'Superstar Gemini' เรือหรูควรออกจากฝั่ง

ความสำราญของเรือสำราญไม่เคยดึงดูดความสนใจของผมได้เลย จนกระทั่งพี่ที่เคารพรักท่านหนึ่งบอกว่า “ถ้าไม่เคยไปล่องเรือสำราญ ก็ควรลองสักครั้งนะ” ได้ฟังแบบนี้ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า...เรือสำราญมันสำราญปานนั้นเชียวหรือ

            จนกระทั่ง Superstar Gemini ของ Star Cruises เรือสำราญระดับโลก มาเปิดเส้นทางในน่านน้ำไทยแบบที่พอจะลางานไปพักผ่อนหย่อนใจกลางทะเลและผืนฟ้ากว้างใหญ่อันไกลโพ้นได้ นั่นคือเส้นทาง แหลมฉบัง - สีหนุวิลล์ (กัมพูชา) - เกาะสมุย – แหลมฉบัง พร้อมกับโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต KTC ที่จะทำให้คำว่าล่องเรือสำราญไม่ใช่แค่การพักผ่อนของเศรษฐีอีกต่อไป เพราะทุกเส้นทางของเรือลำนี้ที่ขึ้นที่ท่าเรือนานาชาติแหลมฉบัง

            ทั้งคำปลุกเร้าและราคาที่จับต้องได้ ประสบการณ์บนเรือสำราญราศีเมถุนจึงเริ่มต้นขึ้นทันทีที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ไปขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมฉบัง พอพ้นอาคารผู้โดยสาร เบื้องหน้าคือเรือขนาดมหึมา แม้ Superstar Gemini จะเป็นเรือสำราญขนาดกลาง แต่สำหรับผู้โดยสารมือใหม่นี่ถือว่าอลังการมากแล้ว

            ลืมบอกไปว่าก่อนขึ้นเรือจะต้องเช็คอินที่อาคารผู้โดยสาร แล้วจะได้รับบัตรซึ่งเป็นทั้งคีย์การ์ดเข้าห้อง เข้าใช้สิ่งอำนวยความสะดวกและส่วนต่างๆ ของเรือ รวมทั้งเป็นดั่งบัตรแสดงตัวตนเพราะบัดนี้พาสปอร์ตได้ถูกยึดไว้เรียบร้อยแล้ว พอขึ้นเรือนี่คือด่านแรกที่ต้องใช้คีย์การ์ดใบนี้เพื่อผ่านเข้าไปเป็นผู้โดยสารอย่างสมบูรณ์

            ห้องพักแต่ละชั้นจะเรียงขนาบทั้งสองข้างเรือ เมื่อขึ้นเรือมาแล้วจึงไปยังห้องพักได้ค่อนข้างง่าย หลังจากนำสัมภาระไปเก็บที่ห้อง วินาทีจากนี้คือการพัก... แต่ยังไม่ทันผ่อน เสียงประกาศจากลูกเรือดังขึ้น มีเนื้อหาทำนองว่า “ให้ผู้โดยสารทุกคนไปรวมตัวกันที่จุดรวมพลชั้น 7 โดยแบ่งเป็นโซนแต่งต่างกันไป” ทุกคนดูจะเชื่อฟัง (ซึ่งก็ควรเชื่อฟัง) ไปรวมพลกันจนหมดลำเรือ เพื่อฟังคำแนะนำและสาธิตการเอาชีวิตรอดกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น การฟังเสียงสัญญาณเตือนภัย, การสวมเสื้อชูชีพ เห็นความพร้อมแบบนี้ก็อุ่นใจ

            ที่ชั้น 7 นอกจากจะเป็นจุดรวมพล บริเวณกลางเรือยังเป็นรีเซฟชั่นอีกด้วย ถ้าต้องการติดต่อหรือขอความช่วยเหลือต่างๆ นานา ที่เดียวจบ

            เย็นย่ำตามเวลา เรือหรูลำนี้ล่องออกจากท่าเรือแหลมฉบัง ความเป็นเมืองท่าอุตสาหกรรมค่อยๆ ห่างไกลเราไปทุกทีๆ กลายเป็นผืนน้ำและเส้นขอบฟ้าที่ไม่รู้ว่าสิ้นสุดที่ไหนเข้ามาแทนที่ ไม่นานนัก ดวงอาทิตย์กลมโตก็ลับหายไปตรงรอยต่อของน้ำและฟ้า ถึงทอดสายตาไปแล้วจะมืดมิด แต่ที่นี่กำลังสว่างไสวด้วยแสงไฟ และด้วยความที่เรือ Superstar Gemini ลำนี้จุนักท่องเที่ยวได้ถึง 1,500 คนทีเดียว ตัวเรือประมาณ 11 ชั้น แต่ละชั้นแบ่งสัดส่วนเป็นห้องอาหาร ห้องพัก รวมไปถึงสระว่ายน้ำ และห้องแสดงโชว์ต่างๆ รวมถึงร้าน Duty Free ถึงบางอย่างจะมีเวลาปิด แต่ก็เรียกได้ว่าราตรีนี้เสมือนไม่มีหลับใหล

            ว่ากันว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง ถ้าอิ่มท้องก็น่าจะทำให้การเดินทางพักผ่อนนั้นดีงามที่สุด สำหรับเรื่องอาหารการกิน เรือลำนี้มีอาหารพร้อมเสิร์ฟให้ครบทุกมื้อทุกวันตั้งแต่ออกเรือยันกลับ โดยที่เลือกประเภทอาหารได้ตามใจ จากห้อง 11 ห้อง ซึ่งเป็นเมนูนานาชาติฝีมือเชฟมือรางวัล ทำให้อาหารแต่ละมื้อไม่ธรรมดาเลย

            หลังมื้ออาหารหากใครไม่ง่วงจะเดินเล่นที่ดาดฟ้าเรือ หรือจะชมการแสดงที่สลับสับเปลี่ยนไปในทุกคืนทั้งสวยงาม เร้าใจ บางการแสดงแอบเซ็กซี่ด้วย โดยศิลปินจากทั่วโลกที่ Stardust Lounge

            หรือใครพลังเหลือก็ไปปลดปล่อยได้ที่ King Neptune Health Club ฟิตเนสขนาดไม่ใหญ่แต่อุปกรณ์ออกกำลังครบครันและได้มาตรฐาน แถมยังมีเทรนเนอร์คอยดูแลให้คำแนะนำตลอด

            สำหรับนักเดินทางขี้เซา การกลับเข้าห้องนอน ไปซุกตัวใต้ผ้าห่มอุ่นๆ บนเตียงนุ่มๆ แล้วปล่อยให้รัตติกาลทำหน้าที่ของมันไปคือทางเลือกที่ดีไม่น้อย ซึ่งห้องพักก็แบ่งเป็นหลายประเภทแต่งต่างกันตามราคา คือ ห้อง Window มี 2 เตียงนอน มีโซนโต๊ะและโซฟานั่งเล่นในห้อง นอนได้นั่งชิลก็ได้ มีห้องน้ำในตัว และมีหน้าต่างชมวิว ยามค่ำคืนมองออกได้เห็นผืนน้ำในเงามืด พอตอนเช้าก็รับอรุณด้วยวิวท้องทะเล

            ต่อไปคือห้อง Junior Suite ห้องนี้เป็นห้องสวีทที่กว้างขวางมาก เหมือนห้องสวีทในโรงแรม แบ่งเป็นสัดส่วน มีโซนโซฟายาวให้นั่งเล่นสบายๆ โซนห้องนอนที่มีม่านกั้นให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ห้องน้ำในตัว มีอ่างอาบน้ำ รวมไปถึงมินิบาร์ที่จะมาเติมให้ฟรีทุกวัน

            ตามมาด้วยห้อง Executive Suite ซึ่งแบ่งสัดส่วนในห้องพักเช่นกัน ทั้งโซนโซฟานั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ ซึ่งทุกห้องยังมีป้ายเตือนบอกในเรื่องของความปลอดภัยในเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินอีกด้วย และห้อง Balcony ห้องที่เน้นโทนสีเขียวสบายตาให้ความรู้สึกสดชื่น ห้องนอนจะอยู่ใกล้กับหน้าต่าง แต่มีม่านกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว รวมถึงมีโต๊ะ และเก้าอี้นั่งเล่นอยู่ริมหน้าต่างไว้ชมวิวได้ทั้งวัน (ถ้าเป็นพวกติดห้องนอน)

            ปิดท้ายด้วยห้อง Inside State Room เป็นห้องที่มี 2 เตียงนอน มีมุมโซฟาไว้นั่งเล่น มีห้องน้ำในตัวเช่นกัน แม้ห้องนี้จะไม่มีหน้าต่างแต่กลับไม่ทำให้อึดอัดแต่อย่างใด อาจเพราะการตกแต่งที่ออกแบบมาให้รู้สึกโล่งสบาย แม้ห้องส่วนมากจะขนาดกะทัดรัด ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์บนพื้นที่จำกัด แต่เชื่อเถิดว่าพักผ่อนสบายไม่รู้สึกแย่แน่นอน

            แต่การล่องเรือสำราญไม่ใช่แค่การใช้ชีวิตอยู่บนเรือ เพราะในทุกๆ วัน เรือจะเข้าเทียบท่าเมืองท่องเที่ยวต่างๆ อย่างที่แรกในเช้าแรก เรือเทียบท่า เมืองสีหนุวิลล์ (Sihanoukville) เมืองตากอากาศชายทะเลชั้นนำของประเทศกัมพูชา ที่ได้ชื่อว่ามีชายหาดขาวสวยและน้ำทะเลใส

            ย้อนไปเมื่อก่อนจะเกิดสงครามกลางเมืองในกัมพูชา เมืองสีหนุวิลล์เคยเป็นเมืองรีสอร์ทสไตล์ฝรั่งเศสสุดหรูอันเป็นที่โปรดปรานของเหล่าคนดังและมหาเศรษฐี ทว่าเมื่อเกิดความไม่สงบ เมืองท่าเล็กๆ แห่งนี้ต้องเผชิญกับวิกฤต การทิ้งระเบิด และถูกปล่อยปละละเลย แต่ในที่สุดก็พลิกฟื้นพัฒนามาจนเกือบถึงจุดสูงสุดอีกครั้งหนึ่ง ในโฉมหน้าของเมืองรีสอร์ทริมทะเลอันหรูหราของกัมพูชา

            พระเอกของที่นี่คือชายหาด เป็นชายหาดเขตร้อนที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยกย่องว่าสวยงาม มีหาดทรายสีขาวเนียนตัดกับน้ำทะเลสีคราม ชายหาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดใน สีหนุวิลล์ คือ หาดสุกขา (Sokha) ที่พักของที่นี่มีให้เลือกมากมายตั้งแต่เกสต์เฮ้าส์ราคาประหยัดไปจนถึงรีสอร์ทสุดหรู

            ความยอดนิยมของหาดสุกขาทำให้มีนักท่องเที่ยวล้นหลาม โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว จนทำให้หลายคนหันไปเที่ยวหาดหินพาราไดซ์ (Paradise) ในอ่าวติดกัน หรือถัดออกไปทางใต้ก็เป็นที่ตั้งของหาด Ochheuteal ส่วนทางเหนือสุดของสีหนุวิลล์คือหาด Independence เป็นที่ตั้งของโรงแรม Independence โรงแรมเก่าแก่ที่ยังคงยืนหยัดมาตั้งแต่ช่วงที่เจริญสูงสุดของเมือง

            หากเดินเลียบไปตามหาด Serendipity และหาดสุกขา คือแหล่งชิลเอ้าท์ของนักท่องเที่ยวที่อยากหาเครื่องดื่มดับกระหาย หรือกินอาหารที่ร้านอาหารริมทะเล แม้ในสายตานักท่องเที่ยวบางคนจะหวั่นๆ กับที่นี่สักหน่อย แต่ที่นี่กลับเป็นมิตรอย่างเหลือเชื่อ ทั้งผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า หรือแม้กระทั่งนักท่องเที่ยวด้วยกัน บางทีอาจเจอเพื่อนดีๆ ที่นี่ก็ได้

            อีกจุดเด่นที่อาจจะน่ารักกว่าหาดทรายหรือทะเล คือ ที่นี่ไม่เอาเปรียบเรื่องราคาเครื่องดื่มและอาหารแม้จะมีสถานะเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ไม่ว่าจะด้วยค่าครองชีพที่นี่ถูกกว่าบ้านเราหรือไม่ แต่ก็ทำให้คุณเที่ยวที่สีหนุวิลล์ได้อย่างเต็มที่โดยที่จ่ายน้อยกว่าจนต้องประหลาดใจ

            การเดินทางไม่ได้จบที่นี่ ดังนั้น เราจึงขึ้นเรือเพื่อเดินทางต่ออีกครั้งในอีกค่ำคืน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ยังพร้อมให้ผู้โดยสารได้ใช้บริการ แล้วผ่านไปอีกค่ำคืนกระทั่งเช้าวันใหม่ซึ่งเรือจะเทียบท่าที่ เกาะสมุย เกาะอันเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่โดดเด่นด้วยชายหาดสวยงามและอีกสารพัดสิ่งที่มัดใจนักท่องเที่ยวไทยและเทศได้แน่นอน

            สำหรับหาดยอดนิยมของเกาะสมุยมีมากมาย เช่น หาดเฉวง ชายหาดที่โด่งดังที่สุดของเกาะสมุย ดังและนิยมถึงขั้นว่าจะได้เห็นแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเต็มหาด ว่ากันว่าหาดทรายที่นี่สวยที่สุดบนเกาะสมุย มิหนำซ้ำน้ำทะเลยังสะอาด ใส เหมาะแก่การเล่นน้ำมากทีเดียว ถนนหน้าหาดเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและผับ ยามค่ำคืนจะคึกคักมาก

            สำหรับหาดนิยมอันดับสองอย่าง หาดละไม เด่นดังด้วยความสวยของโค้งอ่าว ที่มีทิวมะพร้าวปลูกอยู่เป็นแนว นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาพักในย่านนี้เพราะอยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิว แถมยังมีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง หินตาหินยาย อยู่ไม่ไกลอีกด้วย ซึ่งนับเป็นแลนด์มาร์คที่คนมาเยือนสมุยต้องไม่พลาด จากตำนานเรื่องเล่าความรักของสองตายายที่กลายเป็นหินก้อนใหญ่อยู่ริมทะเล ทุกวันนี้ทางเข้าหินตาหินยายยังเป็นแหล่งขายของฝากอย่างกาละแมร์ที่มีให้เลือกอยู่หลายเจ้า

            ส่วนคนที่ชอบความโลคัล บ้านๆ หาดแม่น้ำ คือคำตอบ เพราะย่านนี้เป็นชุมชนเก่าแก่นับร้อยปี บ้านบางหลังชาวบ้านเปิดเป็นที่พักแบบโฮมสเตย์ บรรยากาศดีมาก ทำกิจกรรมริมชายหาด หรือนั่งรับลมทะเลสบายๆ ส่วนคืนวันเสาร์ที่นี่จะบรรยากาศคึกคักเพราะมีถนนคนเดิน อีกที่คือ หาดบางปอ ที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้านบนเกาะสมุย และชาวบ้านในท้องถิ่น ที่นี่คือสวรรค์ของซีฟู้ดเลิฟเว่อร์ เพราะมีร้านอาหารทะเลอร่อยๆ ให้เลือกเรียงรายตลอดทาง

            และที่ห้ามพลาดอีกจุดคือไปไหว้พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ที่ วัดพระใหญ่ ซึ่งประดิษฐานตรงกลางแจ้งบนยอดเขาปลายสุดด้านเหนือของเกาะ ที่นั่นชมวิวพระอาทิตย์จากมุมสูงได้ด้วย

            เที่ยวเสร็จก็เช่นเคย ต้องกลับขึ้นเรือ แล้วดื่มด่ำกับความสะดวกสบาย ความบันเทิง อาหารอร่อย และการพักผ่อนเหนือระดับ เหนือน่านน้ำทะเลไทยเพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ท่าเรือนานาชาติแหลมฉบัง

          ทุกวินาทีบนเรือสำราญลำนี้ คือเครื่องยืนยันว่าสิ่งที่พี่คนนั้นบอกผมไว้ว่า “ถ้าไม่เคยไปล่องเรือสำราญ ก็ควรลองสักครั้งนะ” นั้นไม่จริง เพราะจะไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่ผมจะแสวงหาความสำราญแบบนี้

***หมายเหตุ

สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีรับส่วนลดสูงสุดถึง 65 เปอร์เซ็นต์ จากราคาปกติ พร้อมรับบริการแบ่งชำระสบายๆ กับ KTC FLEXI 0 เปอร์เซ็นต์ นาน 4 เดือน เพียงจองผ่านบัตรเครดิตเคทีซีที่ควอลิตี้ เอ็กซ์เพรส โทร.1606 และหนุ่มสาวทัวร์ โทร. 0 2625 1555 วันนี้ – 31 มกราคม 2561 ติดตามแคมเปญการตลาดด้านการท่องเที่ยวได้ที่ www.ktcworld.co.th เฟซบุ๊ค ktcworld หรือ KTC Line Official หรือติดต่อ KTC World Travel Service โทร. 0 2123 5050