“ไม้เท้า” งานฝีมือชั้นสูงและ "ของสะสม"...ที่ไม่เหมือนใคร
“Lotus Arts de Vivre” อวดผลงานมาสเตอร์พีซที่ควรค่าแก่การสะสม “ไม้เท้า” โดยร่วมออกแบบกับ หมู – "พลพัฒน์ อัศวะประภา" แห่ง “อาซาว่า”
Lotus Arts de Vivre (โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์) แบรนด์จิวเวลรี่และของตกแต่งบ้านชั้นสูง อวดผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ไม้เท้า คอลเลคชั่น The Wild Animals. The Capsule Collection featuring Canes by Lotus Arts de Vivre and Mr. Polpat Asavaprapha
ที่ร่วมออกแบบกับดีไซเนอร์ พลพัฒน์ อัศวะประภา แห่งแบรนด์ อาซาว่า (ASAVA) โดยหยิบยกเรื่องราวและเอกลักษณ์ของสัตว์ป่า มารังสรรค์เป็น ไม้เท้า ดีไซน์พิเศษ15 แบบ ที่มีเอกลักษณ์ และสะท้อนถึงอัตลักษณ์ระหว่างสองแบรนด์อย่างชัดเจน
วทานิกา ปัทมสิงห์ ในนิทรรศการภาพถ่าย
รอล์ฟ วอน บูเรน ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Lotus Arts de Vivre เล่าว่า
“เนื่องจากปีนี้ครบรอบ 40 ปี ของการก่อตั้งแบรนด์ จึงทำโปรเจกต์นี้ขึ้นมา และเรายินดีมากที่ได้ร่วมงานกับคุณหมู – อาซาว่า เพราะถ้านึกถึงแฟชั่นไอคอนที่สามารถคอมพลีทลุคกับไม้เท้าได้อย่างไม่มีที่ติ ก็คงจะหนีไม่พ้นคุณหมูอย่างแน่นอน
ไม้เท้าหัวจระเข้
อีกอย่างคือแบรนด์ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ เราเชี่ยวชาญและคุ้นเคยดีกับการทำ ไม้เท้า แต่ในคอลเลคชั่นนี้จะแตกต่างจากงานที่ผ่านมา เพราะเราได้มุมมองในการออกแบบร่วมกับคุณหมูให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น ส่วนวัสดุที่ใช้ก็ยังคงความล้ำค่าและมีความประณีตในการสร้างสรรค์ชิ้นงานตามแบบฉบับของแบรนด์”
รอล์ฟ วอน บูเรน
คุณหมู - พลพัฒน์ อัศวะประภา เล่าถึงความประทับใจ และแนวคิดหลักของการออกแบบคอลเลคชั่นนี้ว่า
“ส่วนตัวเป็นแฟนของแบรนด์ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ อยู่แล้ว และในฐานะของคนทำงานดีไซน์ก็รู้สึกชื่นชม และประทับใจในความคิดสร้างสรรค์และผลงานของ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ มาโดยตลอด พอได้มีโอกาสมาร่วมทำโปรเจกต์ด้วยกัน ก็รู้สึกดีใจมากที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมออกแบบ แน่นอนว่าแนวคิดหลักของเราคือการนำไม้เท้ามาออกแบบใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์ไว้
พลพัฒน์ อัศวะประภา
การออกแบบ ไม้เท้า นอกจากจะอยากให้ออกมาดูงดงามแล้ว เรายังต้องออกแบบมาเพื่อให้ใช้ได้จริงด้วย ซึ่งโลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ ไม่เพียงแต่ผสานสองสิ่งนี้เข้าไว้ด้วยกัน แต่ยังนำเสนอศาสตร์งานช่างโบราณและเทคนิคเก่าแก่ สื่อผ่านดีไซน์ของชิ้นงานออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์ ควรค่าแก่การเก็บสะสมเป็นอย่างยิ่ง
และด้วยความที่เราโตมากับหนังยุค 1920s เป็นยุคที่เทรนด์การแต่งตัวตอนนั้นจะเป็นแนวแกสบี้ และไอเท็มที่จะอยู่คู่กายตลอดก็คือ ไม้เท้า ในหัวของเราจึงค่อนข้างมีภาพการแต่งตัวที่เป็นแนวแดนดี้ (Dandy) ซึ่งคือการแต่งกายที่มีความพิถีพิถัน และมีรสนิยมค่อนข้างดี ทำให้เราหลงใหลในสไตล์การแต่งตัวของยุคนั้นมาก
หากให้แนะนำการแต่งตัวเพื่อแมทช์กับไม้เท้า ก็จะบอกว่าอาจสวมสูทเรียบ ๆ ตัวหนึ่ง แล้วเลือกไม้เท้าที่ชอบ ก็จะทำให้ดูมีพลัง และดูมีความพิเศษขึ้น”
ตรีชฎา เพชรรัตน์ ในนิทรรศการภาพถ่าย
The Wild Animals. The Capsule Collection featuring Canes by Lotus Arts de Vivre and Mr. Polpat Asavaprapha ยังคงเอกลักษณ์งานช่างศิลป์ของแบรนด์ Lotus Arts de Vivre เอาไว้ โดยมีจุดเด่กนคือ หัวของไม้เท้า ที่ออกแบบมาเป็นหัวสัตว์ประเภทต่าง ๆ แรงบันดาลใจมาจากเทพนิยายเก่าแก่ ไม่ว่าจะเป็น เสือ, สิงโต, ม้า, มังกร, นกอินทรี, เป็ด, จระเข้ และลิง มาผสมผสานกับเอกลักษณ์ของ พลพัฒน์ อัศวะประภา
ไม้เท้าหัวมังกร
ไม้เท้า ที่ดูทันสมัยและโก้หรู มีทั้งหมด 15 ดีไซน์ และใช้งานได้จริง เช่น
ดีไซน์แรก ไม้เท้าหัวเสือ อวดความงดงามของเสือ 3 ตระกูล ได้แก่ เสือดำ, เสือโคร่ง และเสือจากัวร์ โดดเด่นด้วยด้ามจับที่ทำจากเขี้ยวหมูป่า และตัวไม้เท้าทำจากไม้มะฮอกกานี (Mahogany) หายาก เพิ่มความน่าสนใจด้วยวัสดุสีเงิน ที่นำมาตัดกับเนื้อไม้ได้อย่างลงตัว
ไม้เท้าหัวเสือจากัวร์
ไม้เท้าหัวเสือดำ Black Panther Cane with Wild Boar Fang ออกแบบมา 3 ดีไซน์ตามอิริยาบถต่าง ๆ ประดับด้วยอัญมณี เช่น พลอยซาโวไรท์ (Tsavorite) และสปิเนล (Spinel) สีแดง ฝังไว้ที่ดวงตา
ไม้เท้าหัวเสือโคร่ง มี 2 ดีไซน์ ได้แก่ Silver Roaring Tiger Cane with Wild Boar Fang ที่ฝังดวงตาด้วยอัญมณีสเปสซาร์ไทต์ (Spessartite) และ Crawling Tiger Cane with Wild Boar Fang ที่ส่วนตาประดับด้วยหินอาเกต (Agate)
ไม้เท้าหัวเสือโคร่ง
และหัวเสือจากัวร์ Silver Black Jaguar Cane with Wild Boar Fang สัญลักษณ์แห่งความว่องไวและปราดเปรียว ตกแต่งหินปะการังแดง (Red Coral) สีแดงบริเวณดวงตา
ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร ในนิทรรศการภาพถ่าย
ไม้เท้าหัวสิงโต Silver Roaring Lion Cane Wild Boar Fang งดงามด้วยสีเงินประดับหินอาเกต (Agate) สีดำที่ดวงตา พร้อมด้ามจับเขี้ยวหมูป่าและด้ามไม้เท้าทำจากต้นมะฮอกกานี (Mahogany) เพิ่มความโก้หรูด้วยวัสดุสีเงินที่นำมาตัดเนื้อไม้บริเวณด้าม
ไม้เท้าตระกูลม้า
ไม้เท้าตระกูลม้า เคลือบเงินบริเวณหัวม้า ประดับดวงตาด้วยพลอยตาเสือ (Tiger's Eye) ด้ามไม้เท้าทำจากไม้โซโน่ (Sono Wood) ประดับด้วยวัสดุสีเงินตัดตรงบริเวณด้ามไม้เท้า และ Silver Prancing Horse Cane with Wild Boar Fang เพิ่มความพิเศษบริเวณหัวม้าที่ประดับด้วยเขี้ยวหมูป่าเป็นด้ามจับที่ตัวไม้เท้าทำขึ้นจากไม้มะฮอกกานี
นิกกี้ วอน บูเรน
ไม้เท้าตระกูลมังกร สัตว์แห่งเทพนิยายที่มีทั้งหมด 2 งานดีไซน์ด้วยกัน ได้แก่ Pearl Chasing Silver Dragon Cane with Wild Boar Fang ใช้เทคนิคเคลือบเงินทั่วทั้งตัวมังกร ลำตัวทำจากเขี้ยวหมูป่าสลักลวดลายด้วยแผ่นทองคำ ฝังดวงตาด้วยพลอยตาเสือ (Tiger's Eye) ส่วนบริเวณตัวไม้เท้าทำจากต้นมะฮอกกานี (Mahogany)
วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา
อีกแบบหัวมังกรเคลือบทองคำพร้อมฝังในหัวมังกรด้วยแมลงสคารับ (Scarab) แมลงศักดิ์สิทธิ์ของชาวอียิปต์โบราณ เพื่อแสดงให้เห็นถึงเทคนิคชั้นครูและความลงตัวด้านดีไซน์ระหว่างสีทองและแมลง ส่วนดวงตาประดับด้วยอัญมณีสีแดง (Red Stone) และด้ามไม้เท้าทำจากไม้โซโน่ (Sono Wood) ที่ประดับด้วยวัสดุสีทองตัดกับเนื้อไม้ ไม้เท้าหัวนกอินทรี Sterling Silver with Gold Leaf Perched Eagle Cane ทำจากไม้โซโน่ทั้งชิ้น ส่วนหัวเคลือบด้วยทองคำบริเวณปากและปีกนก ประดับดวงตาด้วยอัญมณีสีแดง
ไม้เท้าหัวเป็ด
ไม้เท้าหัวเป็ด Quacking Duck Cane with Silver and Gold Leaf สร้างสรรค์จากไม้โซโน่ (Sono Wood) ทั้งชิ้น เคลือบทองคำบริเวณปากเป็ด และฝังอัญมณีสีแดงบริเวณดวงตา
สุพรทิพย์ ช่วงรังษี
ไม้เท้าหัวจระเข้ Silver Ferocious Crocodile Cane หัวจระเข้เคลือบสีเงินพร้อมคาบหยกสีเขียวทรงกลม (Jade Ball) ไว้ในปาก ดวงตาฝังด้วยอัญมณีสีแดง ส่วนบริเวณลำตัวไปจนถึงหางหุ้มด้วยหนังจระเข้สีเข้ม และด้ามไม้เท้าทำจากไม้โซโน่
ดร.วิชเรศ บุญจิตต์พิมล
ไม้เท้าหัวลิง Carved Wooden Playful Monkey Cane ทำจากไม้โซโน่ เพิ่มลวดลายด้วยวัสดุสีทองตัดบริเวณด้ามไม้เท้า ส่วนดวงตาฝังด้วยพลอยตาเสือ
บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ ในนิทรรศการภาพถ่าย
พร้อมกันนี้ได้จัดนิทรรศการภาพถ่ายของ 6 เซเลบริตี้ ที่มาร่วมถ่ายทอดสไตล์อันโดดเด่นผ่านไม้เท้า ได้แก่ นิกกี้ วอน บูเรน, พลพัฒน์ อัศวะประภา, ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร, วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา, บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ และตรีชฎา เพชรรัตน์
พายุ-จักรินทร์ วอน บูเรน
ชม ไม้เท้า ดีไซน์พิเศษจากแบรนด์ Lotus Arts de Vivre ได้ที่ โรงแรมโฟร์ซีซันส์ กรุงเทพ แอท เจ้าพระยา ริเวอร์ และ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ บูทีค ชั้น 1 โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ เวลา 10.00 – 19.00 น. ดูเพิ่มเติมที่ https://www.lotusartsdevivre.com/