คืบหน้า!รถชนควายตาย 'ตายาย' ถูกเรียก2แสน
กรณีรถชนควายตาย "ตายาย" ถูกบ.ประกันเรียก2แสน เหตุรถพังยับ ศาลนัดไกล่เกลี่ย คาดน่าจะไกล่เกลี่ยได้ เพราะควายที่ตายเป็นของราชการ
จากกรณีที่มีผู้ใช้ชื่อว่า ทนายจรูญศักดิ์ ศึกขยาด ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า “รถชนควายตาย บริษัทประกันรถมาฟ้องเจ้าของควาย เรียกค่าเสียหาย 200,000 เจ้าของควายเป็นชาวนา อาศัยอยู่กับเมียบนบ้านเก่าๆ คุณตาหูไม่ดีต้องใช้เครื่องช่วยฟัง แกมีลูก3คนแต่ลูกทั้ง3ได้แยกย้ายออกจากบ้านไปหลายปีแล้วและไม่เคยติดต่อหรือกลับมาหาเลยแม้แต่ครั้งเดียว วันนี้ศาลนัดไกล่เกลี่ยตายายเตรียมเงินมา 3,000 เพื่อเอามาจ่ายให้โจทก์โดยหวังว่าโจทก์จะเห็นใจ แต่ความจริงนั้นน่าเศร้า (ตายายผู้หน้าสงสารทั้ง2ตามรูปเจ้าของควาย)”พร้อมกับมีภาพตายายที่นั่งอยู่บริเวณที่นั่งที่ศาลจังหวัดยโสธร
เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายจรูญศักดิ์ ศึกขยาด ซึ่งเป็นทนายความ ระบุว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ไปว่าความที่ศาลจังหวัดยโสธร ซึ่งโดยนิสัยส่วนตัวตนเป็นคนที่ชอบพูดคุยและเข้าไปถามไถ่ผู้คน โดยเฉพาะหากเป็นคนเฒ่าคนแก่ตนก็จะเข้าไปพูดคุยด้วย จนกระทั่งเห็นตายายคู่หนึ่ง ซึ่งตาได้ใส่เครื่องช่วยฟังเพราะหูไม่ดี ส่วนยายขาไม่ดีเดินกระเผลก ๆ มานั่งรออยู่ที่เก้าอี้หน้าห้องพิจารณาคดี ตนจึงเข้าไปสอบถามว่ามาทำไม
จากนั้นตายายก็เล่าให้ฟังว่า ควายของตาถูกรถชน แล้วบริษัทประกันแห่งหนึ่งก็เรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของควายเป็นเงิน 2 แสนบาท ซึ่งตายายบอกว่าไม่มีเงิน วันนี้ศาลได้นัดมาไกล่เกลี่ย ตายายก็เลยเหมารถเพื่อนบ้านมา
นายจรูญศักดิ์ กล่าวอีกว่า พอตนได้รับฟังอย่างนั้นก็เกิดความรู้สึกสงสาร เพราะตายายมากันสองคนและไม่รู้หนังสือ อ่านหนังสือไม่ออก โดยสัญชาติญาณของทนายความตนจึงได้แนะนำเรื่องข้อกฎหมายไป แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีนี้ เพราะคดีนี้ศาลนัดมาไกล่เกลี่ยกัน
“สาเหตุที่ผมถ่ายภาพตายายและโพสต์ลงไปในเฟสบุ๊ค เพราะอยากให้คนได้รับรู้ว่ามีคนด้อยโอกาสแล้วพบเจอปัญหาแบบนี้อยู่เยอะ บางคนโชคดีมีทนายความเข้าไปช่วยเหลือ บางคนไม่มีโอกาสที่ผู้รู้กฎหมายจะได้แนะนำ ในฐานะที่เราเป็นทนายความและรู้กฎหมายก็อยากจะช่วยเหลือ ไม่ได้หวังจะสร้างกระแสหรือทำอะไร ผมเจตนาแค่เล่าเรื่อง ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปใส่ร้ายบริษัทประกันภัยที่ไหนทั้งสิ้น เราไม่ได้มีเจตนาจะทำให้กฎหมายหรือศาลเสื่อมเสีย แต่คนที่อ่านให้เขาคิดไปเอง เพราะผมไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนความจริงแต่อย่างใด”สายจรูญศักดิ์ กล่าว
เขายังกล่าวอีกว่า นอกจากนั้นยังเห็นตายายถือเงินจำนวน 3 พันบาทมาด้วยซึ่งมีทั้งธนบัตรและเหรียญ เลยสอบถามไปว่าเอามาทำไม โดยตายายบอกว่า เอามาเพื่อจะเอามาจ่ายให้เขา คิดว่าหากจ่ายเงิน 3 พันบาทแล้วคดีคงจะจบเพราะทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินอยู่แค่นี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นไปไม่ได้เพราะผู้เสียหายเรียกร้องเงินมากถึง 2 แสนบาท เงินแค่ 3 พันบาทเขาคงไม่รับ
“ในกระบวนการชั้นศาล เบื้องต้นผมเข้าไปแนะนำในด้านกฎหมาย ในความเป็นไปได้และเทคนิคต่างๆ แนะนำเพื่อไม่ให้ตายายที่ไม่รู้หนังสือเลยเสียเปรียบ และช่วยพูดกับทางโจทก์เขาไปบ้าง แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ศาลที่ไกล่เกลี่ย และขึ้นอยู่กับฝ่ายโจทก์ว่าจะเอาอย่างไร แต่ก็คาดว่าน่าจะมีแนวโน้มที่ดี”นายจรูญศักดิ์ กล่าว
ด้านนายเจตน์ รอดอ่อน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยโสธร ได้เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้เบื้องต้นได้มีการไกล่เกลี่ยไปแล้ว โดยพบว่าควายที่ถูกชนนั้นเป็นควายของทางราชการ ที่ให้เกษตรกรนำมาเลี้ยงแล้วเมื่อควายตกลูกก็จะแบ่งลูกกันเพื่อเลี้ยงต่อไป ซึ่งพอควายถูกรถชนทางบริษัทประกันเลยฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของควาย แต่พอรู้ทางบริษัทประกันก็จะมาถอนคดี โดยรับปากจะมาถอนคดีนี้ ซึ่งคาดว่าจะจบลงด้วยดี