และความหอมเฉพาะตัว ให้ความกลมกล่อมพอดี โดยเมล็ดกาแฟทั้งหมดจะนำมาคั่วเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในโรงงานของ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ที่ออสเตรเลีย
และบรรจุในตู้เย็นที่รักษาอุณหภูมิไว้ที่ 25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับอุณหภูมิเดียวกันกับที่ใช้ในออสเตรเลีย เพื่อคงรสชาติความสดใหม่มากที่สุด ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
เมล็ดกาแฟซิกเนเจอร์เบลนด์ คั่วระดับปานกลาง (Medium Roast) เหมาะกับคนที่ชื่นชอบกาแฟรสเข้มกำลังดี ไม่จัดเกินไป เนื่องจากจะมีความเปรี้ยวเล็กน้อย แต่ยังให้สัมผัสความหวานชุ่มฉ่ำของเนื้อกาแฟ เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟนมอย่างแฟลต ไวท์ หรือลาเต้ รวมถึงกาแฟดำอย่างอเมริกาโน่
สำหรับ สยามเบลนด์ (Siam Blend) เป็นเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้าจากดอยแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เพื่อช่วยอุดหนุนเกษตรกรไทยที่ปลูกกาแฟและพัฒนาให้เข้ากับพฤติกรรมการบริโภคกาแฟของคนไทยที่มีความชื่นชอบกาแฟรสชาติเข้มข้น และหวานมัน
สยามเบลนด์คั่วในระดับเข้ม (Dark Roast) เหมาะกับคนชอบกาแฟเข้มข้น เนื่องจากรสชาติจะไม่หลงเหลือความเปรี้ยว และให้รสชาติสัมผัสของกาแฟหนักแน่น เหมาะสำหรับสำหรับคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟคาปูชิโน่ และเอสเพรสโซ่”
บาริสต้า เสริมว่า เดอะ คอฟฟี่ คลับ ยังให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพในการให้บริการทั้งในเรื่องของบุคลากรและอุปกรณ์ในการทำกาแฟ โดยกำหนดมาตรฐานต่าง ๆ
เช่น การกำหนดมาตรฐานในการบดกาแฟไม่เกิน 30 วินาที ด้วยการตั้งค่าช็อต (Shot) และมีการตรวจเช็คทุก 4 ชั่วโมง อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำกาแฟต้องมีการควบคุมมาตรฐานอุปกรณ์และเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์เพื่อให้ได้มาตรฐานอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบด หรือน้ำที่ใช้จากเครื่องกรองโดยเฉพาะเท่านั้น
สิ่งสำคัญคือบาริสต้าของ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ทุกคนทุกสาขาจะผ่านเทรนนิ่งอันเป็นไปตามมาตรฐานประเทศออสเตรเลียทั้งหมด โดยบาริสต้าทุกคนจะมีความชำนาญในการชงกาแฟ รวมถึงสามารถแนะนำลูกค้าเพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่ถูกปากมากที่สุด
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ FB: /thecoffeeclubthailand, http://thecoffeeclub.co.th
