อาชีพใหม่ Gen Z ลาออกงานประจำ มาทำสตาร์ทอัพให้บริการ ‘น้องหมาบำบัดในออฟฟิศ’

อาชีพใหม่ Gen Z ลาออกงานประจำ มาทำสตาร์ทอัพให้บริการ ‘น้องหมาบำบัดในออฟฟิศ’

เปิดอาชีพใหม่สาว Gen Z ลาออกจากงานประจำ มาทำสตาร์ทอัพให้บริการ ‘สุนัขบำบัด’ ในออฟฟิศ โดยมีกิจกรรมแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครนั่นคือ โยคะกับลูกสุนัข ทำธุรกิจไม่กี่ปีก็เติบโตไวรายได้แตะหลักล้านดอลลาร์

KEY

POINTS

  • Gen Z วัย 27 ปี ลาออกจากงานประจำ อยากจะเป็นนายตัวเอง เลยตัดสินใจทำธุรกิจให้บริการสุนัขบำบัดไปพร้อมๆ กับคลาสโยคะภายใต้ชื่อบริษัท Puppysphere 
  • บริการบำบัดจิตใจวัยทำงานด้วยการเล่นกับน้องหมาของบริษัทดังกล่าว มีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น คลาสโยคะกับลูกสุนัข, คลาสพิลาทิสสำหรับลูกสุนัข, งานเลี้ยงกับน้องหมาหลังเลิกงาน เป็นต้น
  • การบำบัดด้วยลูกสุนัขได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเพิ่มระดับฮอร์โมนออกซิโทซิน เซโรโทนิน และโดปามีน ซึ่งล้วนเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข

บางครั้ง ‘งานประจำ’ หรือการเป็น ‘พนักงานบริษัท’ ก็อาจไม่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่เสมอไป และมีหลายคนที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้ประกอบการ หนึ่งในนั้นคือ ฟรานเชสกา อัลโบ (Francesca Albo) อดีตพนักงานประจำวัย 27 ปี ที่เคยทำงานกับบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพในมหาวิทยาลัยโตรอนโต ประเทศแคนาดา มาก่อน

แต่พอทำไปทำมาได้สักระยะเธอก็พบว่าตัวเองไม่มีความสุข และรู้สึกอึดอัดกับงานนั่งโต๊ะที่ต้องทำวันละ 8 ชั่วโมง หลังจากทำงานนี้อยู่นาน 4 ปี เธอก็ตัดสินใจลาออกมาสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพ ด้วยเป้าหมายที่ว่าอยากจะเป็นนายตัวเอง ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน อัลโบ กลายเป็นซีอีโอและผู้ก่อตั้งร่วมของบริษัท Puppysphere ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ปี โดยก่อตั้งมาตั้งแต่ช่วงหลังการระบาดโควิดในปี 2021

บริษัทของเธอให้บริการบำบัดจิตใจวัยทำงานด้วยการเล่นกับน้องหมา ซึ่งมีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น คลาสโยคะกับลูกสุนัข, คลาสพิลาทิสสำหรับลูกสุนัข, งานเลี้ยงหลังเลิกงานในออฟฟิศ เป็นต้น กิจกรรมต่างๆ ถูกถ่ายทอดเป็นคลิปวิดีโอผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของบริษัทและในไอจีส่วนตัวของเธอด้วย โดยเฉพาะวิดีโอหนึ่งที่เธอจูงรถเข็นลูกสุนัขเข้าไปในออฟฟิศกลายเป็นไวรัลที่มีผู้เข้าชมมากกว่า 5.5 ล้านครั้ง

อยากทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับน้องหมา เพราะเป็นทาสหมา

สำหรับเหตุผลที่ทำให้เธอคิดริเริ่มทำธุรกิจนี้ก็เพราะว่าเธอเป็นทาสน้องหมาแบบถอนตัวไม่ขึ้น ตั้งแต่เด็กจนโตอัลโบเลี้ยงสุนัขมาตลอด เธอมองว่าการได้เล่นกับสุนัขคือช่วงเวลาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรักและความสุข ซึ่งเธอต้องการให้ความสำคัญและใช้เวลากับสุนัขของเธอเสมอมา แต่การที่ต้องยุ่งอยู่กับงานประจำ 9am - 5pm ทำให้ไม่สามารถใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงของเธอได้มากเท่าที่ต้องการ 

ขณะเดียวกันเธอก็เริ่มตระหนักว่าคนรักสุนัขคนอื่นๆ ก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน จึงตัดสินใจร่วมมือกับ ลีอา เบอร์บิดจ์ อิซเกียร์โด (Lea Burbidge Izquierdo) หุ้นส่วนอีกคนหนึ่ง เพื่อสร้างสตาร์ทอัพ Puppysphere ให้เป็นจริงขึ้นมา

มีการศึกษาหลายชิ้นระบุตรงกันว่า การมีสัตว์เลี้ยงอยู่ใกล้ๆ ขณะที่เราทำงานนั้นจะช่วยลดระดับความเครียดลงได้ รวมถึงช่วยเพิ่มแรงจูงใจต่อการทำงานอีกด้วย ด้วยข้อดีเหล่านี้จึงถือเป็นแรงบันดาลใจอีกอย่างที่ทำให้เจ้าของบริษัท Puppysphere อยากทำธุรกิจให้บริการด้านบำบัดจิตใจด้วยน้องหมาขึ้นมา เพื่อช่วยปรับปรุงอารมณ์เชิงบวกให้แก่วัยทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะพนักงานนั่นโต๊ะที่ต้องติดแหง็กอยู่ในออฟฟิศแทบทั้งวัน

อาชีพใหม่ Gen Z ลาออกงานประจำ มาทำสตาร์ทอัพให้บริการ ‘น้องหมาบำบัดในออฟฟิศ’

เพียงไม่กี่ปีสตาร์ทอัพเจ้านี้ก็เติบโตเร็ว รายได้แตะหลักล้าน เจาะกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน 

ปัจจุบันธุรกิจสตาร์ทอัพแห่งนี้ได้เติบโตเป็นแบรนด์ข้ามชาติที่มีพนักงานมากกว่า 200 คน และมีสำนักงานหลายแห่งกระจายอยู่ทั่วสหรัฐอเมริกาและแคนาดา บริษัทสามารถดึงดูดลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูง, กลุ่มวัยทำงาน Gen X, กลุ่มวัยทำงาน Millennial พวกเขาที่ต้องการทำกิจกรรมต่างๆ กับลูกสุนัขเพื่อบำบัดใจ อีกทั้งยังมีลูกค้าในนามบริษัทที่นิยมใช้บริการจาก Puppysphere เพื่อช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมการดูแลจิตใจของพนักงานในที่ทำงาน

“การบำบัดด้วยลูกสุนัขได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเพิ่มระดับฮอร์โมนออกซิโทซิน เซโรโทนิน และโดปามีน ซึ่งล้วนเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข” อัลโบอธิบายเพิ่มเติม

เธอบอกอีกว่า ปัจจุบัน Puppysphere ได้รับคำขอให้จัดกิจกรรมบำบัดแบบส่วนตัวมากกว่า 100 รายการต่อสัปดาห์ โดยมักได้รับการสนับสนุนจากผู้นำองค์กรที่กำลังมองหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงขวัญกำลังใจและสุขภาพจิตของพนักงาน

ขณะที่มีข้อมูลจากเว็บไซต์ Narcity รายงานถึงรายได้ของ Puppysphere ไว้ว่า หลังการเปิดตัวบริษัทช่วงแรกๆ ในโตรอนโตพบว่า คลาสโยคะกับลูกสุนัขของบริษัททำรายได้ 20,000 ดอลลาร์แคนาดา และในปี 2022 รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 200,000 ดอลลาร์แคนาดา และในปี 2023 Puppysphere ได้ขยายกิจการไปยังสหรัฐอเมริกาในนิวยอร์กซิตี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าทำรายได้กว่า 2 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือราวๆ 48 ล้านบาท (คำนวณอัตราแลกเปลี่ยนที่ 24.06 ณ วันที่ 17 ต.ค.67)

อาชีพใหม่ Gen Z ลาออกงานประจำ มาทำสตาร์ทอัพให้บริการ ‘น้องหมาบำบัดในออฟฟิศ’

ภารกิจต่อไปคือการนำพา Puppysphere ขยายไปสู่เมืองใหญ่ทั่วโลก

แนวคิดการบำบัดจิตใจด้วยสัตว์เลี้ยงในสถานที่ทำงานไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่อัลโบได้เปลี่ยนแนวคิดดังกล่าวให้กลายเป็นรูปแบบธุรกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งผสมผสานทั้งการออกกำลังกายเข้ากับความแปลกใหม่ ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าบนโลกโซเชียลมีเดียได้เป็นอย่างดี หลังจากโพสต์หนึ่งบนไอจีของเธอกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์ ก็ทำให้ธุรกิจของเธอยิ่งปัง

“ฉันรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งใจอย่างยิ่งกับการตอบรับอันอบอุ่นใจต่อวิดีโอนี้ วิดีโอไวรัลนี้เปลี่ยนชีวิตของฉันไปจริงๆ มันทำให้ฉันสามารถสร้างบริษัทสตาร์ทอัพขนาดใหญ่ที่ส่งผลดีต่อชีวิตของคนจำนวนมากได้ในที่สุด” อัลโบตอบกลับโพสต์ของเธอเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา 

บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะให้บริการบำบัดจิตใจด้วยลูกสุนัขตามหลักจริยธรรมที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์และสัตว์ และพยายามให้บริการนี้สามารถเข้าถึงวัยทำงานทุกคน ภารกิจของบริษัทของเธอไม่ได้มีแค่การสร้างชื่อเสียงบนโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่อยากส่งต่อกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพจิตใจนี้ไปยังทุกพื้นที่จริง

เฟสต่อไปของ Puppysphere กำลังจะมุ่งสู่การเป็นบริษัทระดับโลก โดยอัลโบและทีมงานของเธอจะเน้นไปที่การขยายบริการของพวกเขาออกไปสู่เมืองใหญ่ทุกเมืองทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ในปี 2024 พวกเขากำลังให้บริการลูกค้าหลายพันรายทั่วอเมริกาเหนือ และไม่มีแผนที่จะชะลอตัวลงในเร็วๆ นี้