ไวน์ขวดละแสนสอง...ในขวดพอร์ซเลนของ “โรเบิร์ต มอนดาวี”
ชื่อของ “โรเบิร์ต มอนดาวี” ฉายาเจ้าพ่อ "นาปา แวลลีย์” ยังคงเป็นอมตะ และเป็นที่ต้องการคอไวน์ทั่วโลก ล่าสุดออกไวน์รุ่นพิเศษในขวดพอร์ซเลน ผลิตจำนวนจำกัด 1,966 ขวด ราคาขวดละ 3,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.2 แสนบาท
ฉายา เจ้าพ่อไวน์ นาปา แวลลีย์ นั้นไม่ได้มาง่าย ๆ นอกจากจะผลิตไวน์คุณภาพแล้วยังมีอุปการะคุณต่อวงการไวน์แคลิฟอร์เนียอย่างมหันต์
โรเบิร์ต มอนดาวี (Robert Mondavi) แม้วันนี้เขาลาจากโลกนี้ไปแล้ว รวมทั้งไวเนอรีที่เปลี่ยนเจ้าของตามวิถีแห่งธุรกิจ แต่ชื่อเสียงบารมีของ โรเบิร์ต มอนดาวี ยังเป็นที่ต้องการของแวดวงธุรกิจไวน์ทั่วโลก ภาษาชาวบ้านคือ “ขายได้” ปัจจุบันอยู่ในอาณาจักรของบริษัท คอนสเตลเลชั่น แบรนด์ส (Constellation Brands) ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับโลก
โรเบิร์ต มอนดาวี
ผลงานล่าสุดที่ออกมาและสร้างความฮือฮาให้กับวงการไวน์คือ Robert Mondavi Winery เตรียมตัวเข้าตลาด NFT (Non Fungible Token) ด้วยการจับมือกับ แบร์นาร์โดด์ (Bernardaud) ผู้ผลิต พอร์ซเลน (Porcelain) ชื่อดังแห่งฝรั่งเศส ผลิตไวน์รุ่นพิเศษ ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 1,966 ขวดเท่านั้น ตามปีก่อตั้ง Robert Mondavi Winery ราคา ขวดละ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมาณเกือบ 1.2 แสนบาท !
เริ่มจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา และต้องซื้อที่ nft.robertmondaviwinery.com แห่งเดียวเท่านั้น
ไวน์ดังกล่าวเป็นขวดแม็กนั่ม (1.5 ลิตร) ทำด้วยพอร์ซเลน มีโลโก้ของ Robert Mondavi Winery พร้อมอักษรโรมัน MCMLXVI หมายถึง 1966 ซึ่งเป็นปีก่อตั้งของ Robert Mondavi Winery
Robert Mondavi Winery
ไวน์ในขวดพอร์ซเลน ประกอบด้วย 3 ขวด ทำจากกระเบื้องเคลือบหรือพอร์ซเลนชั้นเยี่ยม ปรุงโดย 3 ยอดไวน์เมกเกอร์ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นซูเปอร์สตาร์มือปรุงกาแบร์เนต์ (Napa Cabernet Superstar) และใช้องุ่นจากโต กาลอน วินเยิร์ด (To Kalon Vineyard) ไร่ต้นกำเนิดของ Robert Mondavi Winery ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ปลูกกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) ได้ยอดเยี่ยมของ นาปา แวลลีย์ ขณะที่ Bernardaud นั้นเป็นครั้งแรกในรอบ 150 ปีที่ทำขวดบรรจุไวน์
ไวน์หรูในขวดพอร์ซเลน
ขวดที่ 1 เป็นฝีมือการปรุงของ เฌเนวีฟ แจนส์เซนส์ (Geneviève Janssens) ไดเรกเตอร์ ไวน์เมกเกอร์สาวอมตะของ โรเบิร์ต มอนดาวี ไวเนอรี (Director of Winemaking) เป็นไวน์สไตล์บอร์กโดซ์ เบลนด์ (Bordeaux Blend) ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง 50% กาแบร์เนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) 49% และเปตีต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) 1% บรรจุขวดสีเบอร์กันดีสีม่วงแดงเหมือนสีไวน์ ฝาสีแพลตตินั่ม
ขวดที่ 2 ปรุงโดย แอนดี้ เอริกสัน (Andy Erickson) ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง เป็นหลัก 89% บรรจุขวดสีดำล้วน ที่เหลือเป็นองุ่นสายพันธุ์คลาสสิกจากฝรั่งเศส เช่นเดียวกับขวดแรก
ขวดที่ 3 เป็นขวดทรงเบอร์กันดีสีเช่นเดียวกับขวดแรกแต่ฝาขวดสีทอง ปรุงโดย โธมัส ริเวอร์ บราวน์ (Thomas Rivers Brown) ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง 100%
Geneviève Janssens
Robert Mondavi Winery นั้นก่อกำเนิดเมื่อ โรเบิร์ต มอนดาวี แยกตัวธุรกิจของครอบครัวหลังจากเกิดความขัดแย้งหลายอย่าง มาซื้อไร่องุ่นโต กาลอน (To Kalon) ซึ่งในภาษากรีกหมายถึง “ความงดงาม” อยู่ที่เมืองโอ๊ควิลล์ (Oakville) ใน นาปา แวลลีย์ เริ่มปลูกองุ่นทำไวน์ครั้งแรกในวันที่ 16 กรกฎาคม 1966 พร้อมตั้งชื่อว่า Robert Mondavi Winery
ทิม มอนดาวี
จุดมุ่งหมายหลักของ Robert Mondavi Winery คือการผลิตไวน์คุณภาพระดับโลกดังเช่นยุโรป ซึ่งเกิดจากการที่ โรเบิร์ต มอนดาวี ไปเห็นและชิมไวน์ในประเทศต่าง ๆ ในยุโรป โดย ไมเคิล มอนดาวี (Michael Mondavi) ลูกชายคนโต ดูและการขายและการตลาด ส่วน ทิม มอนดาวี (Tim Mondavi) ลูกคนสุดท้องเป็นไวน์เมกเกอร์
ไมเคิล มอนดาวี
หลังจากนั้นชื่อเสียงของ โรเบิร์ต มอนดาวี ก็เริ่มโด่งดัง โดยเฉพาะใน นาปา แวลลีย์ เขาได้ฉายาว่า “เจ้าพ่อไวน์ นาปา แวลลีย์” ในฐานะที่สร้างชื่อเสียงให้กับวงการไวน์นาปา แวลลีย์ อย่างมากมาย ขณะเดียวกันก็โด่งดังไปทั่วโลก หลังจับมือกับผู้ผลิตไวน์ในต่างประเทศ ผลิตไวน์คุณภาพระดับโลก ที่รู้จักกันดีคือ โอปุส วัน (Opus One) จับมือกับ ชาโต มูตง ร็อธชิลด์ 1 ใน 5 เสือบอร์กโดซ์ ขณะที่ในอิตาลีก็มี ไวน์ลูเช่ (Luce) ข้ามไปที่ชิลีก็มี อัลมาวีวา (Almaviva) เป็นต้น
วันที่ 22 ธันวาคม 2004 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ Robert Mondavi Winery เมื่อบริษัท คอนสเตลเลชั่น แบรนด์ส ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เข้ามาซื้อกิจการ และบริหารจัดการมาจนกระทั่งทุกวันนี้
โรเบิร์ต มอนดาวี กับภรรยาคนที่สอง
นั่นทำให้ลูก ๆ ของโรเบิร์ต มอนดาวี ต้องแยกย้ายกันไปตามวิถีของธุรกิจ และยังอยู่ในเส้นทางไวน์ ไมเคิล มอนดาวี พร้อมครอบครัวแยกตัวออกมาทำไวน์ Michael Mondavi ของตนเองในปี 1999 ผลิตไวน์หลายรุ่นและมีขายในเมืองไทย ส่วนทิม มอนดาวี พร้อมกับพี่สาว และลูกไปทำไวน์ของตัวเองชื่อ คอนตินุม เอสเตท (Continuum Estate) มีขายในเมืองไทยเช่นกัน
โรเบิร์ต มอนดาวี เสียชีวิต เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2008 ในวัย 94 ปี ทิ้งตำนานไว้มากมาย...!
ไร่องุ่น To Kalon
สำหรับข่าวคราวความคืบหน้าของไวน์ โรเบิร์ต มอนดาวี รุ่นพิเศษ 3 ขวดดังกล่าว จะนำมาเสนอในโอกาสต่อไป