'โหรฟองสนาน' เผยดวงเมืองเครื่องมือฝ่าจันทร์ล่าราหู-ราหูค้นทรัพย์ และเมืองถูกบีบ
"โหรฟองสนาน" เผยดวงเมืองเครื่องมือฝ่าจันทร์ล่าราหู-ราหูค้นทรัพย์ และเมืองถูกบีบ จะให้คุณคุ้มค่ากับการฟันฝ่า-กล้าเปลี่ยนแปลง-ทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ
“ฟองสนาน จามรจันทร์” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Fongsanan Chamornchan โดยระบุว่า แม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 329 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ เครื่องมือฝ่าจันทร์ล่าราหู-ราหูค้นทรัพย์และเมืองถูกบีบ
ดวงเมืองรัตนโกสินทร์
พระราหูศรีจร (8) ดวงเมืองเดินอยู่ในราศีพฤษภระหว่าง 10 กันยายน 2563-29 มีนาคม 2565
พระอังคารกาลกิณีจร (3) เดินในราศีเมษ 10 สิงหาคม- 10 ตุลาคม 2563
เดินผิดปกติระหว่างราศีเมษและมีนระหว่าง 10 ตุลาคม- 24 กุมภาพันธ์ 2564
พฤหัสบดิ์-เสาร์-ราหู ทั้งสามหมู่มาเป็นศรี
ต้องลัคน์-จันทร์สังฆี ปวัติติสามีอาราม
บริบูรณ์ปริขาร ไทยทานก็เหลือหลาม
ขึ้นชื่อระบือนาม วรศักดิ์สังฆราช์
แม้จวบพระเคราะห์ใด ทวะเว้นไว้แต่ตัวกาล์
กล่าวคุณอุตม์มหา มหิทธิโชคในปางปี
จากลิลิตทักษาพยากรณ์ พระนิพนธ์เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี
โคลงบทนี้จะชี้แนวทาง-บอกเครื่องมือที่จะใช้ฟันฝ่าสามปรากฎการณ์ใหญ่ที่รอจะเกิดในเมืองรัตนโกสินทร์ตั้งแต่10กันยายน 2563-24กุมภาพันธ์ 2564 (เป็นอย่างเร็ว) ซึ่งผู้เขียนจะได้อธิบายความหมายต่อไป
แต่นอกจากปรากฎการณ์จันทร์ล่าราหู(ศรีจร) และราหู(ศรีจร)ค้นทรัพย์ดวงเมืองที่ผู้ได้อธิบายไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น อยากจะขอพูดถึงปรากฎการณ์ที่สามที่ซ้อนเข้ามาคือปรากฎการณ์เมืองถูกบีบ-คลาย-บีบว่ามาจากอะไร
หลักนี้เกิดจากการที่ดาวร้ายหรือบาปเคราะห์บีบ-หน้า-หลังลัคนาเมืองที่สถิตราศีเมษ โดยปรากฎการณ์รอบนี้เกิดจาก
1.พระราหูศรีจร(8) ที่เดินตามเข็มนาฬิกาจะเริ่มย้ายจากมิถุนเข้าพฤษภอยู่หน้าราศีเมษที่ลัคนาเมืองสถิตอยู่ตั้งแต่10กันยายน 2563 เป็นต้นไปเป็นตัวตั้งต้นขบวนการบีบเมืองไปถึง29มีนาคม 2565แล้วรอดาวร้ายอื่นมาร่วมปรากฎการณ์เป็นระยะๆเช่นรอบแรกคือ
2. ครั้นตั้งแต่ประมาณ 10 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป พระอังคารกาลกิณีจร(3) ดวงเมืองจะเดินผิดปกติจากเมษถอยหลังเข้าราศีมีนอยู่หลังลัคนา ร่วมขบวนการบีบลัคนาเมืองให้อยู่ตรงกลาง หลังจากนั้นพระอังคารกาลกิณีจรนี้จะเดินเข้า-ออกระหว่างราศีเมษกับมีนไปถึง 24 กุมภาพันธ์ 2564 (อยู่เมษทับลัคนาทับอาทิตย์(1)ดวงเดิมดวงเมือง)
ฉะนั้นระยะประมาณ 10 กันยนยน 2563 เป็นต้นไป ปรากฎการณ์บีบ-คลาย-บีบในเมืองจะเกิดเป็นระยะๆ แล้วจะหยุดบีบรอบนี้คือเมื่อพระอังคารกาลกิณีจรนี้เข้าไปเดินพฤษภตั้งแต่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป
ด้วยปรากฎการณ์ทั้งหลายนี้ผู้เขียนจึงยังย้ำเหมือนเดิมคือสำหรับท่านที่ติดตามบทความที่ไม่ได้เรียนหรือมีความรู้พื้นฐานทางโหราศาสตร์ ก็ขอสรุปภาพกว้างๆให้ทราบไว้แต่เพียงว่า ตั้งแต่ประมาณ 10กันยายน 2563เป็นต้นไปจะเริ่มมีปรากฎการณ์อลวนสำคัญทั้งดี-ร้ายในเมือง(ดาวใหญ่เดินผิดปกติหลายดวง-บวกจันทร์ล่าราหูและราหูค้นทรัพย์)ทั้งทางเศรษฐกิจ-การเมือง-ภัยพิบัติขนาดใหญ่จนบางระยะเหมือนเมืองถูกบีบ-คลาย-บีบสลับกันไป ถึงอย่างต่ำวันที่24กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อเดินหน้าสู่วันเกิดดวงเมืองที่21 เมษายน 2564 อันเป็นหมุดหมายของปีทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
ทีนี้ มาว่ากันถึงเครื่องมือที่เมืองจะใช้ฟันฝ่าไป ถึงอย่างต่ำวันที่24กุมภาพันธ์ 2564 ตามโคลงที่ขึ้นไว้ตั้งแต่ต้นอธิบายว่า ดวงชะตาใดก็ตาม หากปีใดที่ตามหลักทักษาแล้วพฤหัสบดีเป็นศรีจร-หรือพระเสาร์เป็นศรีจรหรือพระราหูเป็นศรีจร หากปฏิรูปตัวเองครั้งใหญ่(ไปตามรายละเอียดของแต่ละดวงชะตา)แล้วละก็ จะเหมือนกับพระเจ้าคณะลุกขึ้นมาปรับปรุงคณะของท่านเป็นการใหญ่ ผลคือเงินบริจาคไหลมาเทมา ท่านได้เป็นพระราชาคณะ หรือหากวาสนาสูงพอจะได้เป็นถึงพระสังฆราช
นั่นคือจะได้มหิทธิโชค ซึ่งความหมายตามพจนานุกรมแปลว่า มีฤทธิ์มาก, มีความสำเร็จใหญ่ คือทำการใหญ่ๆ ได้สำเร็จโดยไม่มีอะไรขัดขวาง
อาการเช่นว่านี้ในชีวิตของคนเก้าปีจะมีจังหวะดีๆให้สามปี หากท่านใดมาดูดวงชะตาเห็นจังหวะสามปีนี้ผู้เขียนจะแนะนำให้กล้าปรับปรุงชีวิตขนานใหญ่ไปตามท้องเรื่อง(รายละเอียดของแต่ละคน)เพื่อรับโชค เพราะช่วงเวลานี้ทำแล้วจะได้มากกว่าเสีย
ตัวอย่างที่เห็นๆในเมืองรัตนโกสินทร์คือแม้จะมีเคราะห์ใหญ่จากโรคระบาดโควิด-19 ขนาดตั้งแต่ต้นปี2563 เคยเป็นประเทศอันดับสองของโลกรองจากจีนในแง่คนติดเชื้อและตาย โดยวันที่ขนหัวลุกกันคือ22มีนาคม2563ติดเชื้อรายใหม่ถึง188 คน หลังจากนั้นก็ตามมาเป็นร้อยคนต่อวัน การรับมือก็อลวนอลเวงพิกลเพราะทำงานไม่ทันใจประชาชน
ครั้นเห็นท่าจะไม่ดีจึงในระหว่างนั้นที่พฤหัสบดี ที่เป็นตัวแทนทั้งกฎหมาย และระบบสาธารณสุขกำลังเป็นศรีจรอยู่ คณะรัฐมนตรีเปลี่ยนแปลงใหญ่โดยอนุมัติให้ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เข้ารับมือโควิด-19 ตั้งแต่ 24 มีนาคม 2563 เป็นต้นมาโดยไม่รีรอ
เรียกได้ว่าเมื่อจำเป็นต้องจำกัดเสรีภาพประชาชน-ปิดประเทศ-ห้ามการเดินทาง-จำกัดเวลาออกจากบ้านฯลฯ สำคัญคือจำกัดอำนาจของรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงยึดเอาอำนาจมาอยู่ที่ศบค.ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานก็ต้องทำเพื่อความอยู่รอดถือเป็นการใช้มาตรการตีฝ่าครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ดวงเมือง
ผลจากการกระทำครั้งนั้นเริ่มพัฒนาให้เห็นตั้งแต่ 21 เมษายน 2563 ครบรอบวันเกิดเมือง 238 ย่าง239 ปีที่พระราหูเปลี่ยนมาเป็นศรีจรแทนพฤหัสบดี คือ
1.พระราหูศรีจรที่กำลังเดินอยู่ในราศีมิถุนจวบคือเล็งใส่พฤหัสบดีดวงเดิม(๕)ที่สถิตราศีธนู ให้มหา-มิหิทธิโชค ผลคือวงการแพทย์และสาธารณสุขชื่อเสี่ยงโด่งดังเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกที่หลายประเทศกล่าวขวัญถึง ขนาดอมส.ยังดังระเบิดระเบ้อ จนหากทำดีๆสามารถต่อยอดให้ไทยเป็น HUB ด้านสุขภาพได้
2.พระราหูศรีจร กำลังเดินอยู่ในราศีมิถุนจวบคือเล็งใส่พระเสาร์ดวงเดิม(๗)ที่สถิตราศีธนู อันพระเสาร์นี้เป็นตัวแทนรัฐบาล-การแบกภาระหนัก-การบริหารราชการแผ่นดิน ผลคือรัฐบาลโดยรวมเข้มแข็งขึ้นโพลล์ออกมาดีกว่าเดิม อีกทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯก็ออกทีวี.พูลรุกชวนคนไทยมีส่วนร่วมบริหารประเทศแบบนิวนอมอล เรียกได้ว่ารุกเต็มที่
ครั้นตั้งแต่ 10 กันยายน 2563 เป็นต้นไปพระราหูศรีจรจะย้ายจากมิถุนเข้าราศีพฤษภ สร้างปรากฎการณ์จันทร์ล่าราหู-ราหูค้นทรัพย์-และเมืองถูกบีบ-คลายคลาย-บีบ แต่ความเป็นศรีจรของพระราหูก็จะให้คุณคุ้มค่ากับการฟันฝ่า-กล้าเปลี่ยนแปลง-ทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ
ซึ่งตอนหน้าจะได้หาตัวอย่างมาให้ดูว่าการยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง-ตีฝ่าของเมืองเพื่อให้ได้มหา-มหิทธิโชคเน้นไปด้านเศรษฐกิจนั้นเคยมีหรือไม่และทำแล้วผลเป็นอย่างไร?
ฟองสนาน จามรจันทร์
19 มิถุนายน 2563