เปิดกระเป๋า "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พกพาสิ่งใดติดตัว

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 8 ผู้ชายที่ดูธรรมดาๆ อบอุ่น มีรอยยิ้มบางๆ มาเยือนออฟฟิศเนชั่น พร้อมทีมงานอีกสามคน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

กระเป๋าที่เขาสะพาย ทำจากของเหลือใช้ ป้ายไวนิลหาเสียง ที่เก็บมาดีไซน์ตัดเย็บใหม่ เป็นรูปหน้ายิ้มอย่างเปิดเผยของผู้ชายที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี

ว้าว ! ใครเห็นเป็นต้องทักว่า กระเป๋าแบบนี้มีแจกมีขายไหม...เพราะดูสะดุดตา

 

ชัชชาติ รีบตอบว่า มีเฉพาะทีมงานไม่กี่คน เพราะการลงแข่งตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. มีกติกาว่า ห้ามแจกของ

ถ้าอย่างนั้นในกระเป๋าของผู้ชายที่รักการวิ่ง และขี่จักรยานตั้งแต่ตี 4 ทุกๆ วัน ใส่อะไรไว้บ้าง  

ชัชชาติ ยิ้ม แล้วบอกว่า มีของใช้ยังชีพเล็กน้อย เผื่อไว้เวลานั่งรถไฟฟ้าไปโน้นไปนี่ไอแพด แว่นตา เพราะแก่แล้ว ที่ชาร์ตแบตฯ แอลกอฮอล์วันนี้ลืม กระเป๋าสตางค์ ใส่ไว้ในนี้เพราะกลัวร่วงเวลาเดินหาเสียง หน้ากากอนามัยสำรอง น้ำขวดเล็ก ขวดใหญ่ ปากกาไว้เซ็นต์เวลาหาเสียง และเครื่องรางเป็นลูกแก้วธรรมดา

 

“กระเป๋าที่ผมถือทำจากป้ายไวนิลในชุมชนที่ใช้หาเสียง ตอนนี้เก็บมาหมดแล้ว เอามาเย็บเป็นกระป๋า เพื่อไม่ให้เป็นขยะ ผลิตออกมาใช้เอง 10-20 ใบ เพราะหาเสียงแจกของไม่ได้ แต่ปรากฏว่ามีคนอยากได้เยอะ”

เรื่องกระเป๋าไวนิล พิมพ์ใบหน้าท่านชัชชาติยิ้มกว้างอย่างเปิดเผย เขาเลือกใช้ธีมสีเขียว เพราะต้องการสื่อเรื่องสิ่งแวดล้อม และความหวัง

“กรีนในความหมายผมเป็นความหวัง และสี กทม.คือ สีเขียว เป็นสีที่คนไม่ค่อยใช้เยอะ และเข้ากับธีมเรา

แต่บางเรื่องผมก็เป็นพวกมือใหม่ อย่างป้ายหาเสียง ผมโทรไปถามเพื่อนพรรคเพื่อไทยที่รู้จักกันว่า สามารถพิมพ์ป้ายถูกๆ ได้ที่ไหน เขาก็แนะนำมา และไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลยกับพรรคเพื่อไทย อย่าเอามาเป็นประเด็น พิมพ์ที่เดียวกัน ไม่ได้เกี่ยวกับนโยบาย” ชัชชาติ เล่า และย้ำว่า  

“ผมสมัครในนามอิสระไม่ยุ่งกับใคร ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ให้ดูที่ตัวผม เมื่อวานผมไปลงพื้นที่ มีคนนึกว่าผมอยู่เพื่อไทยแล้วบอกว่าเชียร์เต็มที่

ผมต้องรีบแก้บอกว่าผมลงอิสระ ผมไม่อยากเอาเปรียบชาวบ้านให้เลือกผม เพราะผมอยู่เพื่อไทย

เพื่อว่าเขาจะได้ตัดสินใจ จะเลือกหรือไม่เลือก เราต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ต้องซื่อสัตย์ทุกเวลา แม้คนจะไม่เห็น ก็ต้องซื่อสัตย์”

ยิ่งเมื่อมีคนถามท่านชัชชาติว่า คนที่ดูไบ เคยชวนให้ลงในนามพรรคไหม

“ไม่มีครับ ไม่มีเลย ผมประกาศไปเมื่อ 2 ปีครึ่งว่า ผมขอลงอิสระ ซึ่งคนในพรรคเพื่อไทยด่าผมหลายคนว่าลืมบุญคุณ ยืนยันว่าเราทำถูกแล้ว 

ปฎิเสธไม่ได้ว่า เราก็เกิดจากเพื่อไทย ถ้าไม่มีเพื่อไทยวันนี้ ก็ไม่มีผมในการเมือง แต่นาทีนี้เราอิสระจริงๆ ผมมีเพื่อนทุกพรรค ไม่มีศัตรู ในอนาคตใครมาร่วมงานด้วย ก็ต้องทำงานกับเขาได้”