Tom Dixon นักออกแบบจอมฉีกกฎ

ในบรรดานักออกแบบสัญชาติอังกฤษ ผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของวงการออกแบบผลิตภัณฑ์ โลกยกย่องให้ ทอม ดิกซัน (Tom Dixon) คือหนึ่งในนั้น และได้รับการขนานนามว่าเป็น Bad Boy British Designer หรือดีไซเนอร์ผู้สร้างสรรค์ชิ้นงานด้วยไอเดียและแนวคิดนอกกรอบฉีกกฎ เป็นเจ้าของรางวัล Designer of The Year ในงาน Maison& Objet 2014

จริงๆ แล้ว ‘ทอม’ เกิดที่ประเทศตูนิเซีย แต่ย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอังกฤษตั้งแต่ปีค.ศ.1963 ริเริ่มและสร้างสรรค์สร้างงานดีไซน์สุดบรรเจิดต่างๆ ด้วยการเรียนรู้ต่อยอดประสบการณ์ในงานออกแบบต่างๆ ด้วยตนเอง โดยไม่ได้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรดีไซน์จากสถาบันใดๆ แต่ก็สามารถก้าวขึ้นสู่การเป็นดีไซเนอร์ชั้นนำระดับแถวหน้าในแวดวงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ไลท์ติ้ง ของตกแต่งในประเทศอังกฤษอย่างรวดเร็ว และได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีเยี่ยมในระดับโลก

ผลงานการออกแบบของ ทอม ดิกซัน ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ แต่ยังเคยสร้างสรรค์คอลเลคชั่นสุดพิเศษด้วยการนั่งแท่นเป็นดีไซเนอร์ให้กับสปอร์ตแบรนด์ชื่อดัง Adidas ผลิตคอลเลคชั่น Capsule และเสื้อโปโลแนว Eco+Techno ภายใต้แบรนด์ Lacoste ซึ่งต่างก็ยังคงเอกลักษณ์การออกแบบในสไตล์ของ ทอม ดิกซัน ไว้อย่างครบถ้วน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่ยอมรับในทุกๆ วงการ

ด้วย แนวคิดนอกกรอบอย่างชัดเจน บวกกับคาแรคเตอร์ของงานออกแบบที่ ‘แตกต่าง’ ส่งผลให้ ทอม ดิกซัน ขึ้นแท่นหนึ่งในดีไซเนอร์ชั้นแนวหน้าคนหนึ่งของเกาะอังกฤษ รับประกันความสามารถด้วยรางวัลที่ได้รับจากหลากหลายสถาบัน และหนึ่งในรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการได้รับพระราชทาน เครื่องอิสริยาภรณ์ Order of British Empire  จากสมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษในปีค.ศ.2001 

ทุกคอลเลคชั่นของแบรนด์ ทอม ดิกซัน ได้แรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัว ใช้เทคนิคหลากหลายในการผลิตชิ้นงาน เลือกใช้วัสดุคุณภาพเยี่ยมที่ตอกย้ำคาแรคเตอร์และแนวคิดฉีกกฎมาใช้ผลิตเป็นงานดีไซน์ชิ้นเก๋ด้วยสไตล์เฉพาะตัวได้อย่างสวยงาม เช่น คอลเลคชั่น Beat ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของหม้อทำอาหารและภาชนะใส่น้ำของชาวอินเดีย ปั่นและใช้มือตีขึ้นรูปด้วยช่างผู้ชำนาญในเมืองโมราดาบัด (Moradabad) ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ทั้งหมดทำจากทองเหลือง ในคอลเลคชั่นประกอบด้วย Stout Wide และ Tall และมีทั้งหมดสามสี คือ ดำ ขาวและเทา

คอลเลคชั่นเครื่องหอม Materialism Quartz ได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘หินควอร์ต’ ที่มีความโปร่งใสและพื้นผิวไม่เรียบของหินที่ยังไม่ได้เจียรนัย ให้กลิ่นหอมแนว musky ของ ambrette และพริกไทยสีชมพู (pink pepper) ภาชนะบรรจุทำจากแก้วที่ดึง กดและยืดให้เกิดรูปทรงพิเศษ ทั้งสี รูปทรงและพื้นผิว ตกแต่งขั้นสุดท้ายด้วยผงแก้วสีขาวกลายเป็นเอฟเฟ็กต์โปร่งแสง ในคอลเลคชั่นประกอบด้วยเทียนขนาดกลางและใหญ่ ดิฟฟิวเซอร์ และ แวกซ์ดิฟฟิวเซอร์

Stone เป็นคอลเลคชั่นอุปกรณ์เครื่องครัว เชิงเทียน โคมไฟแขวน ตั้งใจทำให้มีทั้งความสวยงามและสามารถใช้งานได้จริง ต้องการรูปร่างกลมมนและมีน้ำหนัก ได้แรงบันดาลใจจากพื้นผิวและลวดลาย ‘หินอ่อน’ วัสดุต้องตาต้องใจเหล่าสถาปนิก เป็นงานหินอ่อนผสมกับงานทองเหลือง และเป็นหินอ่อน Morwad ที่ใช้สร้างทัชมาฮาล

คอลเลคชั่นเครื่องหอม Materialism Oil ได้แรงบันดาลใจจาก ‘เงาสีสายรุ้งหลากสี’ ของภาชนะโบราณที่ขุดขึ้นมาจากดินและสระน้ำเปื้อนน้ำมัน รูปทรงขอบปากเว้าแหว่งเหมือนถูกหลอมเหลว พื้นผิวสัมผัสเหมือนน้ำมันบนผิวน้ำหรือปีกผีเสื้อ เทียนและดิฟฟิวเซอร์มีกลิ่นหอมสดชื่นของน้ำมันหอมระเหยแนวกลิ่น woody ภาชนะทุกชิ้นขึ้นรูปด้วยแก้วสีดำ เอฟเฟ็กต์สีเหลือบทาด้วยมือ จึงทำให้แต่ละชิ้นมีสี รูปทรงและพื้นผิวที่แตกต่างกัน

ผลงานออกแบบของ ทอม ดิกซัน ยังเป็นที่ต้องการ และได้รับการจัดแสดงอยู่ใน พิพิธภัณฑ์ชั้นนำทั่วโลก เช่น The Victoria and Albert Museum, Museum of Modern Art ในนิวยอร์ก และ Centre Georges Pompidou ในกรุงปารีส และได้ร่วมเป็นส่วนสำคัญของโปรเจคอันหรูหราทั่วโลกมากมาย เช่น Restaurant at the Royal Academy ในกรุงลอนดอน และ Tazmania Ballroom บาร์หรูริมสระในเขต Central District ของฮ่องกง

สำหรับในประเทศไทย ผลงานของ ทอม ดิกซัน เข้ามาเป็นสินค้าแบรนด์พิเศษของ MOTIF ในแฟลกชิพสโตร์ล่าสุดแห่งแรกและแห่งเดียวบนชั้น 3 ของศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่โฉมใหม่ รวบรวมคอลเลคชั่นพิเศษๆ ของ Lighting, เฟอร์นิเจอร์, เครื่องเขียน และของแต่งบ้าน

ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่รวบรวม Home scents จากทุกคอลเลคชั่นของ ทอม ดิกซัน มาไว้อย่างครบถ้วน

ภาพ : คุณาคม กลิ่นขจร