ลดงานดูดีเฉพาะหน้า "ผักชีโรยหน้า" กันเถอะ
สำนวน “ผักชีโรยหน้า” บอกว่า มีการทำดีแต่เพียงผิวเผิน ทำงานให้ดูดีเฉพาะต่อหน้าคนอื่น ผู้ใหญ่มาเยี่ยมชมกิจการ ทุกอย่างดูดีไปหมด ยืนปราศรัยหน้าโพเดียม บ้านเมืองมีแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น ซึ่งดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่พบเห็นกันอยู่เป็นประจำ
หนังสือ The Deep Work ที่ขายดีเมื่อหลายปีก่อน บอกไว้ว่า ถ้าอยากให้เกิดความสำเร็จกันอย่างจริงจัง ให้ช่วยกันลดละงานผักชีกันลงไปบ้าง The Deep Work เรียกงานที่ทำแล้วดูเหมือนได้ทำงาน ดูเหมือนมีงานอยู่เยอะแยะ แต่ทำแล้วเป็นแค่ดีชั่วครั้งชั่วคราว ไม่มีความยั่งยืนอะไรเกิดขึ้นว่า Shallow Work
โดยเน้นว่าถ้าทำกันแต่งานผักชีโรยหน้า ปัญหาเดิมก็จะวนเวียนกลับมาซ้ำซากไม่รู้จบสิ้น น้ำท่วม น้ำแล้งไม่รู้จบ ตามมาด้วยการบรรเทาทุกข์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า มีคนใหญ่คนโตไปเยี่ยมพื้นที่ประสบภัย เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างที่เป็นต้นเหตุแห่งปัญหาก็ยังอยู่เหมือนเดิม
Shallow Work ทำแล้วดูดีเฉพาะหน้า แต่จะปัดเป่าปัญหาได้อย่างถาวร ต้องออกความคิด ต้องออกแรงพยายาม เสมือนกับการปลูกต้นไม้ต้นใหม่ขึ้นมาในผืนดินที่ไม่มีความพร้อม
งานลึกซึ้งที่ต้องใช้ความคิด ต้องใช้ความพยายาม ต้องมีความอดทน ต้องมีความต่อเนื่องแบบกัดไม่ปล่อยนี้ The Deep Work เรียกว่า Deep Work ตามชื่อหนังสือ
ใครๆ ที่ตั้งใจทำงานให้องค์กรอย่างแท้จริง ตั้งใจเสนอคุณค่าที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ใครก็ตามที่ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง และเพื่อความผาสุกของประชาชน ย่อมอยากทำงานลึกซึ้งให้มีความสำเร็จที่ยั่งยืนเกิดขึ้น แต่ต้องจำนนกับอุปสรรคนานาประการที่สภาพแวดล้อมที่นิยมงานผักชีโรยหน้าเป็นสรณะ ทำให้หมดเวลาแทบทั้งหมดไปกับ Shallow Work
ถ้าจะสร้างสวนที่สวยงามขึ้นในผืนดินที่ย่ำแย่นานาประการ ทำเพียงแค่ลดน้ำต้นไม้ในสวนทุกวันทุกคืน เป็นได้แค่แสดงให้คนอื่นเห็นว่าฉันกำลังทำงานสร้างสวนนี้ให้สวยงามขึ้น
ซึ่งความสวยงามเกิดขึ้นไม่ได้จากต้นไม้ที่ปลูกอยู่ในดินด้อยคุณภาพ ดอกไม้สวยๆ ผลิออกมาจากต้นมะขามที่ปลูกอยู่เดิมไม่ได้
อยากได้ดอกไม้สวยๆ ต้องลงแรงคิดว่าจะปลูกต้นอะไรดี ต้องออกแรงปรับปรุงดิน เติมปุ๋ย เติมปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ที่จะทำให้ต้นไม้ต้นใหม่ออกดอกสวยงาม
แต่ถ้าทั้งวันหมดไปเวลาไปกับการวิ่งรดน้ำต้นไม้ หมดเวลาไปกับการทำป้ายป่าวประกาศว่าวันหน้า สวนนี้จะสวยงามอย่างไร
หมดเวลาไปกับการถกเถียงกับผู้คนที่บอกว่า ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ถึงจะได้สวนที่สวยงาม ก็จะไม่มีวันได้พบเห็นสวนที่สวยงามนั้นเกิดขึ้นจริง ทำแต่งานผักชี ไม่มี Deep Work ความสำเร็จที่ยั่งยืนเกิดขึ้นไม่ได้
ถ้าอยากหลุดพ้นจากงานผักชี ต้องให้เวลากับตนเองในการคิดอย่างรอบคอบกับเรื่องนั้นๆ
บริษัทไอทีอย่าง Google และ Microsoft ซึ่งเก่งกาจในเรื่องการสร้างงานที่ประสบความสำเร็จ มีอะไรต่ออะไรมาช่วยสร้างผลิตภาพในการงานให้ผู้คนอยู่เป็นประจำ จะสร้างผลิตภาพให้คนอื่น ตัวเองย่อมต้องมีผลิตภาพที่ดีด้วย
บริษัทที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองแห่งนี้ให้ความสำคัญกับการหลุดพ้นจากการครอบงำของงานประจำ ที่บางงานอาจเข้าข่ายงานผักชีโรยหน้า ด้วยข้อจำกัดของเวลาที่จะคิดหาหนทางปัดเป่าปัญหา
เขาเชื่อว่า ถ้ามีเวลาที่มีสมาธิในการคิดไม่เพียงพอ โอกาสเกิดงานผักชีโรยหน้าจะมีมากขึ้น ทั้งสองบริษัทจัดเวลาให้บุคลากรมีเวลาคิดตรึกตรองงาน โดยไม่มีการรบกวน
Google ให้บุคลากรกำหนด Focus Time ไว้ในปฏิทินนัดหมาย เพื่อให้ทำงานลึกซึ้งได้ในช่วงเวลานั้น ทำงานได้โดยสงบ ปราศจากการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ
ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเรื่องสมาธิในการคิดสร้างสรรค์ แต่ยังช่วยเพิ่มผลิตภาพจากการที่บุคลากรกำหนดเวลาที่จะโฟกัสกับการทำงาน และกำหนดเป้าหมายในช่วงเวลานั้นไว้อย่างชัดเจน
Microsoft ให้บุคลากรกำหนด Quite Time เพื่อโฟกัสไปในการงานที่ต้องคิดอย่างลึกซึ้งโดยปราศจากการรบกวนเช่นเดียวกัน
ที่สำคัญคือก่อนที่จะคิดอย่างลึกซึ้งว่าจะทำงานกันอย่างไร คิดให้รอบครอบเสียก่อนว่า เรื่องใดสำคัญกว่าเรื่องใด จัดลำดับความสำคัญของเรื่องที่จะทำ Deep Work ให้ได้ก่อน ทำทุกอย่างพร้อมกันก็จะกลายเป็นงานผักชีไปเสียอีก
ถ้าพอใจอยู่กับ การดูงานเช้า เปิดงานสาย ประชุมบ่าย เซ็นแฟ้มเย็น คงรู้ตัวดีว่ากำลังทำงานอย่างลึกซึ้ง หรือกำลังช่วยโรยผักชีเพิ่มกันอยู่.