อย่าเลี้ยงเพราะแค่น่ารัก! 6 เรื่องต้องคิดให้หนัก ก่อน 'เลี้ยงสุนัข'

อย่าเลี้ยงเพราะแค่น่ารัก! 6 เรื่องต้องคิดให้หนัก ก่อน 'เลี้ยงสุนัข'

"เลี้ยงสุนัข" 1 ตัว ไม่ใช่เรื่องง่าย! มากกว่าความน่ารักยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องพิจารณาและคิดให้หนัก หากไม่พร้อมดูแลในระยะยาว อาจเป็นทุกข์มากกว่าสุขจนสร้างปัญหาให้กับผู้เลี้ยง สัตว์เลี้ยง และสังคมตามมาได้

ท่ามกลาง ตลาดสัตว์เลี้ยง ที่เติบโต และไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่นิยม เลี้ยงสัตว์แทนลูก กันมากขึ้น ยังมีอีกแง่มุมที่น่าเศร้า นั่นก็คือ ปัญหาการทอดทิ้ง สัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะ "สุนัข" ที่จัดเป็นหนึ่งในเจ้าเพื่อนยากที่ถูกมนุษย์นำมาปล่อยทิ้งมากที่สุด โดยสาเหตุหลักๆ มีตั้งแต่ความเบื่อ ขี้เกียจเลี้ยง สู้ค่าเลี้ยงดูไม่ไหว ไปจนถึงปัญหากับที่บ้าน หรือคู่รักที่เลิกรากันแล้วแต่ไม่อยากเห็นหน้าหมาอีกต่อไป

ถ้าไม่อยากเป็น "ทุกข์เพราะหมา" หรือเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภาระให้กับสังคม ใครที่มีความคิดจะ "เลี้ยงสุนัข" มาลองเช็กลิสต์กันดูว่า พร้อมแค่ไหนที่จะพาพวกเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต 

อย่าเลี้ยงเพราะแค่น่ารัก! 6 เรื่องต้องคิดให้หนัก ก่อน \'เลี้ยงสุนัข\'

ที่บ้าน ที่รัก โอเคหรือเปล่า?

หลายต่อหลายครั้งที่ปัญหาการทิ้ง สัตว์เลี้ยง เกิดจากความไม่เข้าใจกันของคนในบ้าน แม้ว่าผู้เลี้ยงจะมองว่า ซื้อมาแล้วเดี๋ยวทุกคนก็รักเอง แต่คนในบ้านอาจไม่ได้รักสัตว์หรือรู้สึกแบบเดียวกันก็ได้ เช่น บางคนแพ้ขนสัตว์ หรือไม่ชอบกลิ่นสุนัข กลายเป็นความอึดอัดจนสุดท้ายทะเลาะกัน และต้องยกสุนัขไปให้คนอื่นแทน ทางที่ดีอย่าด่วนตัดสินใจ "เลี้ยงสุนัข" โดยที่ไม่ได้คุยกับคนในบ้าน หรือคนรัก ยิ่งบ้านไหนมีเด็กหรือคนชรายิ่งไม่ควรเสี่ยง เพราะถ้าซื้อมาเลี้ยงแล้วฝึกไม่ดี หรือเป็นสุนัขสายพันธุ์ดุร้าย อาจมีปัญหาที่ไม่คาดคิดตามมาได้

ไลฟ์สไตล์เป็นแบบไหน?

การเลี้ยงสุนัขหนึ่งตัว ไม่ใช่แค่ให้ข้าว ให้น้ำ ยิ่งถ้าเป็นลูกหมาด้วยแล้ว ยิ่งต้องการเวลาและการดูแลเอาใจใส่ไม่ต่างกับการเลี้ยงเด็กหนึ่งคน หากเวลาชีวิตของคนเลี้ยงกับสัตว์เลี้ยงไม่สามารถไปด้วยกันได้ เช่น ยุ่งตลอดเวลา ต้องไปทำงานต่างจังหวัด ชื่นชอบการท่องเที่ยว การเลี้ยงสุนัขอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เพราะถ้าไม่มีเวลาฝึกระเบียบวินัยและการเชื่อฟังคำสั่งตั้งแต่เล็กๆ เราก็จะได้สุนัขที่นิสัยไม่ดี ทำลายข้าวของ ควบคุมไม่อยู่ จนกลายเป็นสุนัขที่ดุร้าย และวันหนึ่งอาจฆาตกรรมกันอย่างไม่ทันได้ระวังก็ได้

อย่าเลี้ยงเพราะแค่น่ารัก! 6 เรื่องต้องคิดให้หนัก ก่อน \'เลี้ยงสุนัข\'

รู้เรื่องสายพันธุ์ดีแค่ไหน?

แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรและเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของมนุษย์ แต่สุนัขก็มีพฤติกรรมประจำสายพันธุ์ที่แตกต่างกันออกไป หากไม่ศึกษาให้ดี อาจกลายเป็นหมาที่เลี้ยงยาก และสร้างปัญหาในอนาคตได้ เช่น ไซบีเรียนฮัสกี เป็นสุนัขที่พลังเยอะ ตื่นตัวตลอดเวลา ดื้อ ซน รักสนุก ชอบเข้าสังคม อยากรู้อยากเห็น หากเจ้าของไม่มีเวลามากพอที่จะดูแลเอาใจใส่ โดยเฉพาะการฝึกวินัยหรือพาออกไปวิ่งปล่อยพลัง น้องหมาอาจต้องหากิจกรรมทำเองด้วยการเป็นนักขุด นักรื้อ กัดข้าวของ หรือทำลายสิ่งของภายในบ้าน นอกจากนั้นยังมีขนที่หนาและขี้ร้อน ถ้าดูแลไม่ดี หรือเป่าขนไม่แห้ง อาจมีปัญหาเรื่องผิวหนังตามมาได้

เงินน่ะมีมั้ย?

การเลี้ยงสุนัข นอกจากความน่ารักและเพื่อนคลายเหงาแล้ว ยังตามมาด้วย "ใบเสร็จ" ทั้งค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์ รวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลที่อาจกระทบกับความมั่นคงทางการเงินได้ ใครมีแผนจะรับหรือซื้อสุนัขมาเลี้ยง ลองคิดดีๆ ว่า สายพันธุ์ที่เลี้ยงมีค่าใช้จ่ายเหมาะกับงบและไลฟ์สไตล์ของเราหรือไม่ พร้อมที่จะดูแลพวกเขาได้อย่างเต็มที่ในระยะยาวหรือเปล่า หรือกรณีที่น้องหมาเจ็บป่วยฉุกเฉิน มีเงินสำรองเพียงพอหรือไม่ 

สำหรับค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสัตว์ ผลสำรวจของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เดือนมกราคม 2566 พบว่า การเลี้ยงสัตว์แบบทั่วๆ ไป มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 1,001 - 2,000 บาท ส่วนในกลุ่มที่เลี้ยงสัตว์เป็นลูกทั้งสุนัขและแมวจะมีค่าดูแลมากขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 14,200 บาทต่อตัวต่อปี

อย่าเลี้ยงเพราะแค่น่ารัก! 6 เรื่องต้องคิดให้หนัก ก่อน \'เลี้ยงสุนัข\'

พื้นที่มีพอหรือเปล่า?

ไม่ว่าจะ เลี้ยงสุนัข ด้วยวัตถุประสงค์ใด สิ่งที่ต้องมีคือพื้นที่กว้างเพียงพอสำหรับให้น้องได้วิ่งเล่นออกกำลังกาย เช่น ถ้าคิดจะเลี้ยง ไซบีเรียนฮัสกี้ แต่ไม่มีพื้นที่ให้พวกเขาได้วิ่งเล่น หรือปลดปล่อยพลังล้นๆ ก็อาจจะต้องเตรียมรับมือกับการเก็บกวาดบ้านกันไว้ได้เลย ยิ่งถ้าไม่มีเวลาพาไปออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมร่วมกันด้วยแล้ว สิ่งของภายในบ้าน หรือรอบบ้านก็อาจกลายเป็นของเล่นที่น่าค้นหาแทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้จะมีบ้านใหญ่โตแค่ไหน หากเจ้าของไม่มีเวลาในการดูแลเอาใจใส่ บ้านก็ไม่ต่างกับกรงขนาดใหญ่ และเสี่ยงที่สุนัขจะเกิดภาวะเครียดจากการอยู่ลำพังจนมีปัญหาด้านพฤติกรรมได้ เช่น ทําลายข้าวของ ขับถ่ายเรี่ยราด ขุดดิน หอนมากกว่าปกติ หรือในบางรายอาจแสดงพฤติกรรมหงุดหงิด ระแวง และกัดคนรอบข้างเมื่อมีสิ่งเร้ามากระตุ้นเพียงเล็กน้อย 

อย่าเลี้ยงเพราะแค่น่ารัก! 6 เรื่องต้องคิดให้หนัก ก่อน \'เลี้ยงสุนัข\'

คิดจะเลี้ยง รู้กฎหมายหรือยัง?

สุนัขของเราไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน ผู้เลี้ยงต้องคำนึงถึงปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดจากสัตว์เลี้ยง รวมถึงความรับผิดชอบทางกฎหมายด้วย ปัจจุบันมีข้อกฎหมายสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ควรรู้ ดังนี้

  • สุนัขกัดคนและสัตว์เลี้ยงคนอื่น : ตามกฎหมายอาญา มาตรา 377 ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุร้าย (รวมถึงสุนัขด้วย) ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นอยู่ลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และหากสุนัขที่เลี้ยงไว้ไปกัดสัตว์เลี้ยงผู้อื่น เจ้าของสุนัขต้องรับผิดชอบความในเสียหายที่เกิดจากการกระทำของสุนัข ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ด้วย
  • สุนัขวิ่งตัดหน้ารถบนท้องถนน : ตามพ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 111 เจ้าของสุนัขมีหน้าที่ควบคุมสัตว์ไม่ให้ไปกีดขวางการจราจร หากสุนัขวิ่งตัดหน้ารถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ในระยะกระชั้นชิด จนทำให้รถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ของผู้อื่นเสียหาย เจ้าของสุนัขอาจต้องร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย
  • สุนัขสร้างความรำคาญให้เพื่อนบ้าน : มาตรา 397 แห่งประมวลกฎหมายอาญาระบุว่า ผู้ใดกระทําด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทําให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรําคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งในเรื่องของเจตนานั้น อาจอ้างได้ว่า การเอาสุนัขมาเลี้ยงย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า จะต้องเกิดการเห่าหอนเสียงดัง เดือดร้อนรำคาญข้างบ้านได้ นอกจากนั้น การที่เลี้ยงสุนัขแล้วเห่าเสียงดัง อาจถือได้ว่าเป็นการสร้างความรำคาญต่อคนจำนวนมาก (ต่อหน้าธารกำนัล) ซี่งมีโทษสูงสุดจำคุก 1 เดือน ปรับ 10,000 บาท
  • ห้ามทิ้ง ห้ามทำร้ายสัตว์เลี้ยง : พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 23 ห้ามปล่อย ละทิ้งสัตว์ ให้พ้นความดูแลของตัวเอง ยกเว้นการโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นดูแล หากฝ่าฝืนโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท 

สุดท้ายนี้ คิดจะ เลี้ยงสุนัข มากกว่าความน่ารัก ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องคิดให้หนักและเช็กความพร้อมของตัวเองให้ดี เพราะสุนัขก็มีหัวใจ มีความรู้สึกไม่ต่างจากคน ถ้ามีแล้วเลี้ยงไม่ดี ขาดความรับผิดชอบ ก็อาจสร้างปัญหาให้กับผู้เลี้ยงและสังคมตามมาได้

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก เต้ย บางพลี

ข้อมูลอ้างอิง