“กอบกาญจน์” แม่งาน “ผู้นำสตรีโลก” เวทีเพื่อผู้หญิงเก่งและกล้า
เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ การประชุม “ผู้นำสตรีโลก” Global Summit of Women2022 จะเวียนมาจัด ที่เมืองไทย และเป็นโอกาสที่ผู้หญิงไทยจะได้แสดงศักยภาพและความเป็นไทยที่งดงาม งานนี้ “คุณน้อง-กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” เป็น ประธานกรรมการจัดงานของไทย
การประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก ( Global Summit of Women 2022) ที่จะจัดขึ้นวันที่ 22-25 มิถุนายนนี้ เป็นอีกเวทีนานาชาติที่ผู้หญิงทั้งโลก หรือ ผู้นำสตรีโลก จะมานั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองซึ่งกันและกัน
ในงานนี้ คุณน้อง-กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย และประธานกรรมการบริหาร บริษัทโตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด
รับบทบาทเป็นประธานการจัดงานในประเทศไทย เธอและทีมงานเตรียมงานมานานกว่า 2 ปี
จุดประกาย กรุงเทพธุรกิจ มีโอกาสพูดคุยในเรื่องนี้ สิ่งแรกที่เธอพูดถึงคือ พลังของผู้นำสตรีในโลกใบนี้ ต่างมีความกระหายที่จะพัฒนาตนเอง
การพบปะครั้งนี้ ผู้นำสตรีจะได้มุมมองใหม่ๆ ในการทำงานและการใช้ชีิวิตที่ต่างไปจากเดิม และเป็นโอกาสที่ประเทศเราจะได้นำเสนอ ความเป็นไทย และความสามารถของสตรีไทยในทุกมิติ...
อยากให้เล่าถึงความเป็นมาของงานประชุมครั้งนี้
จริงๆ แล้ว ปี 2021 การประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลกต้องจัดที่ประเทศไทย แต่สถานการณ์โควิด เรายังไม่พร้อม ทางโปรตุเกสตอนนั้นเร่งเปิดประเทศก่อนใคร ก็เลยไปจัดที่นั่น
จุดประสงค์การประชุม Global Summit of Women จะไม่จัดแบบออนไลน์ ไม่ต้องการให้มาฟังอย่างเดียว ไฮไลท์คือเจอและคุยกัน ตอนนั้นจัดที่เมืองลิสบอน โปรตุเกส มีผู้เข้าร่วม 504 คน จาก 45 ประเทศ จัดมา 31 ปีแล้วธีมการพูดคุยแต่ละปีก็จะปรับเปลี่ยน
ทางผู้จัดงานมีการเลือก Speaker อย่างไร
ไม่ใช่ใครก็ได้ เขาจะเลือกให้ตรงหัวข้อ จุดสำคัญคือเน้นข้อมูล เพื่อกระตุ้นให้ผู้หญิงมีพลังก้าวเดินต่อไป เราไปมา 2 ครั้ง หนแรกที่ เมืองบาเซิล สวิตเซอร์แลนด์ ครั้งที่ 2 ที่เมืองลิสบอน โปรตุเกส ทำให้เราเห็นพลังของผู้หญิงในหลายประเทศ
จริงๆ แล้วผู้หญิงมีความต้องการพัฒนาตัวเอง โดยเฉพาะคนทำงาน มีทั้ง Startup คนฟังที่เป็นคนรุ่นใหม่ หรือทำธุรกิจมาสักพัก แต่ธุรกิจยังไม่ใหญ่มาก หรือบริษัทใหญ่ๆ อย่างเป๊ปซี่ โคล่า ฯลฯ
การประชุมสุดยอด ผู้นำสตรีโลก (Global Summit of Women 2022) ครั้งนี้ คุณน้อง-กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร คิดว่า
มีความสำคัญสำหรับผู้นำสตรีในโลกใบนี้อย่างไร
สำคัญมาก แม้คนเราจะมีพลังการทำงาน แต่พอเวลาผ่านไป ก็ต้องไปชาร์จพลังใหม่ เติมความรู้ใหม่ๆ Topic แต่ละปี คนจัดก็คิดประเด็นมาอย่างเข้มงวด อย่างปีนี้ Women : Creating Opportunities in The New Reality สร้างโอกาสในความจริงใหม่ ก็คือ ไม่กลับไปที่เดิม
ทำไมเลือกมาจัดงานที่ประเทศไทย
เขาเลือกเอง เราไม่ได้ไปบอกอะไรเลย อยู่ดีๆ เขาก็บอกว่าฉันจะมาประเทศไทย แต่เขาเคยคุยกับ Speaker ผู้นำสตรีคนก่อนๆ
คือ คุณปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย และ คุณเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
และพวกเขาบอกว่า ไอรีน นาทิแดท ประธานจัดการประชุมสุดยอดสตรีโลก อยากให้จัดในประเทศไทย ให้เราช่วยหน่อย และทุกประเทศมีโอกาสแค่ครั้งเดียว
ที่เขาเลือกประเทศไทย เพราะเป็นประเทศที่ให้โอกาสผู้หญิง เรามีผู้หญิงที่เป็นซีอีโอ (CEO )ขึ้นอันดับท็อปของโลกสูงกว่าอเมริกาด้วยซ้ำ
คุณไอรีน เขาทำบริษัท Research แต่ละปีจะอัพเดทตัวเลขข้อมูลใหม่ แต่เขาบอกว่า เรายังไม่เพอร์เฟค เรายังมีผู้นำหญิงอยู่ในบอร์ดน้อยไป เขาจะเข้ามาขับเคลื่อนเรื่องนี้ด้วย
ภาพโดย : วันชัย ไกรศรขจิต
คุณน้อง-กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ในฐานะ ประธานกรรมการจัดงานของไทย
มีการเตรียมต้อนรับ ผู้นำสตรีโลก ที่จะมาร่วมประชุม Global Summit of Women2022 อย่างไรบ้างคะ
เราเตรียมดูแลทุกอย่าง รวมทั้งด้านโลจิสติกส์ Welcome Dinner คืนแรกที่ Royal Paragon Hall
ก็เป็นโอกาสที่จะได้นำเสนอความเป็นไทยภายใน 2-3 ชั่วโมง ในแง่มุมมองที่ดีของประเทศไทย การท่องเที่ยว ความเก่งของผู้หญิง
อีกเรื่องที่เรานำเสนอไป ซึ่งยังไม่เคยทำมาก่อน ก็คือ Carbon Neutral ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เราให้หน่วยงานที่เขาทำด้านนี้ มาร่วมกับเราอย่างเป็นรูปธรรม
ฉากจะใช้วัสดุอะไร บนโต๊ะใช้อะไรแทนดอกไม้สด ฯลฯ ปล่อยคาร์บอนออกมาเท่าไหร่ อาหารเมนูนี้ ปลามาจากแม่น้ำไหน บินมาไกลหรือเปล่า
เรามีความพยายามที่จะลดก๊าซคาร์บอน จึงมีหน่วยงานที่เชี่ยวชาญมาดูว่า เราทำจริงหรือเปล่า เช่น เราแจกกระบอกน้ำ ไม่ใช้ขวดน้ำพลาสติก
เราเอาขยะไป Reuse จริงหรือเปล่า แล้วเขาก็จะให้ใบรับรอง เซ็นต์โดยกอบกาญจน์ ไอรีน และผู้อำนวยการก๊าซเรือนกระจก
งานนี้มีใครช่วยสนับสนุนบ้าง
เยอะมาก ทาง SCG Packaging ใช้กระดาษรีไซเคิลทำตุ๊กตารำไทย วัดอรุณฯ และช้าง ตั้งบนโต๊ะอาหารแทนดอกไม้สด ผู้มาประชุมพับเก็บ เอากลับบ้านเป็นที่ระลึกได้
การประชุมวันแรก Welcome Dinner เราเลือก ดุสิตธานี เพราะก่อตั้งโดย ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย สืบทอดธุรกิจโดยผู้หญิง วันนี้ซีอีโอ (CEO )ก็เป็นผู้หญิง คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ทุกอย่างมีเรื่องราว
รวมทั้งทริปล่องเรือที่พาผู้นำสตรีไปรู้จักประเทศไทยด้วยใช่ไหมคะ
ใช่ค่ะ ทำไมจึงเป็นเรือด่วนเจ้าพระยา เพราะก่อตั้งโดยคุณหญิงสุภัทรา สิงหลกะ สืบทอดมาถึงรุ่นที่ 3 เป็นธุรกิจที่อยู่ในมือของผู้หญิงมา 100 กว่าปี
อย่างไอคอนสยามนี่ก็ผู้หญิง คุณแป๋ม- ชฎาทิพ จูตระกูล เราต้องการโชว์ให้เห็นว่า ถ้าคุณมีภาพพจน์ของผู้หญิงไทยแบบโบราณๆ เราไม่ใช่แบบนั้นแล้ว
แม้กระทั่ง พารากอน ฮอลล์ เราก็บอกเล่าเรื่องราวให้รู้ว่า ทำไมเลือกที่นี่ เพราะตรงนี้คือ วังสระปทุมเก่า ตั้งแต่สมัยย่าของในหลวงรัชกาลที่ 9
และรู้ไหมว่า ท่านเป็นคนเริ่มต้นสภากาชาดไทย มาจนถึงสมเด็จย่า พระองค์ริเริ่มโครงการให้เลิกฝิ่น จนมาถึง
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพิ่งได้รับรางวัลจาก Global Summit เมื่อปีที่แล้ว เพราะพระองค์ดูแลประชาชน ให้การศึกษาคนด้อยโอกาส
แม้กระทั่งการแสดง เราก็โชว์มวยหญิง ตอนนี้ผู้หญิงเรียนมวยไทยเยอะมาก ส่วนหนึ่งเรียนเพื่อหาตังค์ แต่อีกส่วนเรียนเพื่อฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่ง ทุกอย่างมีเรื่องราว
คุณกอบกาญจน์ ร่วมเป็น Speaker ด้วยหรือเปล่าคะ
พูดเฉพาะเปิดงาน ในฐานะตัวแทนคณะกรรมการ ตอนปิดงานก็จะขึ้นพูด ส่งต่อให้ประเทศถัดไปที่จะจัดงานต่อจากเรา Speaker เด่นๆของเราก็มี
คุณเปิ้ล ขัตติยา อินทรวิชัย CEO หญิงคนแรกของธนาคารกสิกรไทย เป็นคนที่เก่งมาก รอบรู้ ถ่อมตน บอร์ดในธนาคารของเธอ 43 % เป็นผู้หญิง
คนที่จะขึ้นมาพูดได้ ไม่ใช่แค่เก่งอย่างเดียว คุณมีเวลาพูด 15 นาที คุณต้องโน้มน้าวใจ( Convince) คนฟังได้ ทำการบ้านมาดี ภาษาต้องโอเค
ซึ่งไอรีน เขาโทรคุยสัมภาษณ์เองทุกคน และเขาก็เลือกเองมี คุณ Harald Link จาก B Grimm เป็น CEO ชายมาพูดด้วย เพราะเขาเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับผู้หญิง
ประเทศไทยจะได้อะไรจากการจัดงานครั้งนี้คะ
เราต้องการให้อีเว้นท์นี้เปิดประเทศไทย ไอรีนเป็นคนบอกเองว่า หลายคนคิดว่าประเทศไทยคือการท่องเที่ยว มาเพื่อเที่ยว ความจริงประเทศไทยมีมากกว่าการท่องเที่ยว
คุณต้องมาลงทุน คุณต้องมาเทรดด้วยนะ เป็นประเทศที่คุณอาจจะมาทำอะไรได้อีกหลายเรื่องเรานำเสนอ Medical Wellness และอื่นๆ เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทย So much to offer
อยากให้พูดถึงอาหารมื้อไฮไลท์ Welcome Dinner เตรียมความพิเศษไว้อย่างไรบ้างคะ
ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหาร ดุสิตธานี นี่เขาไว้ใจได้ แต่ไอรีนเขาต้องมาเทสต์นะ เขาบอกว่าอร่อยเรา แต่เผ็ดเกินไปก็ไม่ได้ปลาต้องเป็นชิ้น ฝรั่งต้องทานเป็นคำๆ
บางคนเป็นมาเมืองไทยครั้งแรก บนโต๊ะอาหารดุสิตธานีตกแต่งด้วยเครื่องสมุนไพรไทย พร้อมคำอธิบาย และให้หยิบกลับบ้านได้
นอกจากนี้มีกระบุงใบหนึ่งอธิบายความเป็นมาของดุสิตธานี ตั้งแต่ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ไปจนถึงเจตนารมย์สร้างคนดูแลสิ่งแวดล้อมยังไง ฯลฯ
ในส่วนของชำร่วย ก็ตั้งใจใส่ความเป็นไทยด้วยใช่ไหมคะ
ของชำร่วยเยอะมาก อย่างธนาคารกสิกรไทย ก็จะแจกของตั้งแต่ลงเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็นที่ดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ มาที่บูธของ ธนาคารกสิกรไทย
ก็จะมีข้อมูล Global Summit รับแพคเกจ ซึ่งเชื่อมโยงกับ AIS ในแง่ของซิมต่างๆ เรามีแอพลิเคชั่นท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวของโลกมักจะไปที่ Agoda โรงแรมถูกชัก 30 %
ก็เลยสร้างแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวใหม่ เพื่อให้ผู้ประกอบไทยได้กำไรสูงสุด ซึ่งอาจจะสู้เขาไม่ได้ แต่โรงแรมอาจจะถูกชักแค่ 5 % และจะบอกถึงการท่องเที่ยวที่เขาควรรู้ มาแล้วอยากวิ่ง หรือไปเวลเนสที่ไหนดี
พอมาลงทะเบียนวันที่ 22 มิถุนายน ก็จะได้ของที่ระลึกอีก 1 ถุง ทำจากขวดพลาสติกจากท้องทะเลนำมารีไซเคิล ข้างในมีกระเป๋าใส่นามบัตร
จากพัชรพิมล ยังประภากร เจ้าของแบรนด์กระเป๋าหนังเอ็กโซติก S'uvimol(สุวิมล) เพื่อโชว์แบรนด์เครื่องหนังไทยเก๋ๆ มีกระติกน้ำจากไทยเบฟ
ในคืน Welcome Dinner สยามพารากอนก็จะให้ของที่ระลึกอีกถุง มีปลาตะเพียนอยุธยา อธิบายถึงชุมชน และมีบัตรส่วนลดต่างๆ วันงานจะมีบูธผ้าไหม ผ้าฝ้าย ช่างตัดเสื้อผ้า ไอคอนคราฟ จาก Young Designer
ยังไม่หมด ไอรีนเป็นคนชอบศิลปะ เขาทราบว่า ThaiBev จัดงานศิลปะมาตลอด เขาถามว่า เรามีศิลปินไทยหญิงที่เก่งๆไหม
ก็เลยมีบูธแสดงงานศิลปะของศิลปินหญิงหลายท่าน มีงานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เช่นงานภาพวาด ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์
Speaker เด่นๆ ที่คุณน้องประทับใจมีใครบ้าง
คุณ Sung Joo Kim เจ้าของแบรนด์กระเป๋า MCM จากเกาหลี จะมาตั้งบูธ มีกระเป๋าลิมิเต็ด อิดิชั่น รายได้ทั้งหมดให้ Global Summit เพื่อให้จัดงานในปีถัดไปได้ และให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสแบบเขา
คุณคิมเชื่อใน Global Summit มาก เธอเป็นลูกเศรษฐี อยากทำธุรกิจ แต่พ่อไม่เห็นด้วย พี่ชายบอกว่าผู้หญิงมีหน้าที่แต่งงาน และออกเรือน
พอฟัง Global Summit ได้คุยกับไอรีน รู้สึกมีแรงบันดาลใจ ค้นพบตัวเอง กล้าที่จะก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน ต่อมาได้เทคโอเวอร์แบรนด์ MCM ของคนเยอรมันจนประสบความสำเร็จ
เราไปฟังเขาพูดที่ เมืองบาเซิล สวิตเซอร์แลนด์ ก็ได้แรงบันดาลใจมาก เขาไว้ผมสั้นๆ ดูเท่มาก เขาอยู่กับ Global Summit มาเป็น 10 ปี แทบจะเป็นสปอนเซอร์หลัก
เขาคิดว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ควรจะได้รับโอกาส และแรงบันดาลใจ คงจะมีผู้หญิงอีกหลายคนที่หาตัวเองไม่เจอ บางคนอาจจะเจอกับความล้มเหลวมาบ้าง
แต่เป็นเรื่องปกติ ทำยังไงจะลุกกลับขึ้นใหม่ ถ้าคุณหาใครคุยด้วยไม่ได้ ใครก็ตามที่ต้องการทำธุรกิจ และต้องการพัฒนาตัวเอง เข้าร่วมประชุม Global Summit นี้ได้
ถ้าต้องการให้ลูกหลานสืบทอดธุรกิจ ต้องพามาฟังในงานนี้ ?
เป็นประเด็นปัญหาของหลายชาติที่ต้องการให้ลูกหลานสืบทอดธุรกิจ พูดยังไงลูกๆก็ไม่ฟัง ก็ให้พาลูกมาลงทะเบียน มาประชุม Global Summit of Women ด้วยกัน ลูกสาวน้องก็จะมาฟังด้วย
หลายบ้านลูกๆ ยังค้นหาตัวเอง ให้สืบทอดธุรกิจก็ปฏิเสธ พูดไปก็ทะเลาะกัน มีทางเดียวให้ฟังคนอื่นพูด บางทีเขาอาจจะเชื่อคนอื่นมากกว่าคนในบ้าน
จะมีเซคชั่นของ Youth Forum ให้ผู้นำรุ่นเยาว์ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน หลายคนตั้งใจพาลูกมา เพราะปัญหาระหว่าง Generations และปัญหานี้มีอยู่ทั่วโลก
น้องเรียนสถาปัตย์ แม่จะพูดเสมอว่า อย่ากลับมาทำธุรกิจนะลูก เพราะมันเป็นเรื่องที่ปวดหัว เรียนและทำในสิ่งที่เราชอบ นั่นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับชีวิต
เราเองก็จะพูดกับลูกคล้ายๆกัน แต่ไม่ใช่แบบนั้น เราบอกว่าการเรียนที่ดี ต้องเรียนในโรงเรียนที่สอนเป็น เพราะคุณต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต อะไรที่อยู่ในตำรา พรุ่งนี้ล้าสมัยได้
เพราะฉะนั้นเราต้องมีไฟในการเรียนรู้ใหม่ และรู้จักที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเอง เวลาคุยกับลูกก็จะบอกว่า หน้าที่แม่
ก็คือให้ทรัพยากรที่ดีที่สุด ไม่ใช่เงินทอง แต่เป็นการศึกษา และหวังว่าสิ่งนั้นจะอยู่กับเขา ขอให้ใช้ให้ดีที่สุด ไม่ถึงขนาดที่บอกลูกว่า อย่ากลับมา (หัวเราะ)
ตอนเรากลับมาทำธุรกิจ ก็เริ่มทำกับบริษัทคุณน้า จนญี่ปุ่นเรียกกลับมา บอกว่ายูจะมาไหม ถ้าไม่มาจะได้วางแผน เราก็เลยบอกว่ากลับมาก็ได้
ลึกๆ คิดว่าแม่ต้องรู้ว่าลูกเป็นยังไง เพราะน้องเป็นคนดื้อเงียบ เขาก็ต้องพูดแบบนั้น ลึกๆ แล้วเขาก็อยากให้เราสานต่อธุรกิจอยู่แล้ว
ถ้าธุรกิจหลายอัน ลูกๆไม่สานต่อก็จบ ไม่ใช่ล้มเหลวนะ เพราะไม่รู้จะทำไปทำไม เงินก็มี เจเนอเรชั่น 2-3 ไม่ต่อก็จบ