เปิดโปรไฟล์ 4 นักธุรกิจ “LGBTQIA+” ชีวิตผ่านอะไรมาบ้าง?

เปิดโปรไฟล์ 4 นักธุรกิจ “LGBTQIA+” ชีวิตผ่านอะไรมาบ้าง?

เปิดที่มา 4 นักธุรกิจ LGBTQIA+ ที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักระดับโลก เรื่องราวของพวกเขาและเธอมีความน่าสนใจอย่างไร ติดตามได้ที่นี่

เนื่องในโอกาสเดือนแห่งการเฉลิมฉลองเพื่อผู้คนที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ Pride Month ชวนทำความรู้จักกับ 4 นักธุรกิจ LGBTQIA+ ที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักระดับโลก ซึ่งอาจช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อ่านได้

เรื่องราวของนักธุรกิจ LGBTQIA+ แต่ละคนมีความน่าสนใจอย่างไร กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ สรุปมาให้อ่านที่นี่

 

ทิม คุก (Tim Cook)

ทิม คุก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ “Apple Inc.” บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ระดับโลก ซึ่งเขาเป็นซีอีโอคนแรกที่เปิดตัวว่าเป็นเกย์ตั้งแต่ปี 2557 สิ่งที่เป็นแรงผลักดันให้เขากล้าที่จะเปิดตัวนั้นมาจาก การที่เขาได้รับจดหมายจากเด็ก ๆ ที่กำลังสับสนและมีปัญหากับรสนิยมทางเพศของพวกเขา จนทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า หลายคนคิดอยากฆ่าตัวตาย บางคนถูกพ่อแม่ไล่ออกจากบ้าน

คุกประกาศตัวว่าเป็นเกย์ ผ่านบทความที่เขาเขียนลงสำนักข่าว Bloomberg โดยในบางช่วงบางตอนของบทความระบุว่า “การเป็นเกย์ทำให้ผมเข้าใจความหมายอย่างลึกซึ้งของการเป็นคนกลุ่มน้อยในสังคม และเข้าใจในปัญหาที่คนกลุ่มน้อยของสังคมต่าง ๆ กำลังเผชิญอยู่ มันทำให้ผมเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งทำให้ชีวิตผมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น บางครั้งมันเป็นเรื่องยากและอึดอัด แต่มันทำให้ผมมีความมั่นใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง กล้าทำตามเส้นทางของตัวเอง และมีเกราะป้องกันที่ทนทานและเป็นประโยชน์มาก เมื่อผมเป็น ซีอีโอของ Apple”

อย่างไรก็ตาม คุกไม่ได้สนใจว่าพนักงานของ Apple จะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อการประกาศตัวเป็นเกย์ เขากังวลเกี่ยวกับปฏิกิริยาของคนภายนอก Apple มากกว่า และตั้งข้อสังเกตว่า โลกยังไม่เป็นมิตรกับเกย์หรือคนข้ามเพศในหลายประเทศ แม้แต่ในสหรัฐเองก็ตาม

นอกจากนี้ ซีอีโอ Apple ยังให้กำลังใจกับเด็ก ๆ LGBTQIA+ ที่กำลังเผชิญปัญหาและไม่ได้รับการยอมรับว่า “ต่อไปชีวิตจะดีขึ้น แล้วพวกคุณจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข การเป็นเกย์ไม่ใช่ข้อจำกัด แต่เป็นสิ่งพิเศษ ผมหวังว่าพวกคุณจะคิดเช่นเดียวกันว่า นี่คือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระเจ้ามอบให้แก่เรา”

เปิดโปรไฟล์ 4 นักธุรกิจ “LGBTQIA+” ชีวิตผ่านอะไรมาบ้าง?

รูพอล (Rupaul)

รูพอล” เป็นแดร็กควีนที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลก เป็นเจ้าของรายการRuPaul’s Drag Race” รายการแข่งขันเฟ้นหาสุดยอดแดร็กควีนที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากทั่วโลก และทำให้แดร็กเป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น MTV Movie & TV Awards, People's Choice Awards รวมถึงรางวัลที่ใหญ่ที่สุดของรายการโทรทัศน์สหรัฐ อย่าง Primetime Emmy Award

ในปัจจุบันยังมีประเทศอื่น ๆ ซื้อลิขสิทธิ์รายการไปทำเวอร์ชันท้องถิ่นแล้วกว่า 10 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ทำให้ในปีจะมีรายการจากแฟรนไชส์ เดร็ก เรซ เตรียมออกอากาศกว่า 10 รายการ รวมถึงมีการจัดมหกรรมของแดร็กควีนที่เรียกว่า “RuPaul’s DragCon” อีกด้วย

นอกจากนี้ รูพอลยังดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ RuCo, INC บริษัทผลิตสื่อในแพลตฟอร์มต่าง ๆ และค่ายเพลง โดยเขาออกอัลบั้มมาแล้วทั้งหมด 14 อัลบั้ม ภายใต้สังกัดของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นนักแสดง นางแบบ นักเขียน และมีธุรกิจผลิตเครื่องสำอาง น้ำหอม ช็อกโกแลต อีกด้วย แต่กว่าจะประสบความสำเร็จขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

รูพอลเติบโตมาในครอบครัวที่แตกแยก พ่อแม่ทะเลาะกันเสมอ ซึ่งทำให้ต้องประคองตัวเองเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ให้ได้ จนกระทั่งเขาได้ย้ายไปอยู่เมืองแอตแลนตาเมื่ออายุ 15 ปี ทำให้ได้รู้จักกับ “การแต่งแดร็ก” ไม่ว่าจะเป็น การเต้นอะโกโกในไนท์คลับ การเป็นพิธีกร และการแสดงทางโทรทัศน์สาธารณะ และเริ่มแต่งแดร็ก ซึ่งสั่งสมประสบการณ์เรื่อยมา จนกระทั่งเริ่มมีชื่อเสียงในปี 2532 และได้เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงด้วยการออกอัลบั้ม มีรายการทอล์คโชว์เป็นของตนเอง กลายเป็นแดร็กควีนแถวหน้าของวงการ 

ก่อนที่ปี 2552 รายการ RuPaul’s Drag Race ซีซันแรกได้ออกฉาย หัวใจหลักของรายการนี้ ที่เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ใครหลาย ๆ คน ให้กล้าที่จะยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น และรูพอลได้ใช้ประสบการณ์ที่ตนพบเจอในวัยเด็กมาให้คำแนะนำผู้เข้าแข่งขันให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ ดังคำกล่าวของรูพอลที่กล่าวในตอนจบของทุกตอนว่า “หากคุณยังไม่รักตัวเอง แล้วคุณจะไปรักคนอื่นได้อย่างไร

เปิดโปรไฟล์ 4 นักธุรกิจ “LGBTQIA+” ชีวิตผ่านอะไรมาบ้าง?

 

เบธ ฟอร์ด (Beth Ford)

เบธ ฟอร์ด” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) หญิงคนแรกในบริษัทติดอันดับ 500 บริษัทของนิตยสาร Fortune ที่ประกาศตัวว่าเป็น LGBTQIA+ 

ฟอร์ดเกิดในครอบครัวชาวไร่ในรัฐไอโอวา เธอและพี่น้องอีก 7 คน เริ่มช่วยงานพ่อแม่ในไร่ตั้งแต่เด็ก และในบางครั้งมีการแข่งขันกันระหว่างหมู่พี่น้อง เธอเข้าเรียนในวิทยาลัยด้านธุรกิจ เพราะต้องการเรียนในสิ่งที่สามารถใช้ประกอบอาชีพได้จริง ซึ่งเธอก็ชอบในสิ่งที่เรียนเพราะทำให้ได้เรียนรู้เรื่องการตลาด การเงิน และธุรกิจ

ฟอร์ดพบรักกับภรรยาของเธอตอนอายุ 20 ปลาย ๆ ซึ่งเป็นช่วงที่ยังทำงานในองค์กรที่ค่อนข้างอนุรักษนิยม เธอเล่าว่า มีวันหนึ่งได้พบกับซีอีโอของบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่ระหว่างที่ออกไปวิ่งออกกำลังกายกับภรรยา เมื่อซีอีโอถามเธอว่าคนที่มาด้วยคือใคร เธอเลือกที่จะตอบไปตามความจริงว่า “นี่คือจิลล์ คู่ชีวิตของฉัน” มากกว่าจะตอบไปว่าเป็นแค่เพื่อน เพราะเธอมองว่าการยอมรับความจริงและซื่อสัตย์กับตัวเองเป็นสิ่งที่มืออาชีพควรทำ

ปัจจุบัน ฟอร์ดดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Land O'Lakes บริษัทผลิตภัณฑ์การเกษตรและอาหารของสหรัฐ เธอกล่าวว่า เพศวิถีของเธอไม่ใช่สิ่งมาตัดสินว่าเธอจะทำงานได้หรือไม่ มันขึ้นอยู่กับความสามารถ ความเป็นผู้นำ ความรับผิดชอบ มุมมองและวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตและการคิดกลยุทธ์ต่าง ๆ

เปิดโปรไฟล์ 4 นักธุรกิจ “LGBTQIA+” ชีวิตผ่านอะไรมาบ้าง?

แคโรลีน ฟาร์เบอร์เกอร์ (Caroline Farberger) 

แคโรลีน ฟาร์เบอร์เกอร์” หุ้นส่วนและประธานบริษัท Wellstreet บริษัทด้านการลงทุนชั้นนำของสวีเดน ที่ประกาศตัวว่าเป็นทรานส์เจนเดอร์ในวัย 49 ปี เธอให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ว่า ที่ผ่านมา เธอใช้ชีวิตเหมือนเป็นนักแสดงมาตลอด เธอได้รับบทเป็นผู้ชายตั้งแต่เกิด แต่ต้องซ่อนอัตลักษณ์ความเป็นหญิงที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอเอาไว้โดยตลอด เพราะกลัวไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวและสังคม

ฟาร์เบอร์เกอร์ใช้ชีวิตตามบรรทัดฐานของสังคมเรื่อยมา แต่งงานมีครอบครัว มีลูก 3 คน จนกระทั่งในปี 2560 เธอเริ่มแต่งตัวเป็นผู้หญิงโดยได้รับแรงสนับสนุนจากภรรยา ในตอนนั้น เธอรู้ได้ในทันทีว่านี่คือตัวตนที่แท้จริง จากนั้น เธอมีความมั่นใจมากขึ้น และเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ โดยที่ภรรยาของเธอให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และลูก ๆ ของเธอก็เข้าใจได้เป็นอย่างดี นั่นทำให้เธอได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่การทำให้คนอื่นยอมรับ แต่คือการยอมรับในตัวเองให้ได้ก่อน

อย่างไรก็ตาม ฟาร์เบอร์เกอร์กล่าวว่า เธอยอมรับว่าการเป็นผู้บริหารระดับสูงทำให้เธอได้รับสิทธิพิเศษเหนือกว่าคนข้ามเพศทั่ว ๆ ไป เพราะด้วยตำแหน่งของเธอทำให้คนที่เป็นผู้ที่เกลียดกลัวคนข้ามเพศไม่กล้าทำอะไรเธอ หรืออย่างน้อยต้องคิดก่อนพูดอะไรไม่ดีกับเธอ เธอจึงพยายามจะช่วยเหลือพนักงานข้ามเพศในบริษัทของเธอที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด

การเปิดตัวของฉันในฐานะคนข้ามเพศ ทำให้ฉันได้ค้นพบความหมายของชีวิต และฉันจะสนับสนุนให้คนอื่น ๆ ได้เป็นตัวของตัวเอง” ประธานบริษัท Wellstreet เปิดใจ

เปิดโปรไฟล์ 4 นักธุรกิจ “LGBTQIA+” ชีวิตผ่านอะไรมาบ้าง?

ที่มา: BloombergBusiness InsiderCNBCCNBCNicki SwiftTime

บทความ: กฤตพล สุธีภัทรกุล