หงส์ดำ และ แรดเทา ความเสี่ยงในโลกไม่แน่นอน
ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดน้อยใหญ่เกิดขึ้นรายสัปดาห์ แนวคิดหนึ่งที่ได้รับความสนใจในวงการ Foresight และการบริหารความเสี่ยง คือแนวคิดเรื่อง “หงส์ดำ” (Black Swan) และ “แรดเทา” (Gray Rhino)
KEY
POINTS
- “หงส์ดำ” หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ยากที่จะทำนายล่วงหน้า และส่งผลกระทบอย่างรุนแรง เช่น เหตุการณ์ 9/11 การระบาดของโรคโควิด-19 การล่มสลายของสหภาพโซเวียต
- “แรดเทา” (Gray Rhino) หมายถึง ภัยคุกคามที่มองเห็นได้ชัดเจน แต่มักถูกละเลยหรือไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม เช่น ปัญหา climate change และ ปัญหาจากสังคมผู้สูงอายุ เป็นต้น
- สองแนวคิดนี้มีความสำคัญในการบริหารความเสี่ยงและการวางแผนเชิงกลยุทธ์ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงฉับพลัน และสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
- key points สรุปจากกองบรรณาธิการ
เหตุการณ์แบบสัตว์ทั้งสองประเภทแตกต่างกัน แต่กลับมีความหมายลึกซึ้งในโลกของการวิเคราะห์อนาคตและการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
“หงส์ดำ” หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ยากที่จะทำนายล่วงหน้า และส่งผลกระทบอย่างรุนแรง แนวคิดหงส์ดำถูกนำเสนอโดย นาสซิม นิโคลัส ทาเลบ นักคณิตศาสตร์และนักเขียนในหนังสือชื่อ “The Black Swan: The Impact of the Highly Improbable”
ทาเลบใช้คำว่า “หงส์ดำ” เพื่ออธิบายถึงเหตุการณ์ที่มีลักษณะสำคัญสามประการ ได้แก่ เป็นเหตุการณ์ที่อยู่เหนือความคาดหมาย มีผลกระทบรุนแรง และหลังจากเกิดขึ้นแล้ว มนุษย์มักจะพยายามอธิบายว่าสามารถคาดการณ์ได้
ตัวอย่างของหงส์ดำที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์มีมากมาย เช่น การก่อการร้าย 11 กันยายน 2001 ในสหรัฐ วิกฤติการเงินโลกในปี 2008 และการระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2020 เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองระดับโลก
การล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 เป็นอีกหนึ่งในเหตุการณ์หงส์ดำ เหตุการณ์นี้เปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์โลกและส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนนับล้านในยุโรปตะวันออกและเอเชียกลาง
ในขณะที่หงส์ดำเป็นเหตุการณ์ที่คาดเดาได้ยาก “แรดเทา” (Gray Rhino) กลับเป็นภัยคุกคามที่มองเห็นได้ชัดเจน แต่มักถูกละเลยหรือไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม แนวคิดนี้ถูกนำเสนอโดย มิเชล วูเคอร์ นักยุทธศาสตร์และนักเขียนชาวอเมริกัน ในหนังสือ “The Gray Rhino: How to Recognize and Act on the Obvious Dangers We Ignore”
วูเคอร์ใช้คำว่า “แรดเทา” เพื่อเปรียบเทียบกับภัยคุกคามที่กำลังวิ่งเข้าหาเรา เห็นได้ชัดเจน แต่เรากลับเลือกที่จะไม่จัดการกับมัน เหตุการณ์แรดเทามักเกี่ยวข้องกับปัญหาระยะยาวที่ค่อยๆ สะสมจนกลายเป็นวิกฤติ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น หรือปัญหาจากสังคมผู้สูงอายุ
เหตุการณ์แรดเทาอย่างวิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น นักวิทยาศาสตร์ได้เตือนถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ แต่การดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหานี้กลับเป็นไปอย่างล่าช้าและไม่เพียงพอ
ผลที่ตามมาคือ เราเริ่มเห็นผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศที่ส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหารและน้ำ
วิกฤตการณ์ประชากรสูงอายุก็เข้าข่ายแรดเทา ปัญหานี้เป็นที่รับรู้มานานแล้ว แต่การเตรียมความพร้อมในด้านระบบสาธารณสุข ระบบบำนาญ และการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้รองรับสังคมผู้สูงอายุยังคงเป็นไปอย่างล่าช้า ส่งผลให้ประเทศกำลังจะเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรครั้งใหญ่นี้
แม้ว่าหงส์ดำและแรดเทาจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองแนวคิดนี้ล้วนมีความสำคัญในการบริหารความเสี่ยงและการวางแผนเชิงกลยุทธ์ การเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยวิธีการที่หลากหลายและยืดหยุ่น
ในการจัดการหงส์ดำนั้น สิงคโปร์เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ดีซึ่งประเทศได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญจากการระบาดของโรคซาร์สในปี 2003 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์หงส์ดำในขณะนั้น และได้นำประสบการณ์นี้มาใช้ในการเตรียมพร้อมรับมือกับการระบาดของโรคในอนาคต
เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 สิงคโปร์จึงสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยการมีแผนรับมือที่ชัดเจน ระบบสาธารณสุขที่แข็งแกร่ง และการใช้เทคโนโลยีในการติดตามและควบคุมการแพร่ระบาด
การรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่นเป็นอีกตัวอย่างที่ดี เนื่องจากเป็นประเทศที่ต้องเผชิญกับแผ่นดินไหวและสึนามิบ่อยครั้ง แต่ไม่แน่นอนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไรและที่ไหน
ญี่ปุ่นจึงได้พัฒนาระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้าที่ทันสมัย มีการออกแบบอาคารและโครงสร้างพื้นฐานให้ทนต่อแรงสั่นสะเทือน รวมถึงมีการฝึกซ้อมรับมือภัยพิบัติอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สามารถลดความสูญเสียจากภัยพิบัติได้อย่างมีนัยสำคัญ
ในด้านการจัดการกับแรดเทา ประเทศเดนมาร์กเป็นตัวอย่างในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยได้กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน มีการลงทุนอย่างจริงจังในเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เช่น พลังงานลม และส่งเสริมการใช้จักรยานเพื่อลดการใช้รถยนต์
ผลลัพธ์คือ เดนมาร์กสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีนัยสำคัญ และกลายเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาดของโลก
การรับมือกับ "หงส์ดำ" เราต้องสร้างระบบและวัฒนธรรมที่มีความยืดหยุ่น พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงฉับพลัน และสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อเผชิญกับวิกฤติ ในขณะเดียวกัน การจัดการกับ "แรดเทา" เรียกร้องให้เรามีความกล้าในการเผชิญหน้ากับปัญหาที่เห็นได้ชัด แม้ว่าการแก้ไขอาจต้องใช้ความพยายามและทรัพยากรจำนวนมาก
ในระดับประเทศ เราจึงต้องการรัฐบาลที่มีความกล้าหาญในการจัดการกับ “แรดเทา” และพร้อมที่จะรับมือกับ “หงส์ดำ”