‘ยอดเขาคิชฌกูฏ’ ตามรอยพระพุทธาภิรมย์ | World Wide View

‘ยอดเขาคิชฌกูฏ’ ตามรอยพระพุทธาภิรมย์ | World Wide View

ตามรอยพระพุทธาภิรมย์ ชม "เขาคิชฌกูฏ" ทางใต้ของกรุงราชคฤห์ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นที่หมายแห่งศรัทธาของชาวพุทธทั่วโลก ที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต

เขาคิชฌกูฏ (Gridhrakuta Hill) ทางใต้ของกรุงราชคฤห์ (Rajgir) รัฐพิหาร อินเดีย เป็นที่หมายแห่งศรัทธาของชาวพุทธทั่วโลก หลายคนเชื่อว่ายอดเขาคิชฌกูฏมีความศักดิ์สิทธิ์รองจากมหาเจดีย์พุทธคยา ในครั้งพุทธกาลยอดเขาแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าหลายพรรษา รวมถึงพรรษาสุดท้ายก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน การขึ้นสู่ยอดเขาคิชฌกูฏจึงเปรียบเสมือนการเดินทางมาเข้าเฝ้าพระตถาคตอย่างใกล้ชิด

เขาคิชฌกูฏมีขนาดเล็ก ยอดเขาเหมือนนกแร้งพับปีก จึงมีอีกชื่อเรียกว่า ยอดนกแร้ง (Vulture Peak) เป็นภูเขาที่เอียงลาดยาวขึ้น ไม่ชันมาก การเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขาใช้เวลาประมาณ 45 นาที ระหว่างทางจะต้องผ่านถนนพิมพิสาร (Bimbisara road) มีความยาวเกือบ 2 กิโลเมตร สร้างโดยพระเจ้าพิมพิสารสำหรับเดินเท้ามาเข้าเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่ากันว่าพระองค์เสด็จพระราชดำเนินด้วยพระบาทเปล่าทุกครั้ง เพื่อแสดงความเคารพอย่างลึกซึ้งต่อพระพุทธองค์ เมื่อเดินเท้ามาเรื่อย ๆ จนจวนถึงยอดเขาจะพบ ถ้ำพระโมคคัลลานะ และถ้ำพระสารีบุตร (ถ้ำสุกรขาตา) ผู้เป็นพระอัครสาวกของพระพุทธเจ้า บรรยากาศในถ้ำมีความสงัด ปากถ้ำมีแผ่นทองคำเปลวจำนวนมากแปะเป็นเครื่องถวายตามคติความเชื่อของชาวพุทธ

‘ยอดเขาคิชฌกูฏ’ ตามรอยพระพุทธาภิรมย์ | World Wide View

เมื่อขึ้นถึงยอดเขาคิชฌกูฏจะพบลานกว้างขนาดพอประมาณ พื้นที่โดยรอบราบเสมอกัน สามารถมองเห็นทิวเขาที่อยู่ต่ำกว่ารายล้อม มีลมอ่อนพัดเย็นสบาย บรรยากาศรื่นรมย์ ห่างไกลจากเสียงอึกทึกครึกโครมของตัวเมือง เรียกได้ว่าเป็นสถานที่อันสัปปายะอย่างยิ่ง

ณ ที่แห่งนี้ ปรากฎฐานอิฐที่ก่อขึ้นเป็นทรงสี่เหลี่ยม 2 ฐาน ตั้งอยู่ไม่ห่างกันนัก ฐานหนึ่งมีขนาดเล็กกว่า ตั้งอยู่ติดหน้าผา แสดงที่ตั้งของกุฏิพระอานนท์ พระอนุชาผู้เป็นสหชาติกับพระพุทธเจ้า ท่านเป็นพุทธอุปัฏฐาก ผู้เสด็จติดตามตถาคตด้วยความรักและเทิดทูนไปทุกหนแห่ง และอีกฐานหนึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก แสดงที่ตั้งของคันธกุฎี (แปลว่า กุฎีที่มีกลิ่นหอม) เป็นที่ประทับขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า น่าพิจารณาว่าที่ประทับของมหาบุรุษผู้ซึ่งอุทิศชีวิตแสวงหาความจริงอันยิ่งใหญ่ กลับมีขนาดความกว้างยาวเพียงพอให้ 1 คนนอนได้เท่านั้น สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าพระพุทธาภิรมย์ของพระพุทธองค์ตั้งอยู่บนความธรรมดาสามัญ ความเรียบง่าย และความสันโดษอย่างยิ่ง บริเวณหน้าคันธกุฎียังมีลานกว้างพอให้หลายคนได้ใช้เวลาตามอัธยาศัยในการนั่งสวดมนต์และทำสมาธิถวายเป็นพุทธบูชาด้วย

ฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเดินทางมาเยือนเขาคิชฌกูฏ หลายคนออกเดินเท้าแต่เช้าตรู่เพื่อสัมผัสอากาศเย็นสบาย การเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขาคิชฌกูฏซึ่งเป็นเส้นทางที่ครั้งหนึ่งตถาคตเคยย่ำผ่าน ไม่เพียงทำให้ได้ชื่นชมความสงบงามตามแบบพระพุทธาภิรมย์ แต่ยังทำให้ได้สำรวจปริมณฑลในใจของตัวเองอย่างลึกซึ้งไปพร้อม ๆ กัน