“ฮ้อข้าวต้มปลา” หอมหวน รัญจวนใจ ไร้ชูรส
ใครชอบ “อาหารทะเล” และ “ข้าวต้ม” ต้องชอบ “ฮ้อข้าวต้มปลา” เพราะ “ปลาสด” มาก สูตรความ “อร่อย” รุ่นอากงสืบทอดมาจนปัจจุบันประมาณกว่า 70 ปี “เฮียฮ้อ” เลือกปลาเองที่สะพานปลาทุกวัน มีขั้นตอนการปรุงระดับมืออาชีพ ทำให้น้ำซุปอร่อย ข้าวนุ่ม วัตถุดิบสดแพงแค่ไหนคนก็กิน
หมูหวานชวนชิม เคยต่อต้านการยืนต่อคิวยาวๆ พอรอคิวเข้าร้านอาหารมาโดยตลอด แต่ต้องยอม ฮ้อข้าวต้มปลา ที่เพื่อนกินรุ่นพี่เขาพาไปชิม
ข้าวต้มปลา หลังจากเสร็จพิธีงานวัดแถวๆนั้นบอกว่า อร่อย มากชิมแล้วรับรองเธอต้องติดใจ
ร้านข้าวต้ม เฮียฮ้อ อยู่หัวมุมถนนเจริญกรุง ตัดกับถนนจันทร์ มองเห็นผู้คนมาต่อคิวยาวไปตามโค้งถนนเพื่อรอโต๊ะว่าง วันนี้หมูหวานก็มายืนในคิวบ้าง
มองไปมองมาเห็นชาวต่างชาติที่นั่งรถทัวร์ท่องเที่ยวผ่านไปผ่านมา พากันชี้ชวนดูร้านข้าวต้มแห่งนี้ นึกถึงตอนที่เราไปเที่ยวต่างประเทศ
เห็นร้านอาหารไหนมีคิวยาว นึกอยากจะกระโดดออกจากทริป ไปต่อคิวด้วยซะเลย เพื่อพิสูจน์ว่าอาหารนั้น อร่อย ยังไง
ฮ้อข้าวต้มปลา แห่งนี้ หมูหวานชวนชิม เห็นทุกคนที่ยืนต่อคิว ไม่มีใครแสดงอาการร้อนใจ โมโหหิว แสดงว่าเป็นลูกค้าประจำ เนื่องจากร้านนี้เปิดมานานกว่า 70 ปีแล้ว
จุดเด่นของ ข้าวต้มปลา ร้านนี้คือ ปลาสด มาก รวมทั้ง อาหารทะเล อื่นๆ เช่น กุ้ง ปลาหมึกหอม หอยนางรม มิน่าลองครั้งแรกก็ติดใจในความ อร่อย ซะแล้วสิเรา
ภายหลังหม่ำข้าวต้มปลาที่ไหนก็ไม่อร่อย คิดถึงแต่ข้าวต้มร้านเฮียฮ้อ ร้านหาง่ายอยู่ตรงหัวมุมแยกไฟแดงพอดี มีสัญลักษณ์คือ ปลาตัวโตๆ เช่น ปลาเก๋า เต๋าเต้ย แขวนเรียงราย
แสดงสัญลักษณ์ชัดเจนว่าร้านนี้ขายอะไร ซึ่ง เฮียฮ้อ เขามีชื่อจริงว่า กฤช ปัญญาวิสุทธิกุล เขาจะมาปรากฏตัวส่งเสียงดังทักทายลูกค้า สร้างความเฮฮาอย่างอารมณ์ดีเสมอ
เที่ยงคืนครึ่งไปรอเลือกซื้อปลา ประมาณเกือบตีหนึ่งมีปลาและ อาหารทะเล อื่นๆมาลง เขาก็เลือกซื้อปลาตามขนาดที่ต้องการด้วยตัวเอง
มีทั้ง ปลาเก๋าแดง ปลาเก๋า ปลากะพงขาว ปลาเต๋าเต้ย ปลากุเลาหนวดยาว เพื่อนกินของหมูหวานเขาชอบปลาหมอทะเลมาก
หมูหวานชวนชิม เองก็ชอบเช่นกัน สดทุกปลาไม่อร่อยได้ไง ส่วน น้ำซุป ซดแล้วชื่นใจไม่รู้สึกว่าใส่ชูรสเลย
เฮียฮ้อ เล่าว่า เนื้อปลาจะอร่อยหรือไม่อร่อย ขึ้นอยู่กับขนาดตัวของปลาด้วยนะ เช่นปลาเก๋าทะเล ปลากะพง ต้องมีน้ำหนักตัว 20 กิโลกรัมขึ้นไปจึงจะได้มาตรฐาน
ส่วน ปลาหมอทะเล นั้นต้องมีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ปลาเต๋าเต้ยก็ต้องมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 1-2 กิโลกรัม
แหม พูดถึงเต๋าเต้ยแล้วคิดถึงคุณนายแดงเพื่อนกินเสียจริง หมูหวานชวนชิม กับเธอเคยมีอดีตปลาเต๋าเต้ยร่วมกัน พูดถึงทีไรหัวเราะจนน้ำลายเอ๊ยน้ำตาไหล
มือหั่นพริก หั่นสดๆ หั่นไปเรื่อยๆ ร้านนี้ทุกคนมีหน้าที่ไม่ซ้ำกัน
นอกจากบรรดาปลาทั้งหลายแล้ว ร้านนี้ยังมีอาหารทะเล อยางกุ้ง หอยนางรม ปลาหมึก อีกด้วย
หมูหวานชวนชิม ชอบหอยนางรมร้านนี้มาก เวลาเอามาทำ ข้าวต้มหอยนางรม ความสดของวัตถุดิบทำให้ ข้าวต้ม มีความหอมกรุ่นเคี้ยวละมุนลิ้นจริงๆ
น้ำซุป ข้าวต้ม หอมกรุ่น และใช้ข้าวอย่างดี วัตถุดิบที่ใส่ไปดีและสด ร้านนี้เขาใช้ข้าวหอมมะลิเม็ดสวย แม้จะเป็นข้าวต้มปลา แต่พี่น้องชาวมุสลิมควรระวัง
เพราะเขาใช้น้ำซุปกระดูกหมู ผสมผสานกับหัวกุ้งต้มจนหอมหวนรัญจวนใจ ไร้ชูรส หมูหวานชวนชิม สั่ง ข้าวต้มปลาหมอทะเล
และ ยำปลาเก๋า โอ้โหรสชาติยำเขาเด็ดสะระตี่โดนใจสุดๆ มีทั้งกุ้งแห้ง กระเทียมเจียว บะเต็ง ขึ้นฉ่าย ตั้งฉ่าย ข่าป่น ต่างจาก เนื้อปลาเก๋าลวกจิ้ม จะไม่มีรสจัดจ้านต้องพึ่งน้ำจิ้มรสแซ่บ
ไปอีกครั้งหมูหวานสั่งข้าวต้มรวมมิตรทะเล ราคาชามละ 200 บาท เพราะเลือกไม่ได้ว่าจะเอากุ้ง ปลา ปลาหมึก แต่ข้าวต้มทุกชามเขาจะใส่บะเต็งมาให้อยู่แล้ว
นี่คือเสน่ห์ที่ชวนหลงใหล ปลาหมึกเขาชิ้นใหญ่เคี้ยวหนึบ ส่วนกุ้งตัวใหญ่เด้งดึงตามแบบที่หมูหวานปลื้มเลยทีเดียว ใครจะสั่งข้าวต้มปลาเต๋าเต้ย(ชามละ 400 บาท)
หรือสั่งเกาเหลาเต๋าเต้ย (500 บาท)ทางร้านก็พร้อมเสิร์ฟนะจ๊ะ หรือจะสั่งเนื้อปลามากินกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวปรุงพิเศษสูตรของทางร้านก็ได้นะ
เพื่อนกินหมูหวานแนะว่าที่เด็ดสุดในร้านก็คือน้ำจิ้มที่เป็นพริกสีแดงๆ หรือเรียกว่าพริกน้ำส้มนั้นคือไฮไลท์
หากต้องการปลากะพง, ปลาเก๋า, ปลากุเลา , ปลาหมอ เลือกส่วนเนื้อ ส่วนหัว ไข่ปลา ฯลฯ ก็สั่งได้ตามใจชอบเลยนะคะ หมูหวานชวนชิม ขอยกให้ร้านนี้อยู่ในดวงใจตลอดกาล
รสชาติเต้าหู้แท้ๆ ทำแบบมันฝรั่งทอด ใครชอบเต้าหู้ลองสั่งมาเคี้ยวเล่นดูก็ได้ ส่วนหมูหวานไม่ชอบเพราะรสชาติแปลกๆ บอกไม่ถูก
