นิวยอร์กจ่ออนุมัติกฎหมายใหม่ ให้พนักงาน ‘ลาป่วย’ เพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงได้
น้องหมา น้องแมว คือ สมาชิกครอบครัว ‘นิวยอร์ก’ จ่ออนุมัติกฎหมายฉบับใหม่ให้พนักงานใช้สิทธิ ‘ลาป่วย’ เพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงที่ไม่สบายได้
KEY
POINTS
- จ่ออนุมัติร่างกฎหมายใหม่ที่อนุญาตให้พนักงานใช้สิทธิ “ลาป่วย” เพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงที่ไม่สบายได้ โดยเกิดขึ้นที่ “นิวยอร์กซิตี้” สหรัฐอเมริกา ด้วยเชื่อว่านโยบายสาธารณะที่ดีจะส่งเสริมพฤติกรรมที่ดี
- งานวิจัยเผย การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงช่วยลดระดับคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ที่ลดลง ซึ่งส่งผลให้สุขภาพจิตโดยรวมที่ดีขึ้น และการได้เล่นกับสุนัขก็พบว่าช่วยลดภาวะซึมเศร้าได้
- บริษัทบางแห่งอย่างเช่น บริษัทการตลาด Nina Hale ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองมินนิอาโปลิส อนุญาตให้พนักงานหยุดงานได้ หากต้องไปรับเลี้ยงสัตว์เลี้ยงตัวใหม่
ปัจจุบันสังคมคนโสดขยายตัวมากขึ้น ด้วยค่านิยมของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่ไม่แคร์เรื่องแต่งงาน ไม่อยากมีลูก แต่นิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนลูกหรือเป็นสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่งมากขึ้น และถ้าเจ้าขนฟูสี่ขาเหล่านั้นป่วยขึ้นมา คนที่เป็นเจ้าของก็ย่อมกังวลใจ และอยากคอยดูแลเป็นธรรมดา ล่าสุดมีการเสนอร่างกฎหมายใหม่ที่อนุญาตให้พนักงานใช้สิทธิ “ลาป่วย” เพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงที่ไม่สบายได้
ร่างกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นที่ “นิวยอร์กซิตี้” สหรัฐอเมริกา โดย ชอน อาเบรู (Shaun Abreu) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครต เป็นผู้เสนอร่างกฎหมายปรับปรุงพระราชบัญญัติความปลอดภัยในการทำงาน และลาป่วย โดยพระราชบัญญัติฉบับเดิมอนุญาตให้พนักงานลางานเพื่อดูแลตนเองหรือสมาชิกในครอบครัวได้เท่านั้น แต่ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้ จะอนุญาตให้พนักงานลางานเพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงได้ด้วยเช่นกัน
“นโยบายสาธารณะที่ดีจะส่งเสริมพฤติกรรมที่ดี ในกรณีนี้ เรามีโอกาสที่จะใช้กฎหมายการลาป่วยที่มีอยู่ เพื่อมาสนับสนุนการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ซึ่งให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ และสุขภาพจิตของพนักงาน การดูแลสัตว์เลี้ยงช่วยให้คนเรามีสุขภาพกาย และใจที่แข็งแรงขึ้น ซึ่งนั่นคือ จุดประสงค์หลักของกฎหมายการลาป่วยตั้งแต่แรก” อาเบรู แสดงความเห็นผ่าน นิตยสาร Newsweek
การเลี้ยงสัตว์ช่วยให้สุขภาพจิตวัยทำงานดีขึ้นได้จริง
อาเบรู ได้อ้างอิงถึงงานวิจัยที่เชื่อมโยงการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงกับระดับคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ที่ลดลง ซึ่งระดับคอร์ติซอลที่ลดลงส่งผลให้สุขภาพจิตโดยรวมที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการเลี้ยงสุนัขช่วยเพิ่มกิจกรรมทางกาย และช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย
หากกฎหมายนี้ผ่าน จะทำให้ชาวนิวยอร์กรับเลี้ยงสัตว์มากขึ้น และสุขภาพจิตดีขึ้นด้วย จากข้อมูลของสมาคมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงแห่งอเมริกา พบว่าครัวเรือน 2 ใน 3 แห่งทั่วประเทศมีสัตว์เลี้ยงที่บ้าน อีกทั้ง ปัจจุบันบริษัทบางแห่งก็ได้นำนโยบายที่คล้ายคลึงกันนี้ไปใช้แล้ว อย่างเช่น บริษัทการตลาด Nina Hale ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองมินนิอาโปลิส อนุญาตให้พนักงานหยุดงานได้เมื่อรับเลี้ยงสัตว์เลี้ยงตัวใหม่
ปัจจุบันนครนิวยอร์ก กำหนดให้พนักงานในบริษัทใหญ่ๆ สามารถ “ลาป่วยหรือลาเพราะเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บ” ทั้งของตนเอง และครอบครัวได้ไม่เกิน 56 ชั่วโมง แต่ร่างกฎหมายใหม่นี้จะเพิ่มเรื่องการดูแลสัตว์เลี้ยงเข้าไปด้วย เนื่องจากชาวอเมริกันหลายคนมองว่าสัตว์เลี้ยงเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอยู่แล้ว
ร่างกฎหมายใหม่ดังกล่าว ช่วยตอกย้ำว่าชีวิตที่นอกเหนือจากงานก็มีความสำคัญ
ไบรอัน ดริสโคลล์ (Bryan Driscoll) ที่ปรึกษาฝ่ายทรัพยากรบุคคล ให้ความเห็นว่า สัตว์เลี้ยงเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวสำหรับพนักงานหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเครียดสูง เช่น นิวยอร์ก สัตว์เลี้ยงถือเป็นแหล่งสนับสนุนทางอารมณ์ได้อย่างดี การอนุญาตให้พนักงานใช้สิทธิลาป่วยเพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงถือเป็นการตระหนักถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ และตอกย้ำให้พนักงานรู้ว่าชีวิตที่นอกเหนือจากงานก็มีความสำคัญเช่นกัน
ด้าน อเล็กซ์ บีน (Alex Beene) อาจารย์สอนความรู้ทางการเงินจากมหาวิทยาลัยเทนเนสซีที่มาร์ติน บอกว่า การดูแลสัตว์เลี้ยงสมัยนี้มีค่าใช้จ่ายสูงเช่นเดียวกับการดูแลเด็ก ซึ่งหมายความว่าการหยุดงานเพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงที่ป่วยอาจช่วยประหยัดเงินได้มากกว่าการเอาไปฝากดูแลที่คลินิกสัตว์ ซึ่งมีรายจ่ายต่อวันค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ตาม อาเบรู มั่นใจว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติเพื่อให้กลายเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ได้เร็วๆ นี้ ชาวนิวยอร์กหลายล้านคนเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ดังนั้นหากกฎหมายนี้ผ่านก็จะส่งผลดีในวงกว้างมาก สภาเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยคนรักสัตว์ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพจิต ดังนั้นทุกคนจึงมีความหวังว่าสภาจะสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับปรับปรุงนี้และให้ผ่าน”
ร่างกฎหมายนี้อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงาน และเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น
ขณะที่ ไมเคิล ไรอัน (Michael Ryan) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและผู้ก่อตั้ง michaelryanmoney มองว่าบริษัทต่างๆ ที่นำนโยบายด้านความยืดหยุ่นในการทำงานมาใช้มากขึ้น ถือเป็นการดำเนินธุรกิจอย่างชาญฉลาดด้วยเช่นกัน โดยร่างกฎหมายการดูแลสัตว์เลี้ยงของนิวยอร์กครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นความจริงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทได้เรียนรู้มาตลอดหลายปีว่า ควรไว้วางใจให้พนักงานของคุณบริหารเวลาของพวกเขา และพวกเขาจะจัดการงานของพวกเขาได้เอง
ไรอัน บอกอีกว่า เมื่อนายจ้างไว้วางใจให้พนักงานรับผิดชอบตามเงื่อนไขของตนเอง มักจะส่งผลให้มีประสิทธิผลการทำงานเพิ่มมากขึ้น ต้องยอมรับว่าความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตนั้นไม่สามารถกำหนดได้ตายตัว สำหรับหลายๆ คนแล้ว สัตว์เลี้ยงเปรียบเสมือนครอบครัว หากสุนัขของคุณต้องการการผ่าตัดฉุกเฉิน นั่นก็ถือเป็นเรื่องเครียดพอๆ กับเหตุฉุกเฉินในครอบครัว หากพนักงานกังวลและเครียด ก็ยิ่งทำให้พนักงานเสียสมาธิ และไม่เป็นอันทำงาน”
ท้ายที่สุด ไรอัน มองว่าแม้กลุ่มธุรกิจจำนวนมากอาจกังวลเกี่ยวกับต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับร่างกฎหมายดังกล่าว แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง ร่างกฎหมายนี้อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงาน และเพิ่มผลผลิตมากขึ้นได้ด้วยซ้ำ เพราะธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จมากที่สุด คือ ธุรกิจที่ปรับตัวให้เข้ากับบรรทัดฐานทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพจิตในที่ทำงาน ผู้คนยุคนี้เปิดใจ และยอมรับมากขึ้นกว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ดังนั้น สิทธิการลาป่วยเพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดขึ้นได้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์