งานประจำ 9am-5pm จะหายไปในปี 2034 AI เข้ามาเปลี่ยนโลก Gig Economy จะเติบโต

งานประจำ 9am-5pm จะหายไปในปี 2034 AI เข้ามาเปลี่ยนโลก Gig Economy จะเติบโต

งานรูทีนแบบ 9am-5pm จะหายไปภายในปี 2034 หรือในอีก 10 ปีข้างหน้า AI เข้ามาเปลี่ยนโลกทำงานมากขึ้น งานรูปแบบเก่าค่อยๆ หายไป ถูกแทนที่ด้วยงานอิสระ และการจ้างงานแบบชั่วคราวแบบ Gig Economy จะเติบโต

KEY

POINTS

  • Reid Hoffman ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Linkedln ทำนายว่าภายในปี 2034 หรืออีก 10 ปีข้างหน้างานประจำแบบ 09.00-17.00 น. จะหายไป และถูกแทนที่ด้วยการทำงานวิถีใหม่ที่ถูกขับเคลื่อนด้วย AI 
  • อีก 30 ปีข้างหน้า AI และระบบอัตโนมัติจะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของคนเรามากขึ้นอย่างน่าตกตะลึง 
  • ในอนาคตวัยทำงานจะไม่ทำงานเฉพาะสายงานเดิมของตนเอง แต่จะทำงานหลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น ผู้คนไม่เป็นพนักงานประจำอีกต่อไป แต่อาจทำงานชั่วคราว 2-3 งานไปพร้อมๆ กัน

ทุกวันนี้โลกการทำงานเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก เห็นได้ชัดในช่วงหลังการระบาดโควิดที่รูปแบบการทำงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น พนักงานบางสายงาน-บางอุตสาหกรรม สามารถทำงานจากระยะไกลหรือทำงานจากที่บ้านได้ แม้ปัจจุบันจะพบว่านายจ้างบริษัทใหญ่ๆ จะเริ่มออกคำสั่งให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศเต็มเวลากันแล้ว แต่บริษัทขนาดกลางหรือขนาดเล็กหลายแห่งยังคงให้ความยืดหยุ่นในการทำงาน

ไม่เพียงเท่านั้น ในมุมของลูกจ้างโดยเฉพาะวัยทำงานรุ่นใหม่ พวกเขาเองก็เริ่มหันไปเลือกงานอิสระที่จัดการเวลาทำงานได้อย่างยืดหยุ่นมากกว่างานประจำ และก่อเกิดงานในกลุ่ม GIG Economy เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เคยถูกทำนายไว้แล้วโดย “รีด ฮอฟแมน (Reid Hoffman)” ผู้ก่อตั้งร่วมของบริษัท Linkedln

งานประจำ nine to five (09.00-17.00 น.) กำลังจะตาย

เมื่อช่วงกลางปี 2024 ที่ผ่านมา ฮอฟแมน ในฐานะผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตและผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพการงาน ออกมาให้ข้อมูลผ่านพอดแคสต์ว่า ภายในปี 2034 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า งานประจำแบบ 09.00-17.00 น. (หมายถึงการทำงานประจำของพนักงานออฟฟิศ เข้างานเก้าโมงเช้าเลิกงานห้าโมงเย็น) กำลังจะหายไปกลายเป็นอดีต และถูกแทนที่ด้วยการทำงานวิถีใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และถูกขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI 

เขาบอกอีกว่า หลังจากนั้นไปอีก 30 ปีข้างหน้า AI และระบบอัตโนมัติจะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการทำงานประจำวันของคนเรามากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้วิธีการทำงานและการใช้ชีวิตของเราเปลี่ยนไป เนื่องจากความก้าวหน้าของ AI นั้นรวดเร็วอย่างน่าตกตะลึง สิ่งนี้จะกำหนดอนาคตของการทำงานใหม่ของมนุษย์

“อย่างไรก็ตาม AI ไม่ได้เข้ามาแทนที่มนุษย์ แต่ควรเป็นเครื่องมือสำหรับการขยายขอบเขตการทำงานของมนุษย์ ให้สะดวกขึ้น รวดเร็วขึ้น” ฮอฟฟ์แมนโพสต์บน X ซึ่ง Neal Taparia แห่ง UNWIND MEDIA ได้แชร์คลิปไวรัลของ Hoffman บน X ด้วยเช่นกัน

หนีไม่พ้น! ระบบอัตโนมัติและ AI จะเข้ามาเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานขององค์กรแน่นอน

ไม่เพียงเท่านั้น ฮอฟแมนยังคาดการณ์ถึงการเติบโตของโซเชียลมีเดียไว้ตั้งแต่ปี 1997 รวมถึงทำนายรูปแบบเศรษฐกิจการแบ่งปัน และการปฏิวัติ AI ว่ามันจะเกิดขึ้นแน่ๆ ซึ่งเขาพูดเรื่องนี้ก่อนที่ ChatGPT จะได้รับความนิยมและถูกนำไปใช้ทำงานในหลายๆ อุตสาหกรรมด้วยซ้ำ

งานประจำ 9am-5pm จะหายไปในปี 2034 AI เข้ามาเปลี่ยนโลก Gig Economy จะเติบโต

ฮอฟแมนมองว่า วิวัฒนาการของ AI นั้นนำทึ่ง ขณะเดียวกันก็น่าสะพรึงกลัวไม่น้อย นับตั้งแต่มีการเปิดตัว ChatGPT งานนับพันงานทั่วโลกก็กลายเป็นสิ่งล้าสมัย บริษัทหลายแห่งเร่งฝึกอบรมรมพนักงามของตนให้เท่าทันการใช้งานเทคโนโลยี AI เพื่อไม่ให้องค์กรตกขบวน เขายอมรับว่าระบบอัตโนมัติจะเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานขององค์กรแน่นอน แต่ไม่ถึงขั้นว่าจะเข้ามาทดแทนตำแหน่งงานหรือกำจัดบางอาชีพให้หมดสิ้นไป

“AI ถูกนำมาใช้ในร้านอาหารและงานบริการอยู่แล้วในตอนนี้ และในอนาคตการทำงานรูปแบบนี้จะยังคงดำเนินต่อไป แต่ประสบการณ์ที่เกิดจากการแบ่งปันอาหารร่วมกัน การพูดคุยหรือแชร์ข้อมูลเหล่านี้ร่วมกัน ยังเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ที่ไม่มีอะไรสามารถแทนที่ได้” เขากล่าวในพอดแคสต์

คนรุ่นต่อไปเลิกทำงานประจำ แต่หันไปทำงานอิสระ-รับงานชั่วคราวมากขึ้น

เขาบอกด้วยว่า ในอนาคตข้างหน้าวัยทำงานจะไม่ทำงานเฉพาะในสายงานเดิมของตนเองเท่านั้น แต่จะเริ่มทำงานในหลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น หรือเปลี่ยนสายงาน เปลี่ยนเส้นทางอาชีพการงานใหม่ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยียุคใหม่มากขึ้น 

“พวกคุณส่วนใหญ่อาจไม่ได้ทำงานในฐานะพนักงานเต็มตัวอีกต่อไป แต่คุณอาจทำงานใน Gig Economy หรือคุณอาจทำงานแบบจ็อบชั่วคราว 2-3 งานไปพร้อมๆ กัน สิ่งเหล่านี้ล้วนเปลี่ยนแปลงทิศทางโลกการทำงานเดิมที่เราเคยเห็นมาในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา” 

ทั้งนี้ Gig Economy หมายถึง ระบบเศรษฐกิจที่ถูกขับเคลื่อนด้วยการทำงานในลักษณะชั่วคราว มีการรับงานคนกลาง ไม่ต้องจัดการบัญชีหรือโปรโมตเอง แค่รับงานมาทำให้เสร็จและส่งตามกำหนดเป็นงานๆ ไป มีการจ่ายค่าจ้างตามปริมาณงานเมื่อจบสัญญาที่ตกลงกันไว้แล้วก็จะไม่ข้อผูกมัดใดๆ กันอีก คนที่ทำงานแบบนี้จะถูกเรียกว่า Gig Worker ซึ่งแตกต่างจากงานฟรีแลนซ์ เพราะงานฟรีแลนซ์เป็นลักษณะของการรับงานเอง บริหารระยะเวลางาน ทำบัญชี และดูแลสัญญาต่างๆ ด้วยตัวเองทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงโลกการทำงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ แม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องท้าทายและเป็นงานที่มีความไม่แน่นอนสูง แต่ขณะเดียวกันมันก็สร้างโอกาสมากมาย และสร้างผลผลิตจำนวนมาก ดังนั้น ฮอฟแมนจึงมีคำแนะนำว่า วัยทำงานควรคิดหาวิธีที่จะลดความไม่แน่นอนเหล่านั้นให้ได้มากที่สุด โดยการอัปสกิลตนเองให้รอบด้านมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสในการทำงานที่หลากหลาย มีประสิทธิภาพ และยังคงรักษาความยืดหยุ่นในการทำงานได้ต่อไป