วิจัยชี้ วัยทำงานผู้ชาย หางานดีเงินเดือนสูงได้ยากกว่าเมื่อ 20 ปีก่อน

วิจัยชี้ วัยทำงานผู้ชาย หางานดีเงินเดือนสูงได้ยากกว่าเมื่อ 20 ปีก่อน

วิจัยใหม่ชี้ ยุคนี้วัยทำงานผู้ชายหางานดีเงินเดือนสูง (ผู้นำ-ผู้บริหาร) ได้ยากกว่าเมื่อ 20 ปีก่อน ขณะที่วัยทำงานผู้หญิงก้าวหน้ามากกว่า ทั้งการเรียนจบสูงกว่า และมีโอกาสเติบโตก้าวหน้าในตำแหน่งผู้นำมากขึ้น

KEY

POINTS

  • วัยทำงานชายราว 39% รายงานว่าพวกเขาหางานที่มีรายได้ดี ได้ยากขึ้นในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับเมื่อ 20 ปีก่อน และ 28% บอกว่าพวกเขาได้รับตำแหน่งผู้นำในที่ทำงานน้อยลง
  • สมัยนี้ผู้หญิงส่วนใหญ่เรียนจบสูงๆ ทั้งนั้น ในทุกๆ 5 คนจะมีผู้หญิงที่ได้รับปริญญาโทและปริญญาเอกไปแล้วถึง 3 คน แต่ผู้ชายกลับล้าหลังในเรื่องการศึกษามากกว่าผู้หญิง
  • ผู้หญิงอเมริกันวัยทำงานส่วนใหญ่ พวกเธอทำได้ดีกว่าผู้ชายในด้านความก้าวหน้าในอาชีพ อย่างเช่นการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำ-ผู้บริหารองค์กร หรือการได้งานที่มีรายได้ดีกว่า

โลกการทำงานสมัยนี้มีความหลากหลายมากขึ้น หญิงชายมีความเท่าเทียมกันในตำแหน่งงานระดับสูง อีกทั้งวัยทำงานรุ่นใหม่ไม่ยอมรับการเหยียดเพศ เหยียดอายุ หรือเหยียดสีผิวอีกต่อไป นี่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พบว่าปัจจุบัน วัยทำงานเพศชายหางานดีๆ ทำได้ยากกว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้ว

การศึกษาวิจัยใหม่ของ Pew Research ค้นพบว่า วัยทำงานผู้ชายราว 39% รายงานว่าพวกเขาหางานที่มีรายได้ดี ได้ยากขึ้นในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับเมื่อ 20 ปีก่อน ขณะที่วัยทำงานผู้หญิงมีเพียง 21% เท่านั้นรายงานว่างานตำแหน่งสูงหายาก ซึ่งแปลว่าในปัจจุบันพนักงานหญิงก้าวหน้าในตำแหน่งงานเงินเดือนสูงมากกว่าผู้ชาย ทั้งนี้ ผลการสำรวจชิ้นดังกล่าวอ้างอิงจากคำตอบของวัยทำงานชาวสหรัฐอเมริกาประมาณ 6,200 คน และเผยแพร่ในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา

วัยทำงานชาย เผย พวกเขาได้รับตำแหน่งผู้นำในที่ทำงานน้อยลง

นอกจากนี้ตามรายงานยังบอกอีกว่า พนักงานผู้ชายสมัยนี้เกิดความลังเลใจว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำในอาชีพการงานของตนหรือไม่ และรวมถึงกังวลว่าพวกเขาจะได้รับการศึกษาระดับสูงหรือไม่

โดยวัยทำงานผู้ชายประมาณร้อยละ 28 กล่าวว่าพวกเขาได้รับตำแหน่งผู้นำในที่ทำงานน้อยลง และร้อยละ 27 กล่าวว่าพวกเขาล้มเหลวในการได้รับวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี เมื่อเทียบกับวัยทำงานผู้หญิงแล้วพวกเธอเผชิญกับเรื่องดังกล่าวเพียงร้อยละ 15 เท่านั้นในแต่ละหมวดหมู่

เควิน ทอมป์สัน (Kevin Thompson) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ 9i Capital Group ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน มองประเด็นนี้ว่า ปรากฏการณ์ที่ผู้ชายหางานดีๆ ได้ยากขึ้นนั้นมีมูลความจริง เพราะสมัยนี้ผู้หญิงส่วนใหญ่เรียนจบสูงๆ ทั้งนั้น ในทุกๆ 5 คนจะมีผู้หญิงที่ได้รับปริญญาโทและปริญญาเอกไปแล้วถึง 3 คน 

แต่ผู้ชายกลับล้าหลังในเรื่องการศึกษามากกว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ และในสัดส่วนของผู้ที่เรียบจบได้วุฒิปริญญาตรีนั้น ในทุกๆ 100 ใบปริญญาที่ถูกมอบให้บัณฑิตหญิง จะมีเพียง 72 ใบเท่านั้นที่ถูกมอบให้แก่บัณฑิตชาย

ทุกวันนี้ผู้หญิงไม่น้อยที่ได้งานดีเงินเดือนสูงเท่าเทียมกับผู้ชาย

ทอมป์สัน สะท้อนความเห็นผ่านนิตยสาร Newsweek เพิ่มเติมว่า ช่องว่างทางการศึกษานี้ส่งผลกระทบทางสังคมอย่างมาก ยกตัวอย่างรายงานหนึ่งระบุว่า 40% ของวัยทำงานผู้ชายอเมริกันที่เป็นพ่อคนและไม่มีวุฒิเรียนจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย พวกเขาจำเป็นต้องอยู่แยกกับลูกๆ (รายได้ต่ำ ไม่มีเงินพอที่จะเลี้ยงลูกเอง) เมื่อเทียบกับวัยทำงานผู้ชายที่เป็นพ่อคนและมีวุฒิการศึกษาระดับอุดมศึกษาพบว่าส่วนใหญ่มีเงินเลี้ยงลูกเอง ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ แนวโน้มรายได้ของผู้หญิงที่ไม่มีลูกนั้นใกล้เคียงกับผู้ชายวัยกลางคน

เมื่อเปรียบเทียบกับความก้าวหน้าของผู้หญิงอเมริกันส่วนใหญ่ พวกเธอทำได้ดีกว่าในด้านความก้าวหน้าในอาชีพ อย่างเช่นการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำ-ผู้บริหารองค์กร การได้งานที่มีรายได้ดี หรือการเข้าศึกษาต่อในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยจนเรียนจบสูงกว่าแรงงานผู้ชาย

อย่างไรก็ตาม ตามผลการวิจัยของ Pew ระบุว่า คนอเมริกันส่วนใหญ่ร้อยละ 81 ไม่คิดว่าความก้าวหน้าที่ผู้หญิงได้รับในสังคมต้องแลกมาด้วยการสูญเสียแรงงานชายในตลาดงาน 

“แม้จะเป็นความจริงที่ว่า ผู้หญิงประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในความสำเร็จทางวิชาชีพและทางวิชาการในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา แต่ความก้าวหน้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการที่ผู้ชายทำได้ไม่ดี สาเหตุที่ผู้ชายส่วนใหญ่รู้สึกว่าตนเองไม่ก้าวหน้าเท่าผู้หญิงนั้น ก็เพราะว่ารายได้ของพวกเขา (แม้จะอยู่ในระดับสูง) ยังไม่สามารถตามทันค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากได้” อเล็กซ์ บีน (Alex Beene) อาจารย์ประจำสาขาบริหารการเงินที่มหาวิทยาลัยเทนเนสซี วิทยาเขตมาร์ติน อธิบาย

ผู้ชายยุคนี้จำนวนมาก แทบจะเลี้ยงตัวเองไม่ได้เลย เหตุค่าครองชีพพุ่ง

อาจารย์บีนบอกอีกว่า เมื่อเทียบกับคนอเมริกันรุ่นก่อนๆ ผู้ชายมักจะเป็นเสาหลักของครอบครัว พวกเขาเป็นคนที่มีรายได้สูงเพียงผู้เดียวในบ้าน และคู่สมรสสามารถเลือกที่จะทำงานหรือไม่ทำงานก็ได้ แต่ปัจจุบัน มีผู้ชายจำนวนมากที่แทบจะเลี้ยงตัวเองไม่ได้เลย จริงอยู่ที่สมัยนี้ผู้หญิงทำงานนอกบ้านมากขึ้นกว่ายุคก่อน แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ผู้ชายรู้สึกว่าตนเองตกต่ำจากมาตรฐานของคนรุ่นก่อน

ขณะที่ ไบรอัน ดริสโคลล์ (Bryan Driscoll) ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล มองเรื่องนี้ว่า การรับรู้ของผู้ชายที่ว่าสมัยนี้หางานดีๆ ยากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้ที่มากขึ้นในสถานที่ทำงาน เมื่อมีคนหลากเพศหลายวัยมาอยู่รวมกันในที่ทำงานซึ่งต่างคนก็ต่างแข่งขันอย่างหนัก เพื่อหวังเติบโตในอาชีพการงาน 

แต่อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลสำรวจด้านเงินเดือนและการเลื่อนตำแหน่ง ยังแสดงให้เห็นอย่างสม่ำเสมอว่าผู้ชายยังคงครองตำแหน่งผู้นำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาที่มีรายได้สูง

ผู้หญิงไม่ได้เป็นอุปสรรคทำให้ผู้ชายหางานดีๆ ยากขึ้น

มุมมองของผู้ชายและผู้หญิงต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานนั้นแตกต่างกัน ผู้ชายมองว่าความเปลี่ยนแปลงที่ผู้หญิงถูกเลือกให้ขึ้นตำแหน่งผู้นำมากขึ้นนั้น เป็นอุปสรรคทำให้ผู้ชายหางานดีๆ ยากขึ้น แต่ผู้หญิงกลับไม่ได้มองแบบนั้น 

ทั้งนี้เนื่องจากในอดีตวัยทำงานแต่ละเพศต้องเผชิญกับอุปสรรคทางเศรษฐกิจมาไม่เหมือนกัน วัยทำงานผู้หญิงเป็นกลุ่มที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายมาโดยตลอด ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในโลกการทำงานเหล่านี้ไม่ได้ทำให้พวกเธอรู้สึกว่าเป็นความยากลำบาก เพราะสำหรับผู้หญิง นี่เป็นเพียงความท้าทายอีกก้าวหนึ่ง เพื่อไปสู่อาชีพการงานที่มีความเท่าเทียมและลดอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดงาน 

ผู้เชี่ยวชาญด้าน HR มองว่า วัยทำงานผู้ชายที่แสดงความหงุดหงิดกับเรื่องนี้ นั่นเป็นเพราะพวกเขาเจอการเปลี่ยนแปลงที่ท้าทายบรรทัดฐานเก่าๆ (บรรทัดฐานสังคมชายเป็นใหญ่) ซึ่งพวกเขาได้รับประโยชน์จากสังคมการทำงานแบบนั้น ซึ่งต่อไปในอนาคตค่านิยมนี้จะถูกลดทอนลงเรื่อยๆ ในภาพรวมไม่ได้หมายความว่าโอกาสในงานต่างๆ จะลดน้อยลง แต่แค่ว่าผู้ชายอาจไม่ได้อยู่บนลิสต์อันดับต้นๆ ของการเลือกงานดีๆ อีกต่อไป เพราะผู้หญิงก็มีสิทธิได้งานเหล่านั้นเช่นกัน