กลุ่มสร้างสรรค์ หรือกลุ่มของฉัน | บวร ปภัสราทร
วันนี้ผู้คนรวมกลุ่มกันทำงานร่วมกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่กลุ่มที่เกิดขึ้นมีทั้งที่เกิดขึ้นแล้วช่วยสร้างสรรค์การการงานให้ดีขึ้น และกลุ่มที่ไม่ได้มีอะไรงอกงามขึ้นจากการรวมกลุ่มกัน
ถ้ามองจากการรวมกลุ่มกัน จะพบว่าถ้าเป็นกลุ่มสร้างสรรค์รวมกันแล้วงานเดิมดีขึ้นกว่าที่ต่างคนต่างทำ แต่ถ้ารวมตัวกันเป็นเสมือนกลุ่มของใครสักคนมักไม่มีอะไรดีขึ้น จากการที่มีลักษณะเป็นเสมือนศาสดากับสาวก
มีร้อยคนแต่มีแค่หนึ่งความคิด คือความคิดของคนที่ทำตัวประหนึ่งเป็นเจ้าของกลุ่มนั้น รวมตัวกันเป็นไปได้สักพัก ก็จะมีการแย่งชิงความเป็นศาสดาของกลุ่มเกิดขึ้นเป็นประจำ
เพราะใครได้ขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่ม ก็มักต้องการให้คนทั้งกลุ่มว่าอย่างไรก็ว่าตามตน าวง พยายามให้กลุ่มเป็นไปทางที่ตนชื่นชอบ สักพักหนึ่งก็จะมีอีกคนที่คิดว่าตนเองก็น่าจะเป็นเจ้าของกลุ่มได้ ลุกขึ้นมาชิงความเป็นใหญ่ในกลุ่ม ความขัดแย้งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นก็ตามมาอีกมากมาย
กลุ่มของฉันไม่ใช่ทางเลือกที่ดีหากหวังว่าเมื่อร่วมมือกันแล้ว ต้องการยกระดับผลงานให้สูงขึ้น กลุ่มของฉันมีข้อดีสำคัญอยู่เรื่องเดียวคือ ช่วยอนุรักษ์แนวทางการทำงานของใครบางคนเอาไว้เท่านั้น
กลุ่มสร้างสรรค์ เป็นกลุ่มที่สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการให้ความคิดความเห็นที่ใช้สร้างสรรค์งานเดิมให้ดีขึ้น จากการที่สามารถมองเห็นสิ่งที่ควรพัฒนาจากหลากหลายมุมมอง
ถ้ารวมตัวกันอย่างสร้างสรรค์ในการเล่นดนตรี สมาชิกแต่ละคนจะมีสไตล์การบรรเลงเป็นของตนเอง เพลงเดิมที่เคยบรรเลงกันแบบซำ้ซาก ก็จะมีลูกเล่น ลูกล้อใหม่ ๆเกิดขึ้นได้
เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มของฉันจะพบว่า หากใครสักคนทำตัวเป็นเจ้าของวง เป็นครูใหญ่ คอยกำกับให้คนอื่นทำตามที่ตนบอกให้ทำเท่านั้น เพลงเดิมก็คือเนื้อร้องเดิม ทำนองเดิม จะบรรเลงกี่ครั้งกี่หนก็ตาม เพลงที่บรรเลงซำ้ซากวนไปวนมา ไม่มีอะไรใหม่ ๆขึ้นมา
กลุ่มสร้างสรรค์ไม่ได้เกิดขึ้นมาโดยอัตโนมัติตามคำสั่งของผู้บริหาร ถ้าอยากสร้างกลุ่มสร้างสรรค์ คนที่จะมารวมกลุ่มกันต้องเชื่อเป็นเบื้องต้นว่าการมีส่วนร่วมในเรื่องต่าง ๆของสมาชิกกลุ่มมีความสำคัญ
ซึ่งถ้าจะทำให้การมีส่วนร่วมเกิดขึ้น สมาชิกของกลุ่มต้องยอมรับกันอย่างจริงใจก่อนว่า ทุกคนเท่ากัน ความคิดเห็นของทุกคนมีความหมาย ฟังความคิดของทุกคนเท่ากัน ไม่ว่าคนนั้นจะยิ่งใหญ่ หรือติดดิน เปิดใจรับฟังคำวิจารณ์อย่างสงบ
พร้อมทั้งให้คำวิจารณ์ที่เป็นการชี้โอกาสในการปรับปรุง มากกว่าที่จะเน้นไปที่การติเตียนความคิดเห็น หรือผลงานของสมาชิกร่วมกลุ่ม ต้อนรับความแตกต่างในการร่วมงานกัน มากกว่าที่จะพยายามกำจัดความแตกต่าง
การร่วมมือกันสร้างสรรค์สิ่งใดสิ่งหนึ่งจะเป็นไปอย่างได้ผล ก็ต่อเมื่อมีกลไกสำหรับป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบทางลบกับจิตใจของสมาชิกที่เข้ามาร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งนั้น ได้แก่ การสื่อสารระหว่างกันด้วยการให้เกียรติ และเคารพซึ่งกันและกัน อย่าสื่อสารกันแบบหน้าไหว้หลังหลอก
อย่าขัดจังหวะการสื่อสารโดยไม่มีเหตุผลที่ดี ตั้งใจฟังกันและกันอย่างจริงจัง จับสาระในการสื่อสารมากกว่าจับถ้อยคำเป็นบางถ้อยคำ เปิดโอกาสให้กันและกันในการให้ความเห็น อย่าเร่งรีบตีกรอบความคิดไว้แคบกระทั่งจนความคิดใหม่ ๆ แทบจะถูกปฏิเสธไปในทันที ขยายต่อยอดความคิดของคนอื่นแทนที่การกำจัดความคิดนั้น เพียงเพราะไม่ตรงกับที่ตนคิดตนเชื่อ
ทำให้ทุกคนสบายใจในการให้ความคิดความเห็น พร้อมทั้งปลูกฝังทักษะในการทำงานด้วยกันอย่างกัลยาณมิตร ในยามจำเป็นที่ต้องตัดสินใจร่วมกัน ต้องสามารถเลือกหนทางการตัดสินใจร่วมกันที่เหมาะสมกับบริบทของเรื่องที่ต้องตัดสินใจ เรื่องแบบใดความเป็นการตัดสินใจที่ควรเป็นฉันทามติ เรื่องใดที่ต้องใช้การออกเสียงข้างมาก
อย่าตัดสินใจทุกเรื่องด้วยการออกเสียง ใครมากกว่าชนะไปทุกเรื่อง ซึ่งไม่ใช่หนทางที่จะช่วยสร้างความผูกพันในระหว่างผู้คนที่ตกลงจะมาทำงานสร้างสรรค์ร่วมกัน
ที่สำคัญคือ กลุ่มสร้างสรรค์ต้องมีความสามารถในการกำหนดเป้าหมายที่ต้องการสร้างสรรค์ร่วมกัน โดยที่เรื่องอื่นๆ อาจคิดต่างเห็นต่างกันไปคนละทิศคนละทางได้ และไม่นำความแตกต่างในเรื่องอื่นมาทำให้กลายเป็นอุปสรรคในการสร้างสรรค์เรื่องที่ตั้งเป้าหมายไว้ร่วมกัน
กลุ่มของฉันสร้างขึ้นง่าย แต่ก็แตกง่าย กลุ่มสร้างสรรค์สร้างยาก แต่ยั่งยืน
คอลัมน์ ก้าวไกลวิสัยทัศน์
รศ.บวร ปภัสราทร
นักวิจัย Digital Transformation
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
email. [email protected]