กลับบ้านไป! บริษัทอินเดียใช้ระบบแจ้งเตือนให้ "พนักงานออฟฟิศ" เลิกทำงาน
หมดเวลาทำงานแล้วสิ! เมื่อบริษัทแห่งหนึ่งในอินเดียผุดไอเดียช่วยพนักงานออฟฟิศให้มี “Work-Life Balance” ด้วยการติดตั้งระบบแจ้งเตือนบนหน้าจอคอมพ์ของพนักงานว่า ใกล้จะหมดเวลาทำงานและลุกกลับบ้านได้แล้ว
ประเด็น Work Life Balance ในโลกการทำงานของ "มนุษย์ออฟฟิศ" กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลอีกครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ หลังสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า มีบริษัทไอทีขนาดเล็กในเมืองอินดอร์ทางตอนกลางของอินเดีย ได้คิดค้นวิธีการที่ไม่ธรรมดาเพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานของพวกเขาสามารถ “รักษาสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานได้ดี” โดยการสร้างซอฟต์แวร์เพื่อเตือนพวกเขาเมื่อกะของพวกเขาหมดลง และก็ได้เวลากลับบ้าน
ซอฟต์แวร์ดังกล่าวมีชื่อว่า “Softgrid Computers” ถูกนำมาติดตั้งเป็นระบบการแจ้งเตือนที่จะเริ่มทำงานทันทีที่กะการทำงานของพนักงานแต่ละคนสิ้นสุดลง โดยจะแจ้งเตือนพนักงานด้วยข้อความผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ของแต่ละคน ซึ่งระบุข้อความว่า “WARNING!!! Your shift time is over. The office system will shutdown in 10 mins. PLEASE GO HOME!!”
มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการให้ความสำคัญและการวิจัยเกี่ยวกับผลเสียของชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานมากเกินไป จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความสัมพันธ์ของพนักงานทั่วโลก
ตัวอย่างเช่น องค์การอนามัยโลกเตือนในปี 2564 ว่าการทำงาน 55 ชั่วโมงขึ้นไปต่อสัปดาห์อาจทำให้เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองสูงขึ้น 35% และเสี่ยงเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจสูงขึ้น 17%
ภาพจาก : รอยเตอร์
“แนวคิดนี้มีขึ้นเพื่อต้องการให้พนักงานมีความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตที่ดี เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้เวลากับครอบครัวและคนที่รักได้” Ajay Golani ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวกับ ANI ซึ่งเป็นพันธมิตรของรอยเตอร์
ข้อความแจ้งเตือนให้กลับบ้านดังกล่าวสร้างความฮือฮาในโซเชียลมีเดียเมื่อไม่นานนี้ เมื่อพนักงานคนหนึ่งชื่อ Tanvi Khandelwal ได้แชร์ภาพคำเตือนบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขาโพสต์บนโซเชียลมีเดีย พร้อมระบุข้อความในโพสต์ด้วยว่า
“บริษัทแห่งนี้มีการแจ้งเตือนพิเศษว่าหมดเวลาทำงาน โดยระบบซอฟต์แวร์จะล็อคเดสก์ท็อปของฉันพร้อมออกคำเตือนให้กลับบ้าน” ทั้งนี้ มีผู้ใช้สื่อโซเชียลเข้ามากดไลก์โพสต์ของเธอเกือบ 400,000 ครั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่ Kritika Dubey ผู้ซึ่งเป็นพนักงานอีกหนึ่งในจำนวน 40 คนของบริษัทแห่งนี้ บอกกับ ANI ว่าป๊อปอัปแจ้งเตือนดังกล่าวช่วยให้เธอเลิกงานได้ตรงเวลาและทำหน้าที่อื่นๆ ที่บ้านได้สำเร็จ
เมื่อย้อนกลับมาดูวิถีการทำงานของพนักงานออฟฟิศในเมืองหลวงของไทยอย่าง “กรุงเทพฯ” พบว่า ชาวกรุงเทพฯ ขาดสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตที่ดี อ้างอิงจากสถิติ Getkisi เมื่อปีที่แล้วที่ได้จัดอันดับ Work-Life Balance Index 2022 ซึ่งรายงานว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ผู้คนมีสมดุลชีวิตที่แย่ โดยรั้งอันดับที่ 96 จากผลสำรวจ 100 เมืองทั่วโลก
ส่วนเมือง 5 อันดับแรกที่มี Work-Life Balance ดีที่สุดในโลก ได้แก่
- อันดับ 1 กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์
- อันดับ 2 กรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
- อันดับ 3 เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
- อันดับ 4 เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
- อันดับ 5 เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
อย่างไรก็ตาม วิธีการของบริษัทอินเดียข้างต้นที่ส่งเสริมให้พนักงานมีสมดุลชีวิตและการทำงาน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีในการดูแลสุขภาพของพนักงาน และอาจเป็นต้นแบบให้บริษัทอื่นๆ นำไปปรับใช้ได้ด้วย
--------------------------------------