"เจฟฟ์ เบซอส" อภิมหาเศรษฐีโลก ค้านแนวคิด “Work Life Balance”!!
ทำไม "เจฟฟ์ เบซอส" อภิมหาเศรษฐีโลก ถึงไม่อินกับความคิด “Work Life Balance” แล้วอะไรคือความคิดของการทำงานที่ผู้ประสบความสำเร็จคนนี้ยึดถือ?
ในแวดวงคนทำงาน มนุษย์เงินเดือน Work-life Balance น่าจะเป็นคำๆ หนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมาตลอดหลายปี นั่นเพราะใครๆก็ล้วนอยากจะมีสมดุลชีวิต ที่ให้ทั้งการงานและชีวิตเดินหน้าไปพร้อมๆกัน
แต่ในระหว่างที่เราต่างมองหา “สมดุลชีวิต” ยิ่งเวลาผ่านไป คำว่า Work-life Balance ก็กลับถูกตั้งคำถามอยู่เรื่อยๆ นั่นเพราะความเป็นจริงพิสูจน์แล้วว่า สมดุลชีวิตและการงานไม่ใช่การเอาหลักคณิตศาสตร์มาบวกลบตัดสิน โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ซึ่งการ Work From Home ทำให้พื้นที่ของชีวิตและการงานอยู่ในพื้นที่เดียวกัน และการมีเทคโนโลยีก็ทำให้เรื่องงานกับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวแยกออกจากกันไม่ได้ เหตุนี้แนวคิดของ Work-life Balance จึงค่อยๆลดทอนความน่าเชื่อถือลงไป
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2565 เว็ปไซต์ Business Insider รายงานว่า “เจฟฟ์ เบซอส” (Jeff Bezos) ผู้บุกเบิกธุรกิจแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับโลกอย่างอเมซอน คือหนึ่งในนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และเป็นคนที่ชัดเจนมาตลอดว่าไม่เชื่อในเรื่อง Work-life Balance
เจฟฟ์ เบซอส คือชายที่อยู่ในกลุ่มมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกมาตลอดหลายสิบปี และเมื่อปี 2564 นิตยสารฟอร์บสก็ยกให้เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ด้วยจำนวนทรัพย์สินรวม 1.77 แสนล้านดอลลาร์ จากการที่อาณาจักร Amazon ประสบความสำเร็จอย่างมาก
เจฟฟ์ เบซอส ไม่ให้ความสำคัญกับกล่าวที่ว่า "ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน" และเขาเคยกล่าวไว้ว่า “การทำงานและชีวิตเป็นวงกลม “ หรือที่เรียกว่า Work-Life Harmony ซึ่งมีความหมายว่า “ชีวิตและการทำงานผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน”
"ผมมักถูกถามเกี่ยวกับความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน และมุมมองของผมคือ Work-life Balance นั้นเป็นวลีที่บั่นทอนกำลังใจ เป็นความพยายามแบ่งเวลางานออกจากเวลาส่วนตัว และมันแสดงถึงการแลกเปลี่ยนที่เข้มงวด" เขาพูดเรื่องนี้ระหว่างปาฐกถาเมื่อปี 2561
ผู้ก่อตั้งบริษัทอเมซอน มองว่า ชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวทำงานประสานกัน มีผลต่อกันและกัน โดยที่ไม่สามารถแยกขาดจากกันได้
เมื่อคนคนหนึ่งสามารถมีความสุขในการทำงานทุกวัน เขาก็จะกลับบ้านอย่างมีความสุข ได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ และยิ่งเขามีความสุขมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานดีเยี่ยมขึ้นมากเท่านั้น นั่นจึงเป็นการผสานรวมกันระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
“มันคือชีวิตที่ประสานกันเป็นวงกลม ไม่ใช่ความหมายของการสร้างสมดุล”
แม้จะเป็นผู้ก่อตั้งและผลักดันอเมซอน ให้ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นบริษัทอันดับต้นๆของโลก และเป็นผู้ที่เคยร่ำรวยที่สุดในโลกติดต่อกันหลายปี แต่เมื่อปี 2564 เจฟฟ์ เบโซส ก็วางมือจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของบริษัทอย่างเป็นทางการแล้ว หลังทำหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่มานานกว่า 20 ปี โดยเขาได้ส่งไม้ต่อให้กับแอนดี แจสซี (Andy Jassy) เพื่อบริหารธุรกิจหลายแสนล้านดอลล่าร์ต่อ
เจฟฟ์ เบซอส เพิ่งได้ชื่อว่าพิชิตอวกาศสำเร็จ จากการขึ้นบินขึ้นจรวด “นิว เชปเพิร์ดของบริษัท “บลู ออริจิ้น”ที่เขาร่วมก่อตั้ง ในปัจจุบันนี้ (2566) เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 6 ของโลก
ถึงเช่นนั้น ในกลุ่มคนทำงาน แนวคิดของ เจฟฟ์ เบซอส ก็มักได้รับการพูดถึงอยู่เสมอ เขามีแนวทางการทำงานที่แปลกใหม่ เช่น เขามาสามารถบริหารเวลาเพื่อรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัวในทุกวัน ไม่ตั้งนาฬิกาปลุกก่อนเข้านอน จัดตารางการประชุมที่น้อย และแบ่งเวลาไม่กี่นาทีทุกวันเพื่อล้างจานของเขาเอง
ที่มา : Business Insider, อภิมหาเศรษฐีฟอร์บสปี 64 ‘เจฟฟ์ เบซอส’เบอร์1โลก