เฟื่องฟูในยุค ‘RUPT’ | Learding For Future
2568 เข้าปีนักษัตรงู สัญลักษณ์แห่งปัญญา การปรับตัว และการเปลี่ยนแปลง ผู้นำต้องมีความสามารถในการนำองค์กรในสภาพแวดล้อมที่ เรียกว่า “RUPT” ซึ่ง เต็มไปด้วยความรวดเร็ว ความคาดเดาไม่ได้ ความขัดแย้งกันเอง และความเชื่อมโยงกันแบบที่ไม่ได้คาดคิด
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ปี พ.ศ. 2568 ถือเป็นปีนักษัตรงูในปฏิทินจีน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญา การปรับตัว และการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับงูที่ลอกคราบเพื่อการเติบโต ผู้นำก็ต้องละทิ้งวิธีการเดิมที่แม้จะเป็นวิธีที่สร้างความสำเร็จในอดีต ยอมรับแนวทางใหม่ ๆ เพื่อให้เติบโตในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สำหรับผู้นำในประเทศไทยและทั่วโลก ปี พ.ศ. 2568 ถือเป็นปีที่มากกว่าความยืดหยุ่นและวิสัยทัศน์ ผู้นำต้องมีความสามารถในการนำองค์กรในสภาพแวดล้อมที่ Center for Creative Leadership เรียกว่า “RUPT” กล่าวคือสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความรวดเร็ว (Rapid) ความคาดเดาไม่ได้ (Unpredictable) ความขัดแย้งกันเอง (Paradoxical) และความเชื่อมโยงกันแบบที่ไม่ได้คาดคิด (Tangential)
การเปลี่ยนแปลงไม่เคยรอใคร จึงหมดยุคที่ผู้นำพึ่งพากลยุทธ์ที่อาศัยการปรับตัวทีละน้อยหรือแนวทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า คำถามของปี พ.ศ. 2568 จึงไม่ใช่ว่าเราจะตามทันหรือไม่ แต่คือเราพร้อมที่จะเป็นผู้นำด้วยความคล่องตัวและวิสัยทัศน์ในโลกที่ซับซ้อนขึ้นหรือไม่
1. ผู้นำต้องทั้งปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงและต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
ในสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วในอัตราที่ไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่การนำ AI และแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ผู้นำไม่เพียงต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่ยังต้องคาดการณ์ล่วงหน้าเพื่อกลายเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมด้วย การสร้างความคล่องตัวในองค์กรจะเป็นรากฐานสำคัญสู่ความสำเร็จ ซึ่งหมายถึงการให้อำนาจแก่ทีมเพื่อตอบสนองอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด การส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้นำหน้าคู่แข่ง
2. ผู้นำต้องเป็นทั้งนักวางแผนกลยุทธ์และเป็นนักทดลอง
ความคาดเดาไม่ได้ของสภาพแวดล้อมในปัจจุบันกระตุ้นให้ผู้นำไม่เพียงแค่เป็นนักวางแผนกลยุทธ์ แต่ยังต้องเป็นนักทดลอง ธุรกิจไทยที่เชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานระดับโลกต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาสิ่งแวดล้อม และตลาดที่ผันผวน ผู้นำต้องปลูกฝังความยืดหยุ่นในตัวเอง สร้างกรอบความคิดที่ยอมรับความไม่แน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติ และมองมันเป็นโอกาสในการสร้างนวัตกรรม การสร้างความปลอดภัยทางจิตวิทยาในทีมจะช่วยส่งเสริมการทดลองและการรับความเสี่ยงที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน
3. ผู้นำต้องทั้งจัดการกับความขัดแย้งและผสานสิ่งที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกันเองเข้าด้วยกัน
สิ่งที่ท้าทายที่สุดในโลก RUPT คือธรรมชาติที่ขัดแย้งกันของมัน ผู้นำต้องสร้างสมดุลระหว่างความต้องการที่ขัดแย้ง เช่น การผลักดันผลการปฏิบัติงานขณะเดียวกันกับการดูแลความเป็นอยู่ที่ดี การมุ่งเน้นผลประโยชน์ระยะสั้นขณะวางแผนเพื่อความยั่งยืนระยะยาว หรือการยอมรับนวัตกรรมขณะรักษาเสถียรภาพ ความสามารถนี้ช่วยให้ผู้นำมีความสามารถในการคิดแบบสองด้าน สามารถผสานความสำคัญที่ดูเหมือนจะขัดแย้งเข้าด้วยกันในกลยุทธ์ที่เป็นหนึ่งเดียว
4. ผู้นำต้องทั้งโฟกัสและต้องมีมุมมองที่ครอบคลุม
ผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิดเป็นตัวอย่างชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้คาดคิด ผู้นำต้องพัฒนาสิ่งที่เรียกว่าวิสัยทัศน์รอบด้าน ความสามารถในการมองเห็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นและสัญญาณที่อ่อนแอซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมาก ผู้นำที่สามารถเห็นและดำเนินการกับสิ่งที่คาดไม่ถึงเหล่านี้จะสร้างโอกาสใหม่สำหรับการเติบโตและความร่วมมือ
ยุค RUPT ต้องการผู้นำแบบใหม่ ผู้นำที่กล้าหาญแต่เปี่ยมด้วยความเห็นอกเห็นใจ มีความมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์แต่ยังมีความคล่องตัวและมีจุดยืนที่มั่นคงในเป้าหมายที่สำคัญ ขอให้ปีใหม่นี้เป็นจุดเปลี่ยน ที่ผู้นำจะเปล่งประกายผ่านความไม่แน่นอน และสร้างเส้นทางสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน