“เดวิด ฟอล์ก” เอเยนต์มือทอง ผู้อยู่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่นักกีฬาระดับโลก

ใน “อุตสาหกรรมกีฬา” ไม่ได้มีเพียงแต่นักกีฬาหรือโค้ชเท่านั้น แต่ “เอเยนต์” หรือ “ตัวแทนนักกีฬา” ก็เป็นอีกหนึ่งบุคลากรที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะนักกีฬาคนไหนจะ “ดัง” หรือจะ “ดับ” เอเยนต์ผู้ที่อยู่เบื้องหลังนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

“กรุงเทพธุรกิจ” จะพาไปรู้จักกับเอเยนต์ชาวอเมริกันคนดังผู้ที่ปลุกปั้นให้ ไมเคิล จอร์แดน กลายเป็นนักกีฬาที่รวยในประวัติศาสตร์ เพราะมีแบรนด์เสื้อผ้าและรองเท้ากีฬาเป็นชื่อตัวเองอย่าง ไนกี้ แอร์ จอร์แดน ชื่อของเขาก็คือ “เดวิด ฟอล์ก”

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ตัวแทนนักกีฬา หรือที่คนในวงการกีฬาเรียกกันว่า เอเยนต์ นั้นมีความสำคัญต่อตัวนักกีฬาและแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่ต้องการนักกีฬามาเป็นพรีเซนเตอร์อย่างไรบ้าง

 

 

• ตัวแทนนักกีฬา มีหน้าที่มากกว่าที่หลายคนคิด!

เอเยนต์ ถือเป็นตัวแทนนักกีฬาที่มีหน้าที่ดูแลนักกีฬาในหลายๆ ด้าน ทั้งการเป็นตัวแทนด้านกฎหมาย, ทำหน้าที่พิจารณาตัวเลขค่าเหนื่อยของนักกีฬาที่ตนเองดูแลว่าคุ้มค่าหรือไม่, ทำหน้าที่เจรจาในงานสัญญาจ้างทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังกัดทีม การย้ายทีม ที่ต้องติดต่อผ่านผู้จัดการทีม หรือแม้แต่การรับงานเป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์สินค้าต่างๆ การให้คำแนะนำกับนักกีฬาด้านการจัดการการเงินและอสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงการประชาสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้นักกีฬาที่ตนดูแลอยู่

นอกจากนี้ในหน่วยงานกีฬาขนาดใหญ่บ้างแห่ง เช่น IMG และ Roc Nation Sports ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นเอเยนต์ต้องจัดการกับการเงินของนักกีฬาทุกด้าน ตั้งแต่การลงทุนไปจนถึงการยื่นภาษี และสำหรับกีฬาบางประเภท เช่น ฮอกกี้เริ่มรับสมัครนักกีฬาตั้งแต่อายุยังน้อย คือ 15 ปี ทำให้เอเยนต์จำเป็นต้องให้คำแนะนำในการร่างสัญญาการเป็นนักกีฬาให้เด็กๆ นักกีฬาฮอกกี้เหล่านี้มากเป็นพิเศษ

สำหรับเอเยนต์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดคนหนึ่งของแวดวงกีฬาจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ “เดวิด ฟอล์ก” ผู้อยู่เบื้องหลังเทพเจ้าแห่งบาสเกตบอลอย่าง ไมเคิล จอร์แดน ซึ่งความจริงแล้วยังมีนักกีฬาอีกมากมายที่ประสบความสำเร็จในอาชีพได้ก็เพราะนักปั้นมือทองคนนี้

 

 

• เดวิด ฟอล์ก เอเยนต์ผู้อยู่เบื้องหลังนักกีฬาดังระดับโลก

ชื่อของ เดวิด ฟอล์ก ถือว่าได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมกีฬาอเมริกาเป็นอย่างมาก เนื่องจากเขาคือเอเยนต์ที่ไม่ใช่เพียงแค่สร้างชื่อเสียงและความโด่งดังให้แก่นักกีฬาหลายคน จนกลายเป็นนักกีฬาแถวหน้าของวงการเท่านั้น แต่ยังสร้างความมั่งคั่งและความร่ำรวยให้กับนักกีฬาเหล่านั้นด้วย

ลูกค้าส่วนใหญ่ของฟอล์กนั้นเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลใน National Basketball Association หรือ NBA ซึ่งผู้ที่มีชื่อเสียงและมีความร่ำรวยมากที่สุดย่อมหนีไม่พ้น “ไมเคิล จอร์แดน” ที่แม้ว่าจะเลิกเล่นกีฬาไปหลายสิบปีแล้ว แต่ยังมีรายได้จากการขายสินค้าตระกูลแอร์จอร์แดนมาตลอด จนเรียกได้ว่าเป็น Passive Income ก็ว่าได้

การก้าวขึ้นมาเป็นไอคอนแห่งวงการบาสเกตบอลพร้อมมีแบรนด์สินค้าของจอร์แดนนั้น เรียกได้ว่าฟอล์กมีส่วนสำคัญในการผลักดันเป็นอย่างมาก ตั้งแต่การสนับสนุนให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของไนกี้แทนอดิดาส การนำนามสกุลจอร์แดนมาเป็นชื่อสินค้า ไปจนถึงแนะนำด้านการลงทุนในธุรกิจต่างๆ และการซื้ออสังหาริมทรัพย์

ความยิ่งใหญ่ของฟอล์กในโลกแห่งกีฬานั้นถือว่ามีอิทธิพลมากพอสมควร เพราะเขาเป็นตัวแทนของนักกีฬา NBA มากกว่าร้อยคน โดยในปี 1990 เขาถูกวางให้เป็นบุคคลผู้มีอำนาจมากเป็นอันดับสองในวงการ NBA ต่อมาในปี 1995 เขาถูกเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งใน 50 อันดับแรกสุดปังของนักการตลาดในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เขายังติดอันดับ 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการกีฬา ถึง 12 ปีติดต่อกันโดยการจัดลำดับของสื่อกีฬาชื่อดังอย่าง The Sporting News อีกด้วย

สำหรับนักกีฬาที่เรียกได้ว่าเป็นลูกค้าที่มีชื่อเสียงของฟอล์ก ได้แก่

• แบรนด์เอลตัน ไทรอน อดีตนักบาสเกตบอลอาชีพชาวอเมริกันและเป็นผู้จัดการทีมฟิลาเดลเฟีย
• โทนี่ ดักลาส นักบาสเกตบอลทีมพัลลากาเนสโตร วาเรเซ
• เจฟฟ์ กรีน นักบาสเกตบอลทีมเดนเวอร์นักเก็ต

 

เรียกได้ว่าเบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของนักกีฬาบาสเกตบอลอาชีพหลายคน โดยเฉพาะผู้เล่น NBA ส่วนหนึ่งนั่นมาจากความเป็นมืออาชีพในการทำการตลาดของ “เดวิด ฟอล์ก” ผู้นี้นั่นเอง

 

 

อ้างอิงข้อมูล : Tojo, Hmong และ Syracuse University