ซีอีโอสายการบิน Delta แนะ ‘ทำเต็มที่กับทุกงาน’ แล้วจะก้าวหน้าไกลกว่าที่คิด

วัยทำงานระดับปฏิบัติการไม่ว่าจะทำงานสายงานใดก็ตาม ย่อมต้องการโอกาสเติบโตก้าวหน้าในอาชีพการงานของตน บางคนใฝ่ฝันจะขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูงให้ได้ในเร็ววัน จึงมุ่งมั่นและหมกมุ่นอยู่กับการทำให้ตนเองเป็นจุดสนใจของเจ้านาย มากกว่าจะโฟกัสที่ตัวงานที่ทำอยู่ในตำแหน่งปัจจุบัน

แต่สำหรับ เอ็ด บาสเตียน (Ed Bastian) ซีอีโอสายการบิน Delta เขากลับมองว่าตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงที่เขาก้าวขึ้นมาได้นั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการเป็นคนโปรดของเจ้านาย และไม่ใช่แม้แต่ความใฝ่ฝันแรกในชีวิตการทำงานของเขาด้วยซ้ำ

แต่การที่เขาทุ่มเทตั้งใจกับการทำงานทุกๆ บทบาทที่ผ่านมา ทำให้เขามีประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญและทำผลงานได้ดีเรื่อยมา ผู้คนมองเห็นและยอมรับในผลงานเหล่านั้น สิ่งนี้ต่างหากที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จและก้าวขึ้นมาอยู่ในจุดนี้ได้ในที่สุด

ซีอีโอแนะวัยทำงาน 'อย่าหมกมุ่นกับการเลื่อนตำแหน่งมากเกินไป'

ซีอีโอบาสเตียนในวัย 67 ปี มีคำแนะนำที่เรียบง่ายสำหรับใครก็ตามที่ต้องการก้าวหน้าในอาชีพการงาน นั่นคือ ให้มุ่งเน้นไปที่การรับผิดชอบในตำแหน่งงานปัจจุบันให้ดีที่สุด โดยไม่ต้องคิดหมกมุ่นมากเกินไปเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งในอนาคต

เขาให้เครดิตความสำเร็จในอาชีพการงานของตัวเองว่ามาจาก “ความตั้งใจทำงานในทุกๆ บทบาท” ของเขา โดยก่อนหน้านี้ เขาเติบโตมาจากการเป็นพนักงานตรวจสอบบัญชีที่ PwC (หนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชีที่ใหญ่ที่สุดในโลก) ไปจนถึงสะสมประสบการณ์การเป็นผู้บริหารในบริษัทต่างๆ เช่น PepsiCo, Acuity Brands และล่าสุดกับตำแหน่งซีอีโอสายการบิน Delta ซึ่งการก้าวสู่ตำแหน่งงานที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ ล้วนเป็นผลมาจากแนวคิดที่เรียบง่ายข้างต้น

“งานที่คุณมีอยู่นั้น จงตั้งใจทำมันให้ดี ผมได้เรียนรู้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ ว่า เป็นงานทุกบทบาท-ทุกตำแหน่ง มีความสำคัญที่สุดสำหรับคุณในช่วงเวลานั้นๆ และจงทำหน้าที่นั้นให้ดี” เขากล่าวกับพอดแคสต์ “This Is Working” ของ LinkedIn เมื่อไม่นานมานี้

มีความทะเยอทะยานนั้นก็ดี แต่ถ้ามากเกินไป อาจหลุดโฟกัสในงานได้

จากประสบการณ์ส่วนตัวของบาสเตียน เขาบอกว่า แม้ความทะเยอทะยานเป็นคุณลักษณะที่พึงปรารถนาในตัวพนักงาน แต่บางครั้งความกระตือรือร้นที่จะก้าวหน้าในองค์กรที่มากเกินไป อาจทำให้พนักงานหลุดโฟกัสจากงานที่ทำอยู่ อีกทั้งในสายตาเจ้านาย คุณอาจดูฟุ้งซ่าน ไม่สนใจ หรือละเลยบทบาทงานปัจจุบันของคุณ ทำให้อาจขาดคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดสำหรับการก้าวหน้าในอาชีพการงาน

“ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้นั่งในตำแหน่งนี้มาก่อน ผมไม่ได้ตั้งเป้าหมายชีวิตไว้ว่าจะเป็นซีอีโอของสายการบิน ผมไม่เคยขึ้นเครื่องบินเลยจนกระทั่งอายุ 25 ปี อย่างไรก็ตาม โดยสรุปคือ สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณต้องมีความพยายาม ..ความพยายามและทุ่มเทในงานแต่ละบทบาทของคุณ จะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะได้รับอะไรจากบทบาทนั้น ซึ่งเจ้านายที่ดีจะสังเกตเห็นความพยายามเหล่านั้น” เขากล่าว

ซีอีโอสายการบินเดลต้าบอกอีกว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นคนแสดงออกต่อสาธารณะเก่งหรือไม่ก็ตาม แต่ความพยายามในงานอย่างเต็มที่ ก็สามารถทำให้คุณดูโดดเด่นมากกว่าเพื่อนร่วมงาน และทำให้คุณเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการขึ้นเงินเดือนหรือเลื่อนตำแหน่งในอนาคตได้

ไม่ใช่แค่ เอ็ด บาสเตียน แต่ผู้นำหลายคนก็ชี้ว่า  'ความพยายาม' คือคีย์หลักความสำเร็จ

บาสเตียนไม่ใช่ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จเพียงคนเดียว ที่ยกย่องให้ ‘ความพยายาม’ เป็นคีย์หลักแห่งความสำเร็จ แต่ยังมีนักธุรกิจและนักลงทุนระดับมหาเศรษฐีอย่าง มาร์ก คิวบาน (Mark Cuban) ก็เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เขาเคยให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวคิดที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จไว้ว่า..

ในการทำงานต่างๆ พนักงานควรฝึกทักษะการริเริ่มแก้ไขปัญหาในงานที่ตนเองทำอยู่ แม้ว่าจะไม่มีใครขอให้ทำก็ตาม โดยพยายามใช้ทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อค้นหาคำตอบ หาวิธีแก้ไข หรือหาทางทำให้งานของตนมีประสิทธิผลดีขึ้น

“สิ่งหนึ่งในชีวิตที่คุณควบคุมได้คือความพยายามของคุณ และการเต็มใจที่จะทำเช่นนั้นถือเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ทำเช่นนั้น” เขากล่าวในวิดีโอโพสต์บน LinkedIn ที่เผยแพร่โดยผู้ประกอบการและนักลงทุน VC เมื่อปีที่แล้ว

ในขณะที่ แอนดี แจสซี (Andy Jassy) ซีอีโอของ Amazon ก็กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า "กุญแจสำคัญคือการคว้าโอกาสในการเรียนรู้วิธีการทำงานของคุณให้ดีขึ้น คุณต้องหิวกระหายและใคร่รู้ที่จะหาวิธีเรียนรู้วิธีทำงานใหม่ๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม" ซึ่งเขาได้เผยแพร่แนวคิดนี้ผ่านวิดีโอที่โพสต์โดย Amazon เมื่อเดือนที่แล้ว

“ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ในกรณีของบริษัทเดลต้า เราให้ความสำคัญกับคนที่ตั้งใจทำงาน ผมรับประกันเลยว่า ผลงานของคุณจะถูกมองเห็น จะถูกได้ยิน และผู้คนรอบข้างจะบอกต่อในส่ิงที่คุณทำได้” ซีอีโอบาสเตียน กล่าวในท้ายที่สุด