6 สัญญาณ ที่บอกว่าคุณควร 'ลาออก' จากงานปัจจุบันได้แล้ว!

ในช่วงเปลี่ยนผ่านศักราชใหม่แบบนี้ หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงที่มักจะมาคู่กับวัยทำงานแทบทุกช่วงอายุก็คือ การมองหางานใหม่และการ “ลาออก” จากงานประจำ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร เพราะแต่ละคนต่างมีเหตุผลและเป้าหมายในชีวิตที่แตกต่างกัน

แต่ก่อนจะตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตอย่างการ “ลาออก” ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ และต้องมั่นใจว่าเป็นการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่ความวู่วามชั่วครู่ และมีเงินสำรองเพียงพอก่อนที่จะได้งานใหม่

มีข้อมูลจาก Harvard Business Review ระบุว่า วัยทำงานกับการลาออกครั้งใหญ่ (The Great Resignation) ในยุคโควิดยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องในหลายๆ ประเทศ เพราะมนุษย์ออฟฟิศต้องเผชิญกับความผันผวนสูงทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง การมองหาองค์กรที่ตอบโจทย์ด้านความยืดหยุ่นสูงให้แก่ชีวิตการทำงาน จึงดึงดูดใจวัยทำงานยุคนี้

อย่างไรก็ตาม ในมุมของชาวออฟฟิศเองการตัดสินใจลาออกจากที่เดิมที่ทำงานมานาน ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย หากมีความรู้สึกว่าอยากลาออกจากงานปัจจุบัน แต่ก็ไม่มั่นใจว่าเป็นความคิดที่ดีหรือเปล่า? อาจต้องลองพิจารณาจาก 6 สัญญาณเหล่านี้ในที่ทำงาน เพื่อช่วยยืนยันให้มั่นใจว่าถึงเวลาแล้วที่ควรจะโบยบินออกจาก Comfort Zone

1. งานที่เดิมไม่สนับสนุนการเติบโตของคุณอีกต่อไป

ในกรณีที่คุณทำงานในตำแหน่งเดิมและบริษัทเดิมมานาน 4-5 ปีขึ้นไป เมื่อถึงจุดหนึ่ง ทุกสิ่งที่เคยทำมาอย่างสม่ำเสมอมากเกินไป จะทำให้เราหยุดเติบโต หากสังเกตเห็นว่างานที่ทำอยู่เริ่มเป็นงานซ้ำๆ เดิมๆ โดยไม่มีช่องทางให้ขยับเติบโตสูงขึ้นในสายอาชีพได้มากกว่านี้ รู้ไว้เลยว่าถึงเวลาที่ต้องมองหาการเปลี่ยนแปลงหรือหาที่ทำงานใหม่ได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาก่อนว่ามีวิธีที่จะสร้างสรรค์ผลงานหรือเปลี่ยนแปลงวิธีทำงาน ภายในสภาพแวดล้อมการทำงานในปัจจุบันให้ดีขึ้นได้หรือไม่? ก่อนที่จะตัดสินใจลาออก

2. ประสบความสำเร็จกับเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว

บางคนไม่ใช่แค่อยากลาออกจากที่ทำงานเดิม แต่อยากเปลี่ยนสายงานใหม่ไปเลย โดยอาจมีสาเหตุเพราะงานปัจจุบันที่ทำอยู่คุณได้ทำมันจนประสบความสำเร็จไปแล้ว ทำจนสุดทางแล้ว และไม่มีความท้าทายใหม่ๆ ให้ทำอีก จึงอยากลาออกจากงานเดิม หากใครรู้สึกแบบนี้ก็ควรหาช่องทางออกไปเจอสิ่งใหม่ๆ ได้เลย ถือเป็นเหตุผลที่เหมาะสม และยังเป็นการเติมไฟให้ตัวเองก้าวไปสู่ความท้าทายใหม่ๆ กับสายงานอื่นดูบ้าง

3. เริ่มหาวิธีเลี่ยงการทำงานอย่างจริงจัง

หากใครทำงานที่เดิมมาหลายปีแล้วรู้สึกว่าช่วงหลังๆ ตนเองเริ่มมีอาการเบื่อหน่าย และพยายามหลีกเลี่ยงการทำงานเหล่านี้อย่างจริงจัง เช่น ผัดวันประกันพรุ่ง, เลือกทำกิจกรรมอื่นๆ ก่อนการลงมือทำงาน (ซักผ้า ล้างจาน ตัดเล็บ จดโน้ตบนกระดาษ), ไถฟีดโซเชียลมีเดีย ฯลฯ

ถ้ามีพฤติกรรมเหล่านี้หนักขึ้นเรื่อยๆ ให้รู้ไว้ว่านี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่างานนี้ไม่เหมาะกับคุณอีกต่อไป และให้มองหางานใหม่ได้แล้ว เพราะอาชีพการงานเป็นสิ่งที่เราต้องอยู่กับมันเกือบทั้งชีวิต ดังนั้นมันควรเป็นสิ่งที่เราอยากทำด้วยความอยากรู้อยากเห็น กระตือรือร้น และมีความคาดหวังต่อผลงานที่ดี ไม่ใช่การหลีกเลี่ยงและไม่อยากทำ

4. ทำงานด้วยความเหนื่อยล้า เหนื่อยหน่าย หรือหวาดกลัว

ชีวิตมันสั้นและมีค่า เกินกว่าที่จะอดทนโดยไม่เกิดประโยชน์ อาชีพการงานควรเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของคุณสมบูรณ์ขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่มาฉุดรั้งให้คุณรู้สึกแย่หรือเหนื่อยหน่ายกับการใช้ชีวิต

เมื่อไหร่ที่ตื่นเช้าไปทำงานแล้วรู้สึกว่าเหนื่อยล้าและเหนื่อยหน่ายใจ จนไม่อยากก้าวเท้าไปทำงาน หรือรู้สึกหวาดกลัวและกังวลที่จะต้องฝืนทำงานนั้นๆ (ไม่เกี่ยวกับว่าบริษัทไม่ดีหรือเพื่อนร่วมงานไม่ดี แต่ให้พิจารณาที่เนื้องานล้วนๆ) ให้ตระหนักไว้ว่างานนั้นไม่เหมาะกับเราอีกต่อไปและควรมองหางานใหม่ที่ตอบโจทย์ความถนัดได้มากกว่า

5. วัฒนธรรมองค์กร/สังคมในที่ทำงาน ทำให้คุณมีนิสัยไม่ดี

บางครั้งสังคมในที่ทำงานก็ทำให้พฤติกรรมของคนเราเปลี่ยนไป ในที่นี้หมายถึงมันทำให้คุณเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง หรือฟูมฟักนิสัยไม่ดีให้ตัวคุณ เช่น วัฒนธรรมองค์กรที่มีคนทำผิดจรรยาบรรณ ไม่ซื่อสัตย์ หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม แต่ก็ถูกปล่อยผ่านโดยไม่มีการลงโทษใดๆ

เมื่อเกิดขึ้นบ่อยเข้าก็ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติในองค์กรนั้นๆ และวันหนึ่งคุณอาจจะกลายเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ไปด้วยก็ได้ หากพบว่าองค์กรนั้นมีวัฒนธรรมองค์กรที่ฉ้อฉลหรือผิดจรรยาบรรณในการทำงาน ให้พิจารณา “ลาออก” จากที่นั่นให้ไว อย่าปล่อยให้สภาพแวดล้อมแบบนั้นเปลี่ยนแปลงคุณไปในทางที่แย่ลง

6. เพื่อนร่วมงาน Toxic บริษัททำเสียสุขภาพ

อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ชัดเจนว่าควรลาออกจากที่ทำงานเดิมได้แล้ว ก็คือ การมีเพื่อนร่วมงานที่เป็นพิษ (Toxic People) หรือคนประเภทที่ชอบตวาดใส่ผู้อื่นหรือดูถูกผู้อื่นเป็นประจำ รวมถึงบริษัทที่มีพื้นที่ทำงานที่ไม่เหมาะสมกับสุขภาพของพนักงาน เช่น แออัดเกินไป มีมลพิษทางอากาศ หรือมลพิษทางเสียง ฯลฯ เหล่านี้ล้วนทำให้เสียสุขภาพจิตและสุขภาพกาย หากพบว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ทุกวัน ให้พิจารณาลาออกและถึงเวลามองหางานใหม่แล้ว

นี่เป็นสัญญาณเตือนเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่อาจช่วยให้คุณได้พิจารณาถึงปัญหาต่างๆ ในที่ทำงานได้ชัดเจนขึ้นก่อนที่จะตัดสินใจลาออกจากงานปัจจุบัน และย้ำอีกครั้ง! หากชีวิตการทำงานของคุณไม่ได้พบเจอกับสัญญาณเหล่านี้ ก็ยังไม่จำเป็นต้องลาออก แต่ถ้ามีความรู้สึกเฉื่อยชาในการทำงาน อาจลองมองหาเป้าหมายใหม่ๆ หรือคิดค้นสิ่งใหม่ในการทำงาน เพื่อรีเฟรชให้สดชื่นและเพิ่มความสนุกในงานมากขึ้นได้

----------------------------------------

อ้างอิง : Quartz, Harvard Business Review