เดินป่าไปดู ‘นาคี’ ที่ ‘อุทยานแห่งชาติภูลังกา’
เดินป่าศึกษาธรรมชาติบนเส้นทางใหม่ของ “อุทยานแห่งชาติภูลังกา” ที่ไม่ต้องจองคิวแต่ครบรสของธรรมชาติ ตั้งแต่พืชพรรณ เพิงถ้ำ และความสวยงามตลอดทาง
ผมห่างหายร้างรา อุทยานแห่งชาติภูลังกา มานาน ทั้งๆ ที่เคยไปเที่ยว เดินป่า ที่นี่มาตั้งแต่ที่อุทยานแห่งนี้เริ่มจัดตั้งตั้งแต่ปี 2539 ซึ่งเดิม “อุทยานแห่งชาติภูลังกา” นั้นขยับฐานะมาจากวนอุทยาน แล้วก็เวียนมาเวียนไปอีกหลายครั้ง จนมาห่างๆ ในระยะหลัง
“อุทยานแห่งชาติภูลังกา” มาฮือฮาอีกทีก็เมื่อมีการค้นพบ ถ้ำนาคา ทางฝั่งบึงโขงโหลง และมีการเผยแพร่ น้ำตกตาดวิมานทิพย์ ซึ่งก็อยู่ติดกันนี่แหละขึ้นเมื่อไม่กี่ปีนี่เอง อย่างกรณีตาดวิมานทิพย์ น้ำตกมันก็มีมานาน แต่ทำไมเพิ่งมาเป็นที่รู้จักกัน ก็เพราะว่าแม้น้ำตกมันจะสวย สูง ก็จริง แต่มันมีน้ำเฉพาะหน้าฝน แค่พอเดือนตุลา ที่ฝนไม่ตก น้ำตกนี้ก็แห้งหมดแล้ว ช่วงเวลาที่น้ำตกนี้มีน้ำมันจึงสั้นมาก และมาฮือฮาก็เมื่อมีการค้นพบเจอถ้ำนาคานี่เอง
ความฮิตของ “ถ้ำนาคา” มีมากจนขนาดว่าทำเอาอำเภอเล็กๆ อย่างบึงโขงโหลง กลายเป็นอำเภอที่คึกคักขึ้นมาทันที ที่พักซึ่งมีอยู่ไม่มากนี่เต็มตลอด แล้วยังเผื่อแผ่อานิสงส์ไปจนถึงอำเภอใกล้เคียง ทำให้ที่พักหายากยิ่งในช่วงวันหยุดต่างๆ ยิ่งแล้ว และทำให้ทั้งจังหวัดบึงกาฬและจังหวัดนครพนมคึกคักไปด้วย แล้วคนจะขึ้น “ถ้ำนาคา” นี่เขาให้วันละ 430 คน ทุกคนต้องจองล่วงหน้า แล้วเต็มยาวไปเป็นเดือนๆ ซึ่งมันทำให้บางคนที่ไปตั้งไกล แล้วไม่ขึ้น รู้สึกผิดหวังไปด้วย
แต่...ไม่ต้องเสียใจครับ เพราะ “อุทยานแห่งชาติภูลังกา” เขามีเส้นทางศึกษาธรรมชาติใหม่ คึกคัก สนุกสนาน เดินใกล้กว่า และมีธรรมชาติหลากหลายกว่าชื่อ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกตาดโพธิ์-หัวนาคี-ผานาคี”
ที่นี่ไม่ต้องจองก็ได้ครับ เพราะเส้นทางมันไม่ไกลมากนัก คนจะถ่ายเทได้ตลอด เส้นทางนี้ ใช้เวลาเดินราว 2 ชม. ก็พอ หรือถ้าใครโอ้เอ้ ก็ใช้เวลามากกว่านั้นก็ไม่มีใครว่าอะไร ท่านก็ไปเริ่มต้นที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูลังกาตรงน้ำตกตาดโพธิ์ (ห่างจากสี่แยกไฟแดงเข้า อ.บ้านแพง นครพนม ราว 7-8 กิโลเมตร (ตรงบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูลังกานี้ มีลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ ไฟฟ้าไว้บริการเสร็จสรรพ)
ก็จะเริ่มเดินเท้าที่ลานจอดรถ ในช่วงแรกจะเป็นเส้นทางเดินเลียบ “น้ำตกตาดโพธิ์” จะเจอชั้น 2-3 ซึ่งเขาก็จะตั้งชื่อแต่ละชั้น ชั้น 2 ก็ผาสวรรค์ ชั้น 3 ก็ไทรงาม ซึ่งน้ำตกตาดโพธิ์นี่จริงๆ มี 10 ชั้น แต่ชั้นอื่นๆ ก็จะแยกตรงชั้น 3 นี้ รวมทั้ง การขึ้นไปหาหัวนาคีก็เช่นเดียวกัน จะเป็นทางเดินแบบธรรมชาติสลับกับมีบันไดเล็กให้เป็นระยะๆ ซึ่งต่อไปก็จะเป็นน้ำตกตาดโพธิ์ชั้นที่ 4 ผางอย ซึ่งเป็นน้ำตกสูงใหญ่ ตามภาพ แล้วต่อจากนี้ ก็จะเป็นเส้นทางไปเยือนหัวนาคี เส้นทางจะมีทั้งมุดผา เดินขึ้นตามบันไดเหล็ก มุดช่องหิน เป็นที่สนุกสนาน มีเพิงถ้ำน้ำซับ ที่เขาเอาพระพุทธรูปไปประดิษฐานไว้ในเพิงถ้ำ
หัวนาคีที่เขาพูดถึง ก็เป็นแท่งหินทรายปลายมนๆ ที่มันแหลมโผล่ออกมา เป็นเพิงบ้าง วางอยู่กับพื้นบ้าง คือต้องจินตนาการ เพราะมันดูคล้ายหัวปลาไหลหรือหัวปลาช่อนมากกว่า แต่จะมีอยู่หัวหนึ่งที่อันนี้ดูคล้ายจริงๆ ถ้าท่านผู้อ่านเคยเห็นหัวพญานาคที่เขาปั้นไว้ตามวัด มาดูหัวนี้จะ คล้ายจริงๆ มีส่วนลำตัว มีหัว มีปากมีหน้า มีหงอนด้วยอีกต่างหาก หลังจากนั้น จะมีทางเดินขึ้นไปยังผางอย และผานาคี สามารถมองเห็นทิวทัศน์ทางฝั่งแม่น้ำโขงได้ แล้วหลังจากนั้น ก็จะมีทางเดินลง ทางเดินลงก็จะมาวนพบน้ำตกชั้นที่ 3 ไทรงามอีกครั้ง แล้วก็เดินออกไปลานจอดรถได้ ใช้เวลาก็แล้วแต่เรา
ความเห็นผม ผมว่าทางนี้น่าเดินกว่า เพราะไม่ต้องจอง ทางขึ้นไม่ชันมาก (ทางด้านถ้ำนาคาจะชันมากมาย) ระยะทางทั้งหมดไม่ไกล แล้วระหว่างเดิน จะมีนั่นนี่ให้ดูตลอดทาง มีน้ำตลอดทางเดิน ทั้งน้ำตกและน้ำซับ ด้านนี้จะมีต้นไม้บังแดดให้ตลอด จึงเย็นสบาย มีลมพัดเอื่อยๆ ด้วย ต่างกับทางฝั่งถ้ำนาคา บึงโขงโหลง ทางนั้นจะร้อน เพราะมีแต่ลานหินโล่งๆ
ถือเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ครบเครื่อง มีนั่นนิดนี่หน่อย มีเรื่องราวความเชื่อ พืชพรรณ เพิงถ้ำตลอดการเดินทาง ซึ่งนับว่าคุ้มค่ามากกับการไปเยือน ซึ่งถ้าไปจนถึงนครพนม บึงกาฬนี่ มันไกล ใช้เวลาเดินทางนาน ไปแล้วก็ต้องให้เอาคุ้ม ผมจึงขอแนะนำเส้นทางนี้
คราวนี้บรรยายไม่สนุกเท่าไปเองครับ เชิญชวนกันเลย เปิดประเทศแล้วเลยชวนกันไปพิสูจน์หัวนาคี ที่ภูลังกาครับ...
