ตลาด ‘นาฬิกาหรู’ ในจีนสุดบูม ‘Longines’ มาแรงอันดับ 1
ตลาด “นาฬิกาหรู” ในจีนกำลังเติบโตสุดๆ ทั้งสินค้ามือหนึ่งและมือสอง โดยเฉพาะนาฬิกาแบรนด์ “Longines” ขึ้นแท่นความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง แซงหน้า “ROLEX” ในไตรมาสที่ 3
Key Points:
- “Longines” คว้าอันดับหนึ่ง “นาฬิกาหรู” ขวัญใจชาวจีน โดยเป็นผลสำรวจจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ของจีนในไตรมาสที่ 3 แต่ใน 10 อันดับแรกกลับไม่มีแบรนด์ดังอย่าง ROLEX
- ไตรมาสที่ 3 ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค เนื่องจากมีเทศกาล QiXi หรือวันวาเลนไทน์ของจีน ที่เป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- ไม่ใช่แค่สินค้ามือหนึ่งเท่านั้น แต่ความนิยมในนาฬิกาหรูของชาวจีนใน “ตลาดมือสอง” ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่จะได้รับส่วนลดพิเศษ
ต้องยอมรับว่า “นาฬิกาหรู” เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพราะนอกจากใช้งานได้ทนทานยาวนานแล้ว ยังสามารถเก็บไว้เก็งกำไรได้อีกด้วย เนื่องจากบางรุ่นเมื่อกาลเวลาผ่านไปก็จะกลายเป็นรุ่นหายากหรือแรร์ไอเท็มที่มีราคาสูงขึ้นหลายเท่า
หนึ่งในตลาดนาฬิกาหรูที่กำลังเติบโตสูงก็คือ “จีน” โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 3 ของปี ซึ่งเป็นไตรมาสสำคัญในการกระตุ้นยอดขาย โดยในปีนี้ ตลาดจีนได้จัดอันดับแบรนด์นาฬิกาและเครื่องประดับสุดหรู 10 อันดับแรกที่ได้รับความนิยมของผู้บริโภคชาวจีนในไตรมาสที่ 3 ออกมา และปรากฏว่าอันดับหนึ่งเป็นของ “Longines” ส่วนแบรนด์ดัง “ROLEX” กลับไม่ติด 10 อันดับแรก
- “Longines” นาฬิกาหรูประวัติยาวนานกว่าศตวรรษ
Longines หรือ Compagnie des Montres Longines, Francillon S.A. เป็นแบรนด์นาฬิกาหรูชื่อดังจาก “สวิตเซอร์แลนด์” ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก นอกจากดีไซน์ที่หลากหลาย สวยคลาสสิก มีความทันสมัย มีความทนทานทำให้คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุน มีความแม่นยำมากจนถูกนำไปใช้จับเวลาในการแข่งขันขี่ม้า การแข่งรถ และสกีอัลไพน์ ที่สำคัญๆ แล้ว ยังมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจอีกด้วย
จุดเริ่มต้นของ Longines มาจากการก่อตั้งของ ออกุสเต อากัสซิซ (Auguste Agassiz) ผู้ผลิตนาฬิกาในสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี 1832 โดยใช้ชื่อบริษัทว่า Raiguel Jeune & Cie ต่อมาในปี 1852 ออกุสเต พาหลานชายของเขา แอร์เนสต์ ฟรังซิลลอง (Ernest Francillon) เข้ามาช่วยทำธุรกิจ ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ที่มีความเข้าใจในอุตสาหกรรมการผลิตเป็นอย่างดี
โดย “แอร์เนสต์” มีหน้าที่ตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ของ Longines หลายอย่าง ตั้งแต่การก่อตั้งโรงงานผลิตแห่งแรกเมื่อปี 1867 ในบริเวณพื้นที่ทางตอนใต้ของ Saint-Imier ที่รู้จักกันในชื่อ Es Longines และเมื่อ ออกุสเต เสียชีวิตลงในปี 1877 แอร์เนสต์ก็ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งสำคัญในบริษัท
ต่อมาแอร์เนสต์ได้แต่งตั้งวิศวกรมากความสามารถ ฌักส์ ดาวิด (Jacques David) ให้ขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการด้านเทคนิคของ Longines หลังจากนั้นเขาถูกส่งไปร่วมงาน World's Fair ในปี 1876 ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา ก่อนจะกลับมาพร้อมรายงานยาว 108 หน้า เกี่ยวกับแนวคิดในการผลิตนาฬิกาเชิงอุตสาหกรรมของสหรัฐ ทำให้เขาและ Longines กลายเป็นผู้บุกเบิกการผลิตนาฬิกาเชิงอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นในปี 1880 แอร์เนสต์ได้จดชื่อนาฬิกาที่เขาผลิตว่า “Longines” ก่อนจะใช้โลโก้รูปนาฬิกาทรายติดปีกในปี 1889 ทำให้เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนที่เก่าแก่ที่สุดสำหรับแบรนด์นาฬิกาที่ยังใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้
ปัจจุบัน Longines เป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาหรูของสวิตเซอร์แลนด์เพียงไม่กี่แบรนด์ที่มีความแม่นยำมากที่สุด การันตีจากการได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ผลิตนาฬิกาอย่างเป็นทางการสำหรับสหพันธ์การบินนานาชาติ รวมถึงร่วมมือกับกองทัพเรือสหรัฐเพื่อผลิตนาฬิกาที่สามารถบอกทิศทางได้ เพื่อช่วยให้นักบินหรือนักเดินเรือคำนวณตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ได้แม่นยำ รวมถึงเป็นนาฬิกาจับเวลาสำหรับการแข่งขันกีฬานัดสำคัญ จึงไม่แปลกที่จะได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึง “จีน”
- เปิด 10 อันดับแบรนด์ “นาฬิกาหรู” สุดฮอตในตลาดจีน
สำหรับตลาดสินค้าแบรนด์หรู (Luxury Brand) ที่น่าสนใจในไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 ก็คือ ตลาดนาฬิกาหรูของจีน มีรายงานผลสำรวจของ Re-hub ถึงความนิยมแบรนด์นาฬิกาหรูของชาวจีน ผ่านข้อมูลการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ของแบรนด์ และการตอบรับของผู้บริโภค เช่น WeChat, Douyin, XiaoHongShu และ Weibo พบว่า “Longines” ได้รับความนิยมมากที่สุด ขณะเดียวกันกลับพบว่า “ROLEX” แบรนด์นาฬิกาสุดหรูระดับโลกไม่ติดอยู่ในการจัดอันดับครั้งนี้
โทมัส เปียโชด์ (Thomas Piachaud) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของ Re-hub ระบุว่า หลายแบรนด์พยายามดึงความสนใจจากผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ในภาพรวมดีขึ้นจากไตรมาสก่อน เพราะไตรมาสนี้มีเทศกาล QiXi (วันวาเลนไทน์ของจีน) ที่ผู้บริโภคนิยมซื้อของขวัญให้คนรัก ทำให้เป็นช่วงเวลากระตุ้นการตลาดที่สำคัญ
ดังนั้นการจะเอาชนะใจผู้บริโภคชาวจีนได้หรือไม่นั้น ก็ต้องวัดกันตรงช่วงนี้ แต่สิ่งที่เขามองว่าเป็นเรื่องน่าประหลาดใจก็คือ นี่อาจเป็นเพียงตลาดเดียวที่ ROLEX ไม่ติด 10 อันดับแรก เพราะอยู่ในอันดับที่ 12 ลงมาจากอันดับ 11 จากไตรมาสที่แล้ว
สำหรับแบรนด์นาฬิกาหรู 10 อันดับแรกที่ได้รับความนิยมจากชาวจีน ได้แก่
อันดับ 1 Longines
อันดับ 2 Tiffany & Co.
อันดับ 3 BVLGARI
อันดับ 4 OMEGA
อันดับ 5 Cartier
อันดับ 6 Jaeger-LeCoultre
อันดับ 7 Montblanc
อันดับ 8 Panerai
อันดับ 9 IWC Schaffhausen
อันดับ 10 De Beers
ที่น่าจับตามองคือ Longines ขยับขึ้นมา 2 อันดับ ส่วน Panerai ขึ้นมาถึง 8 อันดับ ถือว่าจีนเป็นอีกหนึ่งตลาดสำคัญที่เหล่านาฬิกาหรูสามารถสร้างเม็ดเงินจำนวนมากได้ และไม่ใช่แค่สินค้ามือหนึ่งเท่านั้น แต่ตลาดมือสองของนาฬิกาหรูในจีนก็คึกคักไม่แพ้กัน
ภาพจาก Re-hub
- ถึงเวลานาฬิกาหรูบุก “ตลาดมือสอง” ของจีน
ด้วยความที่ “นาฬิกาหรู” ได้รับความนิยมในจีนอย่างมาก โทมัสจึงเชื่อว่าตลาดของจีนมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น แม้แต่ตลาดสินค้ามือสอง เพราะผู้บริโภคเริ่มมองหานาฬิกามือสองมากขึ้น โดยเขาอ้างอิงจากผลสำรวจของผู้บริโภคที่มีรายได้สูงประจำปี 2022 พบว่าคนเหล่านี้ 49% หันมาสะสมนาฬิกาหรูเพิ่มขึ้น 23% จากปี 2021
ทั้งนี้ยังพบว่าผู้บริโภคมีความสนใจลงทุนในกลุ่มสินค้ามือสองราคาแพงมากขึ้น โดย 29% จากผู้ร่วมตอบแบบสำรวจมองว่าการซื้อ “นาฬิกาหรู” คือการลงทุนระยะยาว
อีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดนาฬิกามือสองในจีนได้รับความสนใจมากขึ้น เป็นเพราะผู้บริโภคอายุน้อยบางคนเห็นว่า นาฬิกาบางรุ่นราคาถูกกว่าสินค้ามือหนึ่ง ทั้งยังซื้อขายสะดวกผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ อย่าง HongBuLin หรือที่รู้จักกันในชื่อ Plum เพราะมีส่วนลดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะนาฬิกามือสองที่ราคาสูงกว่า 2,777 ดอลลาร์ หรือประมาณ 98,000 บาท เช่น นาฬิกา Cartier มือสอง มีส่วนลดมากถึง 53%
จากข้อมูลทั้งหมดข้างต้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ “นาฬิกาหรู” กลายเป็นสินค้าที่น่าจับตามองในตลาดเอเชียในปีนี้ โดยเฉพาะประเทศจีน โดยทั้งตลาดสินค้ามือหนึ่งและมือสองต่างก็มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และเป็นหนึ่งในธุรกิจที่น่าลงทุน หลังจากนี้ต้องติดตามต่อไปว่าในอนาคต “Longines” จะสามารถครองอันดับหนึ่งได้นานแค่ไหน ส่วน “ROLEX” จะขึ้นมาอยู่ใน 10 อันดับแรกของนาฬิกาหรูขวัญใจชาวจีนได้หรือไม่
อ้างอิงข้อมูล : Re-hub, Longines, Jing Daily, My Watch merchant และ Bob's Watches