อยากประสบความสำเร็จ อย่าขอแค่คำติชม แต่ต้องขอคำแนะนำจากหัวหน้า

อยากประสบความสำเร็จ อย่าขอแค่คำติชม แต่ต้องขอคำแนะนำจากหัวหน้า

ในการทำงานเราขอแค่คำติชมอาจยังไม่พอ นักจิตวิทยาเผย เทคนิคการพัฒนาตัวเองที่ดีที่สุด วัยทำงานควร 'ขอคำแนะนำ' ดีกว่า นี่คือเคล็ดลับสู่ความสำเร็จในอาชีพการงาน

KEY

POINTS

  • นักจิตวิทยาองค์กรแนะนำวัยทำงานว่า แทนที่จะขอคำติชมจากหัวหน้า แต่ควรเปลี่ยนมาขอคำแนะนำแทน ซึ่งวิธี

ขอคำติชมจากหัวหน้าอาจยังไม่พอ! "อดัม แกรนต์" นักจิตวิทยาองค์กรชื่อดังจากมหาวิทยาลัยวอร์ตัน เปิดเผยเคล็ดลับที่น่าสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง ให้วัยทำงานประสบความสำเร็จในอาชีพได้มากกว่าที่เคย

แกรนต์อธิบายว่า เมื่อเราขอ feedback จากที่ปรึกษาทางอาชีพหรือหัวหน้างาน มักจะเกิดสถานการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งในสองแบบนี้ คือ 1. เราอาจได้รับข้อคิดที่เป็นประโยชน์จริงๆ หรือ 2. ได้รับคำตอบแบบระมัดระวังเกินไป เพราะอีกฝ่ายกลัวว่าจะกระทบกระเทือนความรู้สึกของเรา ซึ่งแกรนต์ระบุว่า กรณีหลังนี้เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คนทั่วไปคิดมาก

คำแนะนำ VS คำติชม อย่างแรกมีประสิทธิภาพต่อการทำงานมากกว่า

แกรนต์ ผู้เขียนหนังสือขายดีเกี่ยวกับคำแนะนำสำหรับวัยทำงานหลายเล่ม สังเกตเห็นว่า คนที่ประสบความสำเร็จสูงมักใช้วิธีการที่แตกต่างออกไป นั่นคือ "แทนที่จะขอคำติชม พวกเขาจะขอคำแนะนำแทน" ซึ่งวิธีนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าในการได้รับข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์

การขอ "คำติชม" กับการขอ "คำแนะนำ" ได้รับการพิสูจน์ทางวิชาการผ่านงานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในปี 2019 แล้วว่ามีความแตกต่างกันจริงในทางวิทยาศาสตร์ โดยนักวิจัยได้ทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง 200 คน โดยให้พวกเขาแสดงความคิดเห็นต่อจดหมายสมัครงานสำหรับตำแหน่งติวเตอร์ ที่เขียนขึ้นโดยเพื่อนร่วมงาน

ผลการวิจัยพบว่า เมื่อขอให้พนักงานกลุ่มตัวอย่างลองให้ feedback แก่จดหมายสมัครงานเหล่านั้นแบบรวมๆ พวกเขามักจะให้ "คำติชม" แบบกว้างๆ ไม่เฉพาะเจาะจง แต่เมื่อขอให้พวกเขาให้ "คำแนะนำ" ต่อจดหมายฉบับเดียวกัน กลับได้รับข้อมูลเชิงวิพากษ์วิจารณ์ที่นำไปปฏิบัติได้จริงมากกว่า โดยตัวเลขชี้ให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนว่า 

"คนที่ถูกขอคำแนะนำจะชี้ประเด็นที่ควรปรับปรุงมากกว่าถึง 34% และเสนอวิธีการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมมากกว่าถึง 56% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ถูกขอ feedback"

พนักงานที่มีผลงานดีเด่น เป็นกลุ่มที่ได้รับคำติชมผิวเผินมากกว่าคนอื่น

แกรนต์วิเคราะห์เพิ่มเติมว่า การขอคำติชมจากคนอื่น เรามักจะทำให้คนๆ นั้นตอบสนองเราในสองรูปแบบ
- รูปแบบแรกคือ : เข้าโหมด "กองเชียร์" ที่มุ่งชื่นชมจุดเด่นและด้านดีที่สุดของเรา ซึ่งแม้จะสร้างแรงบันดาลใจได้ดี แต่ไม่ค่อยได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ
- รูปแบบสองคือ : เข้าโหมด "นักวิจารณ์" ที่มุ่งโจมตีจุดอ่อนและด้านแย่ที่สุดของเรา ซึ่งแม้จะได้เรียนรู้ แต่อาจทำลายกำลังใจได้

การที่วัยทำงานเปลี่ยนมาขอคำแนะนำแทนการขอคำติชมจากหัวหน้างานหรือเพื่อนร่วมงานจะเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะกับกลุ่มคนที่มักได้รับคำติชมที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ในที่ทำงาน จากการวิเคราะห์ล่าสุดในปี 2024 โดยแพลตฟอร์มการสื่อสารด้าน HR อย่าง Textio ที่ศึกษาผลการประเมินการทำงานมากกว่า 23,000 ชิ้นจากสถานที่ทำงาน 250 แห่งในสหรัฐอเมริกา

ผลการวิเคราะห์พบว่ามีกลุ่มคนสองประเภทที่มักได้รับ feedback ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ พนักงานที่มีผลงานดีเด่น ซึ่งมักได้รับแค่ feedback ระดับผิวเผิน และพนักงานผู้หญิง ซึ่งมักได้รับ feedback เกี่ยวกับบุคลิกภาพมากกว่าผลการปฏิบัติงานจริง

การขอคำแนะนำคือกุญแจสำคัญ ให้พนักงานก้าวหน้าในอาชีพ

เคียแรน สไนเดอร์ (Kieran Snyder) ผู้ร่วมก่อตั้ง Textio ให้ความเห็นกับ CNBC Make It เมื่อปีที่แล้วว่า การขอคำแนะนำเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้พนักงาน ได้เรียนรู้ พัฒนาตนเอง และอัปสกิลการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เติบโตก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ได้รับโอกาสที่ดียิ่งขึ้นและก้าวสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด

เธอยังได้แนะนำเทคนิคสำคัญอีกอย่างคือ ควรขอคำแนะนำล่วงหน้า เพื่อให้หัวหน้างานมีเวลาเพียงพอในการคิดและเตรียมคำวิจารณ์เชิงสร้างสรรค์ที่มีสาระและให้ประโยชน์ด้านการทำงานได้อย่างแท้จริง

สไนเดอร์ยังเสนอตัวอย่างประโยคที่ควรใช้ในการขอคำแนะนำ เช่น "การประชุมตัวต่อตัวสัปดาห์หน้าใน ผม/ดิฉันอยากจะขอเวลาพูดคุยเกี่ยวกับงานที่ผม/ดิฉันได้ทำมาว่า หากต้องการยกระดับการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ผม/ดิฉันควรจะต้องปรับเปลี่ยนหรือทำอะไรแตกต่างไปจากเดิมบ้าง"

วิธีการพูดเช่นนี้จะช่วยให้การสนทนามีโฟกัสที่ชัดเจน และเปิดโอกาสให้ได้รับคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมและนำไปปฏิบัติได้จริง

 

อ้างอิง: CNBC, HarvardBusinessReviewtextio