ชวนไปเก็บองุ่น ช้อปของดี ที่งาน ‘เขาใหญ่ม่วนซื่น’

"ภาคเอกชน จะไปรอภาครัฐไม่ได้ รอไปก็ตาย เราไม่ได้มีเงินเดือนเหมือนราชการ ก็ต้องดิ้นรน ที่เขาใหญ่ตอนนี้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กกำลังแย่ โดยเฉพาะโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร

พันชนะ วัฒนเสถียร

แต่ผู้ประกอบการขนาด 4 ดาวขึ้นไปยังดี เพราะโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จากห้องพักราคา 4,000-5,000 บาทเหลือ 2000 บาทต้น ๆ ทำให้มีนักท่องเที่ยว แต่พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนไป การเข้าพักของพวกเขามีการเตรียมตัวแค่ 24 ชั่วโมงล่วงหน้า ไม่ตัดสินใจนาน เนื่องจากต้องดูสถานการณ์ที่กรุงเทพฯหรือถิ่นพำนักของเขาก่อน" พันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ จ. นครราชสีมา เล่าถึงสถานการณ์ล่าสุด

 

• เริ่มต้นที่ตัวเองก่อน

"ที่ยังเป็นปัญหาคือ ลูกค้ากรุ๊ปไม่มีเลย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาบอกว่าให้คนในจังหวัดเที่ยวกันเอง ให้หน่วยงานราชการจัดสัมมนากันเอง เช่น อยู่วังน้ำเขียวก็มาสัมมนาที่พิมาย อยู่พิมายก็มาสัมมนาที่ปากช่อง กว่าจะเกิดได้ ก็คงต้องปลายกุมภาพันธ์หรือมีนาคม เพราะระบบราชการต้องใช้เวลา ซึ่งเราจะมารอก็ไม่ได้

ขาย ของ เขา (ใหญ่ )

เราเลยจัดกิจกรรม ‘ขายของเขาใหญ่’ ครั้งนี้เป็นครั้่งที่ 5 แล้ว เกิดจากโรงแรมเล็ก ๆ ว่าง พนักงานว่าง ก็ไปเก็บมะขาม ไปทำโน่นทำนี่ ใครมีฝีมืออะไรก็ทำออกมาขาย แล้วไปจัดอีเวนท์ที่ฟาร์มโชคชัยบ้าง ที่หน้าซีพีเฟรชมาร์ท ปากช่องบ้าง

ในแต่ละสัปดาห์จะมีร้านจากผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกในสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ฟาร์มบ้าง โรงแรมบ้าง มาเข้าร่วมงานประมาณ 10-20 แห่ง คิดว่าจะรวมตัวไปขายที่บองมาเช่ กรุงเทพฯ ที่หน้าโรงแรมฟอร์จูน พระราม 9 บ้าง เพราะเราก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้จะอีกนานไหมกว่าจะดีขึ้น" นายกสมาคมฯ เล่า

 

• ร่างแผนช่วยชุมชน

"เรากำลังทำแผนยุทธศาสตร์เขาใหญ่ ร่วมกับผู้ประกอบการและเกษตรกร เพื่อเน้นการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เชิงนิเวศ เพราะจังหวัดเราเป็นธนาคารความมั่นคงทางด้านอาหารเกษตรอินทรีย์ จะมีการจัดงาน Chef’s Table ร่วมกับ Michelin Star Chef ทุกเดือน เพื่อปิดจุดอ่อนโลว์ซีซันของเขาใหญ่ให้ได้ ครั้งที่ 1 จะเริ่มจัดวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564

ขาย ของ เขา (ใหญ่)

ในงานจะเชิญ เชฟหนุ่ม ธนินธร จันทรวรรณ เจ้าของรางวัล Michelin Star 4 ปีซ้อน มาเป็นผู้รังสรรค์เมนู โดยใช้วัตถุดิบที่ปลูกหรือผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในอำเภอปากช่องและในจังหวัดนครราชสีมาเป็นหลัก เช่น ข้าวโพดไร่สุวรรณ, มะเขือเทศจากด่านขุนทด, กรีนบีนออร์แกนิค, Sweet & Green ออร์แกนิค, องุ่นจากไร่ GranMonte, ปลาร้าจากเป็นลาว

แล้วก็มีไวน์เมคเกอร์ นิกกี้-วิสุตา โลหิตนาวี นักทำไวน์ระดับโลกคนแรกของเมืองไทย มาคัดสรรไวน์ให้ทุกคน ท่ามกลางบรรยากาศไร่องุ่นไวน์ ที่ GranMonte Vineyard and Winery พร้อมด้วยบริการจากทีมบัตเลอร์ภายใต้การดูแลของ White Glove Service by World Reward Solutions

ชวนทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์ในหุบเขาแห่งความสุขกับฤดูกาลเก็บเกี่ยวองุ่น ชื่องานว่า Dining Experience in Khao Yai with Michelin Star Chef ครั้งที่ 1 เป็น Private Dinner หนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ ‘เขาใหญ่ม่วนซื่น’ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวตลอดปี 2564-2565

เราสร้างสรรค์กิจกรรมนี้ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าพรีเมียมที่ต้องการประสบการณ์แปลกใหม่ เป็นการทำงานร่วมกับคนในพื้นที่ เพื่อจับกลุ่ม Gastronomic Tourism การท่องเที่ยวเชิงศิลปะอาหาร เพราะที่ผ่านมาพบว่ายังมีกำลังซื้อในระดับบน แต่ในระดับล่างหดตัวมาก น่ากลัวมาก กังวลว่าถ้าหมดโครงการเที่ยวด้วยกันแล้ว มันจะเป็นยังไง" นายกสมาคมฯ เล่า และพูดถึงอนาคตอันใกล้ว่า

เร็ว ๆ นี้โคราชจะมีจัดการประชุมระดับอินเตอร์ เข้าสู่งานพืชสวนโลกในปี 2029 และเป็นเจ้าภาพ Korat Biennale 2021 โคราชกำลังจะเป็นเมือง MICE จัดกิจกรรมศิลปะสอดรับกับนโยบายใหญ่ เป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะมากมายหลายสิบแห่ง อาทิ 129 Art Museum, หอศิลป์ Palazzo Pavone ของอ.ประหยัด พงษ์ดำ, หอศิลป์พิมานทิพย์ ที่รวบรวมผลงานพระอัจฉริยภาพด้านศิลปะในศาสตราจารย์ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี, หอศิลป์ซันวากรุ๊ป

โครงการ ‘เขาใหญ่ม่วนซื่น’ ที่เราทำ เป็นการเอาของดีปากช่อง เขาใหญ่ มาจับคู่ ดึงความเป็นจุดเด่นเอกลักษณ์ของเขาใหญ่ออกมา อย่างเทศกาลทุเรียน ก็จัดครีเอทอาหารจากเมนูทุเรียน เราเป็นเมืองที่มีศักยภาพในเรื่องอาหารการกิน และเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่สองรองจากกรุงเทพมหานคร อีกทั้งมีการท่องเที่ยวที่หลากหลาย"

• ธรรมชาติสำคัญที่สุด

"ในช่วงสองปีนี้เราเน้นดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม มีโครงการ ‘ปิ่นโตโกราวนด์’ ให้นักท่องเที่ยวยืมปิ่นโตไปใช้ในระหว่างเดินทางในเขาใหญ่หรืออุทยานฯ จะได้ไม่มีขยะเยอะ เราต้องช่วยกัน ทำให้เกิดการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน" นายกสมาคมฯ เล่า และอยากฝากบอกผู้ที่เดือดร้อนจากสถานการณ์โควิดว่า

"สิ่งสำคัญในช่วงนี้คือ เราต้องพัฒนาตัวเอง ไม่หยุดการเรียนรู้ แล้วก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พร้อมที่จะปรับตัว วัคซีนไม่ได้เป็นทุกสิ่ง เรารอไม่ได้ เราทุกคนต้องสวมเสื้่อชูชีพเอาไว้ เหมือนเราโต้คลื่นอยู่ตลอดเวลา ไวรัสโควิดสอนเราว่า มนุษย์อยู่คนเดียวไม่ได้ เห็นแก่ตัวไม่ได้ ทำลายธรรมชาติมากไม่ได้

สมมติว่าธรรมชาติที่เขาใหญ่ถูกทำลาย หรือถ้าเขาใหญ่ มี PM 2.5 จะมีคนมาเที่ยวไหม ? มันเป็นหน้าที่ที่เราต้องช่วยกัน นักธุรกิจจากต่างถิ่นที่มาอยู่เขาใหญ่ มาลงทุนเป็นร้อย ๆ ล้าน แต่ถ้าธรรมชาติพังก็ไม่รอดเหมือนกัน ไม่ได้หมายถึงคนตัวใหญ่รอด คนตัวเล็กไม่รอด แต่มันคือทั้งหมด ทั้งองคาพยพ

ขาย ของ เขา (ใหญ่)

เราจึงคิดโครงการต่าง ๆ มาทำงานร่วมกันบนพื้นฐานของการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ถ้าเราไม่คิดถึงสิ่งแวดล้อม ต่อไปคุณก็ทำอย่างนั้นไม่ได้ เราขอความร่วมมือจากรัฐเท่าที่จำเป็น แต่เราก็รอไม่ได้ ถ้ามัวแต่รอ เราก็ตายพอดี หรือถ้ารัฐช้า คนก็ตายอยู่ดี ยิ่งช่วงนี้เดินทางต่างประเทศไม่ได้ ก็ต้องกลับมาพัฒนาบ้านตัวเอง เรามีของดีเยอะมาก"