ปี 2025 ต้องดีขึ้น เคล็ดลับ 30 ข้อ อัปความสำเร็จวัยทำงาน มีความสุข ชีวิตยืนยาว
New Year New me ปีหน้า 2025 วัยทำงานต้องมีชีวิตดีขึ้น ทั้งสุขภาพร่างกาย จิตใจ และการเงิน ด้วยการฝึกฝนนิสัยง่ายๆ ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น เดินมากขึ้น รับประทานอาหารที่สมดุล ไปพบแพทย์ตามนัด และฝึกวางแผนการเงินหลังเกษียณ
KEY
POINTS
- ใกล้ปีใหม่ 2025 ลองวางแผนพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว เพื่อเป้าหมายมีความสุขและประสบความสำเร็จ อาจเริ่มจากฝึกฝนนิสัยง่ายๆ ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น การเดินมากขึ้น การรับประทานอาหารที่สมดุล และการไปพบแพทย์ตามนัด
- การรู้จักวางแผนทางการเงินให้มั่นคง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเครียดและช่วยให้วัยทำงานรู้สึกสบายใจ มั่นคง มีความสุข เมื่ออายุมากขึ้น
- เปิดลิสต์เคล็ดลับ 30 ข้อที่จะช่วยพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น ทั้งในแง่ความสุข สุขภาพร่างกาย และความสำเร็จในชีวิตและการงาน
ปัจจุบันนวัตกรรมการดูแลสุขภาพก้าวหน้าไปมาก ผลิตภัณฑ์ต่อต้านวัยและโปรแกรมฟื้นฟูสุขภาพที่แปลกใหม่ผุดขึ้นมาเต็มท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นการบำบัดด้วยความเย็น การฟื้นฟูผิวด้วยแสง หรือการตรวจเลือด-เนื้อเยื่อ (biomarker) เพื่อหาแนวโน้มการเกิดโรคร้าย ฯลฯ ซึ่งเคลมว่าจะทำให้วัยทำงานสุขภาพแข็งแรง มีความสุข และมีอายุยืนยาวขึ้น ว่ากันว่าอุตสาหกรรมต่อต้านความชรามีมูลค่าสูงถึง 62,000 ล้านดอลลาร์ (ราวๆ 2.14 ล้านล้านบาท)
แต่ก่อนที่จะตัดสินใจไปใช้บริการราคาแพงเหล่านั้น รู้หรือไม่? คุณสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสขุภาพให้ดีขึ้นได้ด้วยตนเอง ด้วยการฝึกฝนนิสัยง่ายๆ ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น การเดินมากขึ้น การรับประทานอาหารที่สมดุล และการไปพบแพทย์ตามนัด ล้วนเป็นแนวทางที่ได้รับการรับรองว่าได้ผลจริง จากแพทย์และนักโภชนาการที่ศึกษาเรื่องอายุขัย
การมีอายุยืนยาวไม่ได้หมายความถึงการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น การศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดซึ่งกินเวลานานเกือบ 90 ปี พบว่า ผู้ที่อายุยืนยาวและมีความสุขจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น และรวมถึงการรู้จักวางแผนทางการเงินให้มั่นคง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเครียดและช่วยให้วัยทำงานรู้สึกสบายใจเมื่ออายุมากขึ้น
หากคุณอยากมีความสุข และรู้สึกอิ่มเอมในการใช้ชีวิตมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องใช้บริการเลเซอร์หรือตู้แช่แข็งย้อนวัยใดๆ มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากมายชี้ว่า หากกินอย่างสมดุล ดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจให้ดี คนเราสามารถมีอายุยืนถึง 90 ปี อย่างเช่นชาวโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น และชาวซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี เป็นต้น ซึ่งมีวิธีดูแลตัวเองง่ายๆ หลากหลายวิธีโดยแทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้มีความสุข มีชีวิตยืนยาว และประสบความสำเร็จได้มากขึ้น ลองมาเช็กลิสต์เคล็ดลับ 30 ข้อจาก CNBC Make it ดังนี้
เคล็ดลับสำคัญ 30 ข้อ ช่วยให้มีชีวิตที่ยืนยาว มีความสุข และประสบความสำเร็จมากขึ้น
1. ถามตัวเองว่า “ฉันอยากใช้ชีวิตวันสุดท้ายกับใคร”
มหาเศรษฐีชื่อดัง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ขึ้นชื่อเรื่องการลงทุนทางการเงิน แต่เขาก็ให้ความสำคัญกับการลงทุนทางสังคมเช่นกัน เพื่อใช้ชีวิตโดยไม่รู้สึกเสียใจบัฟเฟตต์ถามตัวเองว่าเขาอยากพบใครในวันสุดท้ายของเขาและพยายามหาเวลาให้กับคนเหล่านั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้
2. หลีกเลี่ยงพาสต้าและพิซซ่า
จำกัดการบริโภคอาหารที่มีสาร P ซึ่งอยู่ในอาหารจำพวกแป้งขาวที่เป็นอันตราย ได้แก่ มันฝรั่ง พาสต้า พิซซ่า โปรตีน และขนมปัง โดย วัลเตอร์ ลองโก ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการอายุยืนและมะเร็งแห่งสถาบันมะเร็งวิทยา บอกว่า อาหารเหล่านี้จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลและถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และหากร่างกายรับน้ำตาลปริมาณสูงอาจทำให้อายุขัยสั้นลงได้
3. ฝึกฝนวินัยทางการเงินและ “วางแผนทางการเงิน”
พิจารณาสินทรัพย์ ค่าใช้จ่าย และเงินออมทั้งหมดของคุณในปัจจุบัน และลองคาดการณ์ว่าสถานะทางการเงินของคุณจะเป็นอย่างไรเมื่อเกษียณอายุ มีเวลาทำงานเก็บเงินอีกกี่ปี จากนั้นจะทำให้เห็นภาพชัดขึ้นว่าเราต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในตอนนี้ เพื่อจะได้ใช้ชีวิตที่ดีมีเงินใช้ เมื่ออายุมากขึ้นในช่วงหลังเกษียณ
4. อย่าเลื่อนการนัดพบแพทย์ (ตรวจสุขภาพเป็นประจำ)
เดวิด วัตสัน อดีตศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาบุคลิกภาพ แห่งมหาวิทยาลัยนอเทรอดาม บอกว่า คนที่มีลักษณะบุคลิกภาพแบบ conscientious personality (บุคคลที่พิถีพิถัน มีความละเอียดลออ ระมัดระวัง รอบคอบ) ซึ่งถือเป็นบุคลิกภาพที่ดีนั้น มักเชื่อมโยงกับการมีอายุยืนยาวขึ้น คนที่มีบุคลิกภาพแบบนี้จะเก่งในการตรวจเช็กสุขภาพ และเลิกนิสัยที่ไม่ดีต่อการใช้ชีวิต “พวกเขาจะไม่ทำอะไรโง่ๆ ดังนั้นจึงเกิดอุบัติเหตุน้อยลงและมีพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น”
5. เขียนคำไว้อาลัยของตนเองตอนนี้ (แม้ยังไม่แก่)
วอร์เรน บัฟเฟตต์ คือคนที่ให้คำแนะนำนี้กับผู้คน เขาบอกว่าให้ลองนึกภาพว่า “คุณอยากเป็นคนแบบไหนในเรื่องราวชีวิตของตัวเองหลังจากโลกนี้ไป” ให้พิจารณาจากการใช้ชีวิตของเราที่ผ่านมาแล้วลองมองย้อนหลังกลับไป จะทำให้เรารู้ว่าเราเคยทำผิดพลาดตรงไหน แล้วปรับปรุงใหม่ให้เป็นเราในเวอร์ชันที่ดีขึ้น
6. สร้างเครือข่ายที่หลากหลายให้กับตนเอง
การมีเพื่อนๆ คอยสนับสนุนเราถือเป็นสิ่งที่ดีในชีวิต เพื่อนแต่ละคนจะสนับสนุนคุณในรูปแบบที่แตกต่างกัน ลองนึกดูว่าใครจะซัพพอร์ตคุณในด้านอารมณ์ จิตใจได้บ้าง และใครจะช่วยซัพพอร์ตด้านการงานหรือการวางเป้าหมายในอนาคตได้บ้าง ลองดูว่าตอนนี้คุณขาดส่วนไหนไป คุณสามารถมองหาสิ่งนั้นได้จากมิตรภาพในปัจจุบันหรือหาจากมิตรภาพใหม่ๆ ได้เช่นกัน
7. ใช้เวลาอยู่ใกล้แหล่งน้ำ
แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเหตุใดการอาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งหรือแหล่งน้ำจึงช่วยให้มีอายุยืนยาวได้ แต่ดูเหมือนว่าเขตบลูโซน (โซนที่มีประชากรอายุยืนยาว) 4 ใน 5 แห่งของโลกตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญมองว่าอาจเป็นผลมาจากเสียงคลื่นน้ำทำให้คนเราสงบ หรืออาจเพราะสภาพอากาศแถบริมน้ำช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย
8. อย่าออมแค่ประกันสังคม ออมเงินในกองทุนเกษียณอื่นๆ ด้วย
คนอเมริกันรุ่นมิลเลนเนียลและ Gen Z ส่วนใหญ่กังวลว่า โครงการประกันสังคมจะไม่มีเงินเหลือพอในช่วงที่พวกเขาเกษียณอายุงาน แต่อย่ารอให้โชคร้ายนั้นเกิดขึ้น มีวิธีง่ายๆ อีกอย่างที่รับประกันได้ว่าวัยทำงานจะมีเงินใช้หลังเกษียณ คือ แบ่งเงินไปออมในกองทุนเพื่อการเกษียณอื่นๆ ด้วย โดยอาจเริ่มออมทีละน้อยๆ ก็ได้ แอนน์ เลสเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษียณอายุและผู้เขียนหนังสือ “Your Best Financial Life” ให้คำแนะนำ
9. โทรหาคนที่คุณไม่ได้คุยด้วยมาสักพักแล้ว
จากการศึกษาในปี 2022 พบว่าคนส่วนใหญ่ประเมินความอยากฟังของเพื่อนต่ำเกินไป นักวิจัยพบว่าการโทรศัพท์หาเพื่อนแบบที่ไม่ได้วางแผนมาก่อน เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมาก และยิ่งเป็นการโทรศัพท์แบบไม่ได้คาดคิดมากเท่าไรก็ยิ่งดีต่อใจมากเท่านั้น
10. ใช้กฎ “ฮาระ ฮาจิบุ” กินให้อิ่มเพียง 80% เท่านั้น
วลีภาษาญี่ปุ่น “ฮาระ ฮาจิบุ” เริ่มใช้โดยผู้คนในโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่บลูโซนของโลก การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการกินมากเกินไปอาจเชื่อมโยงกับอายุที่สั้นลง
11. อย่าเกษียณจนกว่าคุณจะอายุ 70 ปี
การเลื่อนการเกษียณออกไปถือเป็น “เครื่องมือล้ำค่าที่สุด” ในการวางแผนการเงินของคุณ ตามที่ Suze Orman ที่ปรึกษาการเงินชื่อดังกล่าว เธอบอกอีกว่า การเลื่อนวันเริ่มต้นรับเงินประกันสังคมของคุณออกไปจนถึงอายุ 70 ปี จะทำให้คุณมีสิทธิ์ได้รับเงินจ่ายรายเดือนที่สูงกว่าผู้ที่เกษียณอายุในวัย 62 ปี มากถึง 75%
12. หาเวลาไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์บ้าง
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การดูงานศิลปะแม้จะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ช่วยลดความเครียดได้
13. เดินให้มากขึ้น
บนเกาะซาร์ดิเนียในเขตบลูโซนของอิตาลี ผู้คนไม่ออกกำลังกายอย่างหนักในตอนเช้า แต่กลับทำกิจกรรมอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน ที่เสมือนการออกกำลังกายแทน เช่น ปั่นจักรยานไปร้านขายของชำแทนที่จะขับรถไป หรืออาจนัดเพื่อนไปเดินเล่นในสวน แทนที่จะนัดเพื่อนไปนั่งดื่มสังสรรค์
14. ดื่มไวน์เล็กน้อย
ประชากรในแถบบลูโซนส่วนใหญ่ดื่มไวน์คู่กับอาหารเย็นทุกวัน แม้ว่าจะยังไม่มีมีการวิจัยที่ชัดเจนว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เล็กน้อยจะทำให้มีอายุยืนขึ้นจริงหรือไม่ แต่จากการศึกษาในปี 2017 ที่ทำกับผู้เข้าร่วมกว่า 300,000 คนพบว่าการดื่มในระดับเล็กน้อยช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
15. จินตนาการถึงชีวิตหลังเกษียณ
เมื่อคุณออกจากงานแล้ว คุณคงอยากจะใช้เวลาอย่างมีจุดมุ่งหมายมากขึ้น บางทีคุณอาจต้องการทำงานนอกเวลาหรือหางานอดิเรกทำ ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไรก็ตาม แต่ต้องเลือกทำกิจกรรมที่ทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นที่จะตื่นนอนทุกเช้า
16. กินบลูเบอร์รี่ให้มากขึ้น
นีล พอลวิน นักวิจัยด้านการมีอายุยืนยาวบอกว่า บลูเบอร์รี่สามารถเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ ส่งเสริมสุขภาพดวงตา ช่วยในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ลดคอเลสเตอรอล และลดการอักเสบในร่างกายได้ โดยตัวเขาเองก็รับประทานบลูเบอร์รี่เป็นประจำทุกวันเพื่อช่วยให้มีอายุยืนยาว
17. กำหนดขอบเขตทางการเงินกับพ่อแม่สูงอายุ
ดาเนียล มิอูระ นักวางแผนการเงินแนะนำว่า กำหนดจำนวนเงินหรือระยะเวลาที่คุณไม่สามารถดูแลพ่อแม่ได้อีกต่อไป มันอาจฟังดูรุนแรง แต่หากไม่กำหนดขอบเขตก็จะกระทบกับการเงินส่วนบุคคลได้ ผลสำรวจพบว่าวัยทำงานอเมริกันอายุน้อย 55% ให้ความดูแลช่วยเหลือทางการเงินกับพ่อแม่สูงอายุ แน่นอนว่าทำได้ แต่สิ่งสำคัญคือ การดูแลครอบครัวไม่ควรแลกมาด้วยเงินออมเกษียณของคุณเอง
18. เข้านอนในเวลาเดียวกันทุกคืน
การวิจัยพบว่า การรักษาจังหวะการทำงานของร่างกายให้สม่ำเสมอ จะช่วยให้สมองของคุณแจ่มใสและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
19. สมัครประกันภัยการดูแลระยะยาว
มาร์ก ลา สปิซา ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยและที่ปรึกษาอาวุโส บอกว่า ประกันภัยดูแลระยะยาวนี้ จะครอบคลุมการดูแลต่างๆ ที่จะไม่รวมอยู่ในประกันสุขภาพทั่วไป หากคุณมีบริการดูแลระยะยาวที่มีคุณภาพ คุณจะโอนความเสี่ยงจากตัวคุณเองไปที่บริษัทประกัน ซึ่งทำให้ไม่ต้องกังวลในอนาคต
20. ออกกำลังกายแบบนี้ 5 นาทีทุกวัน
ในพื้นที่เขตบลูโซนของโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น ผู้สูงอายุจำนวนมากออกกำลังกายแบบ “ไรโจไทโซ” ซึ่งแปลว่า “การออกกำลังกายแบบวิทยุ” เป็นการออกกำลังกายแบบมีคำแนะนำและไม่ก่อให้เกิดแรงกระแทกกับข้อต่อของร่างกาย ส่วนใหญ่เป็นท่ายืดเส้นยืดสาย ซึ่งจะช่วยเติมพลังให้ร่างกายและจิตใจของคุณ
เฮกเตอร์ การ์เซีย และฟรานเชส มิราลเลส ผู้เขียนหนังสือ “อิคิไก: ความลับของญี่ปุ่นสู่ชีวิตที่ยืนยาว” บอกว่า แม้แต่ผู้พักอาศัยในบ้านพักคนชราที่พวกเขาเคยไปเยี่ยมเยียน ก็ใช้เวลาออกกำลังกายแบบนี้อย่างน้อย 5 นาทีทุกวัน แม้ว่าบางคนจะออกกำลังกายโดยใช้รถเข็นก็ตาม
21. รับประทานอาหารเมดิเตอร์เรเนียน
การรับประทานอาหารทะเล รวมถึงอาหารโปรตีนสูงไขมันต่ำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และเพิ่มผลไม้และผักสด ถั่วเลนทิล และธัญพืชไม่ขัดสีในอาหารของคุณ จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเบาหวานประเภท 2 ได้
22. ตั้งรกรากในสถานที่ที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบ้านและเมืองที่คุณอาศัยอยู่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ และควรอยู่ใกล้โรงพยาบาล เพราะหากคุณอายุมากขึ้นอาจขับรถเองไม่ได้ หรือไม่สามารถขึ้นบันไดสูงได้อีกต่อไป ดังนั้น เมืองจึงต้องมีขนส่งสาธารณะที่สะดวก บ้านที่อยู่อาศัยก็ไม่ควรเป็นบ้านสามชั้น เป็นต้น
23. อย่าลงทุนโดยขาดวิจารณญาณ
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยกล่าวในการประชุมประจำปีของบริษัทว่า “ฉันพลาดหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ก็ไม่เคยกังวลว่าจะพลาดในอะไรที่เราไม่เข้าใจ” ไม่ว่าจะเป็นคริปโตหรือ GameStop ก็มีหุ้นที่เป็นกระแสอยู่มากมายที่อาจดึงดูดใจให้ซื้อได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณยังไม่ได้ศึกษามันให้ดี ก็ไม่ควรลงทุนจะดีกว่า
24. ค้นหาชุมชนที่มีความคิดสร้างสรรค์
นักจิตวิทยา ธีมา ไบรอันท์ บอกว่า กุญแจสำคัญประการหนึ่งในการรักษาความสุขคือ การมีกลุ่มเพื่อนผู้หญิง เธอแชร์ให้ฟังว่า “ฉันติดต่อกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงทุกเดือนและใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง ชั่วโมงแรกเราจะแบ่งปันเรื่องราวชีวิตและพบปะกันอย่างไม่เป็นทางการ จากนั้นในชั่วโมงที่สอง เราจะเดินเล่นไปรอบๆ เมืองและแบ่งปันบางสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจ” สิ่งนี้ช่วยให้ได้ไอเดียสร้างสรรค์มากขึ้น
25. เลิกดื่มโซดา น้ำอัดลมต่างๆ
อาหารชนิดหนึ่งที่นักโภชนาการอย่าง จิแนน บันนา ไม่เคยดื่มเลยก็คือโซดา เธอบอกว่า “โซดาไม่มีคุณค่าทางโภชนาการใดๆ นอกจากแคลอรีในรูปแบบของน้ำตาลเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นแคลอรีล้วนๆ ซึ่งไม่ได้ให้สารอาหารใดๆ ที่เราต้องการเลย”
26. สมัครสมาชิกสมาคมผู้เกษียณอายุ
ในสหรัฐอเมริกามีสมาคมผู้เกษียณอายุของชาวอเมริกัน (AARP) หากเป็นสมาชิกก็จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายเมื่ออายุมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดจากร้านอาหารเครือ โรงภาพยนตร์ ตั๋วเครื่องบิน และสิทธิประโยชน์จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามช่วงอายุมากขึ้น ส่วนในไทยพบว่ามี สมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ ดำเนินงานด้านการดูแลสังคมผู้สูงวัยในไทย
27. ชวนเพื่อนไปเที่ยวด้วยกันคืนนี้
เอสเธอร์ เปเรล นักจิตบำบัดชื่อดังแนะนำว่า วิธีเพิ่มความสุขที่ทำได้เลยก็คือ ชวนเพื่อนไปเที่ยวด้วยกันในคืนนี้ ผู้คนมักจะยุ่งอยู่กับงานหรือครอบครัวเสมอ แต่มันจะต้องมีสักวันที่พอจะมีเวลาว่างอยู่บ้าง ลองโทรชวนเพื่อนออกมาแฮงเอาท์ไม่กี่ชั่วโมง แบบไม่ได้นัดหมาย ซึ่งน่าแปลกใจว่าการนัดกันทันทีได้ผลมากกว่าการนัดล่วงหน้าแบบวางแผน
28. ลงทุนเพื่อการเกษียณแบบเงินสมทบ
ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ วัยทำงานจะได้สิทธิประโยชน์มากมาย และจะได้มีเงินก้อนไว้ใช้หลังเกษียณด้วย ข้อดีคือ ได้เงินสมทบจากนายจ้าง เป็นสร้างวินัยการออมเพราะต้องหักเงินเดือนมาออมก่อน แถมยังสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ sec.or.th
29. แสดงความมีน้ำใจต่อกันชุมชน
คุณสามารถทำหน้าที่เป็นตาข่ายนิรภัยให้ผู้อื่นได้ ขณะเดียวกันผู้อื่นก็จะทำสิ่งนี้ตอบแทนคุณเช่นกันเมื่ออายุมากขึ้น แต่คุณต้องลงทุนในความสัมพันธ์เหล่านั้นก่อนเท่านั้น การเข้าร่วมกลุ่มอาสาสมัครหรือช่วยเหลือที่ศูนย์นันทนาการในชุมชน จะทำให้คุณมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนที่ห่วงใยความเป็นอยู่ของคุณมากขึ้น
30. ถามตัวเองว่า “วันนี้ฉันเสียใจเรื่องอะไร”
นักจิตวิทยา ไมเคิล เจอร์เวส บอกว่า “คุณไม่จำเป็นต้องมองย้อนกลับไปในอดีต แล้วได้แต่หวังว่าจะสามารถทำสิ่งต่างๆ ให้แตกต่างออกไปจากเดิม แต่คุณสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ตั้งแต่วันนี้” หากคุณต้องการมีเวลาให้กับลูกมากขึ้น ให้หาเวลาอยู่กับลูกให้ได้ในสัปดาห์นี้ หากคุณรู้สึกว่าอาจมีงานที่ดีกว่าสำหรับคุณ ให้สมัครงานใหม่ในตำแหน่งที่คุณสนใจตั้งแต่วันนี้ อย่ามัวแต่จมกับอดีตแต่จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด